ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

สอท. ลุยไม่เลิก! คืนเงินเหยื่อคอลเซนเตอร์ได้แล้ว 2 ล้านบาท

อาชญากรรม
2 พ.ค. 68
16:02
100
Logo Thai PBS
สอท. ลุยไม่เลิก! คืนเงินเหยื่อคอลเซนเตอร์ได้แล้ว 2 ล้านบาท
อ่านให้ฟัง
04:06อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กลุ่มผู้เสียหายเดินทางเข้ารับเงินซึ่งถูกมิจฉาชีพหลอก จาก ผบช.สอท. หลัง จนท.เปิดปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มเครือข่ายคอลเซนเตอร์ สามารถจับกุมผู้ต้องหา พร้อมอายัดเงินในบัญชี และนำเงินคืนผู้เสียหายตามโครงการ Money Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน

วันนี้ (2 พ.ค.2568) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตำรวจได้ดำเนินการกวาดล้างกลุ่มคอลเซนเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดได้มีผู้เสียหายเป็นอดีตข้าราชการบำนาญ เกษียณอายุมากว่า 15 ปี ที่ถูกผู้ก่อเหตุอ้างว่าโทรมาจากกรมวิชาการเกษตร หลอกให้โอนเงินไปเพื่อตรวจสอบบำนาญตกทอด เกี่ยวกับสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาล จากนั้นหลอกให้ผู้เสียหายเพิ่มเพื่อนใน LINE และสนทนาหลอกลวงจนผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินให้ผู้ก่อเหตุหลายครั้ง ต่อมาผู้เสียหายถูกบุคคลอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท. แจ้งว่าผู้เสียหายมีความเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า ให้ส่งเงินทั้งหมดที่มีอยู่มาตรวจสอบ ผู้เสียหายจึงโอนเงินไปรวมความเสียหายประมาณ 4,000,000 บาท ซึ่งกรณีนี้ ตำรวจสามารถดำเนินการอายัดเงินของผู้เสียหายได้ทัน 2,000,000 บาท

ส่วนอีกกรณี พบผู้เสียหายอาชีพพนักงานบริษัทที่ต้องการหารายได้เสริมทางออนไลน์ โดยการทำภารกิจเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ แต่ถูกมิจฉาชีพหลอกเงินจำนวนหลายหมื่นบาท ซึ่งวิธีการหลอกคือกลุ่มมิจฉาชีพ อ้างว่าจะชวนลงทุนเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ แต่จะต้องให้ผู้เสียหายชำระเงินค่าเสื้อผ้ากับเว็บไซต์ก่อน เป็นจำนวนเงินประมาณ 36,000 บาท และเมื่อทางเว็บไซต์ส่งสินค้าให้ลูกค้าแล้วลูกค้าจึงจะได้รับเงินคืนและจะเป็นเงินที่ได้กำไรจากเงินต้น จนภายหลังทราบว่าถูกหลอกเพราะไม่ได้รับเงินต้นคืนจึงแจ้งตำรวจ ซึ่งตำรวจสามารถอายัดเงินคืนได้ทัน 5,000 บาท เบื้องต้น ตำรวจได้นำเงินส่งคืนใหัผู้เสียหายทั้ง 2 คน ตามจำนวนที่สามารถอายัดมาได้

ด้าน ผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตข้าราชการบำนาญ ระบุว่า มิจฉาชีพอ้างว่าบัญชีของตัวเองเป็นบัญชีม้า จึงกังวลว่าจะถูดอายัดเงินทั้งหมดในบัญชี ตัวเองจึงหลงเชื่อ กระทั่งโอนเงินให้มิจฉาชีพ 4 ครั้ง รวมมูลค่ากว่า 4,000,000 บาท กระทั่งรู้สึกเอะใจเนื่องจากเมื่อพยายามขอเงินคืนกลับถูกมิจฉาชีพบ่ายเบี่ยง จึงเข้าแจ้งความ

ด้าน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ขณะนี้พฤติการณ์หลอกลวงของมิจฉาชีพ ปรับเปลี่ยนอยู่เสมอ ส่วนตัวจึงอยากแจ้งเตือนประชาชนไม่ให้หลงเชื่อโอนเงินให้กับคนแปลกหน้า สำหรับฐานปฏิบัติการของกลุ่มมิจฉาชีพยังคงอยู่ในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งหลังจากรัฐบาลมีการตัดอินเทอร์เน็ต และ ไฟฟ้า ก็ทำให้ในช่วงแรกกลุ่มมิจฉาชีพมีจำนวนลดลงแต่ขณะนี้ก็เริ่มพบว่า กลุ่มคอลเซนเตอร์กลับมาเพิ่มจำนวนขึ้นแต่ก็อยู่ในระดับเพดานที่ไม่สูงเทียบเท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการปราบปรามทุกรูปแบบ

ทั้งนี้ มีเพียงเงินจำนวนนี้เท่านั้นที่ผู้เสียหายตามข่าวได้รับคืน ยังไม่มีรายงานการคืนเงินให้ผู้เสียหายรายอื่นทั้งสิ้น ให้ระวังมิจฉาชีพนำข่าวไปใช้ในทางที่ผิด

อ่านข่าวอื่น :

โยธาฯ มั่นใจแบบจำลองฯ พิสูจน์สาเหตุตึก สตง.ถล่มได้ใน 90 วัน

ผู้สมัคร สท.ลำพูน กระบะพลิกคว่ำตกร่องน้ำลึก 3 เมตร เสียชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง