ความคืบหน้ากรณีอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโครงสร้าง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เข้าเก็บหลักฐานเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุ
โดยเก็บตัวอย่างแท่งปูนสภาพสมบูรณ์ ที่เจาะจากเสาปูนผนังลิฟต์ และเหล็กเส้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 7.5 ซม. สูง 20 - 30 ซม. ไม่ต่ำกว่า 3 ชิ้น ทั้งหมดส่งไปตรวจสอบมาตรฐานของโครงสร้างในห้องปฏิบัติการหาค่ากำลังอัดประลัย (Ultimate Strength) หากต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 500 กก. ต่อ ตร.ซม.จะถือว่าตกเกณฑ์
- พบ 5 ร่างโซน D ใต้ซากตึก สตง.ถล่ม เร่งเปิดพื้นที่โซน B - C
- DSI-โยธาฯ จ่อเปิดเอกสารตึก สตง.ถล่ม 121 ลัง สอบวิศวกรวันนี้ 8 คน
- อัพเดท ตึกสตง.ถล่ม ผู้เชี่ยวชาญเข้าพื้นที่จุดปล่องลิฟต์และเสาด้านหน้า
ส่วนการรื้อซากโครงสร้างอาคาร และการค้นหาผู้สูญหาย การค้นหายังอยู่ที่ทางเชื่อมโซน D กับอาคารจอดรถ ที่คาดว่าจะมีผู้ติดค้าง
ล่าสุดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ สรุปยอด เวลา 18.00 น.ของวันที่ 3 พ.ค.2568 จำนวนผู้ประสบเหตุ 103 คน แยกเป็น ผู้เสียชีวิตที่ยืนยันอัตลักษณ์บุคคลเบื้องต้น 86 คน ผู้บาดเจ็บ 9 คน และยังมีผู้สูญหาย 8 คน
สอบ "สมชาย" รับแก้ไขแบบก่อสร้างทำตามขั้นตอน
ขณะที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ คดีนอมินี เปิดเผยว่า ได้เรียกนายสมชาย ทรัพย์เย็น พยานรายสำคัญ ซึ่งเป็นวิศวกรผู้จัดการโครงการ ภายใต้กิจการร่วมค้า PKW ในฐานะผู้ควบคุมงาน ซึ่งปรากฏชื่อในการลงนามให้ปรับแก้ Core Lift เข้าให้ข้อมูล
นายสมชาย ได้อธิบายว่า การลงนามในเอกสารการควบคุมงานก่อสร้าง (แก้แบบตึก สตง.) เป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ แต่ไม่ได้ถือเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด และผู้ว่าจ้างก็ต้องรับทราบเพื่ออนุมัติ ให้ก่อสร้างตามแบบที่ปรับแก้ไข
นายสมชายยอมรับว่า รู้รายละเอียดเอกสารแก้ไขแบบทั้ง 9 ฉบับ ส่วนการแก้ไขผนังปล่องลิฟต์ (Core Lift) และผนังรับแรงเฉือน (Core Wall) ทุกคนภายใต้สัญญาโครงการฯต้องรับรู้รับทราบหมด
อ่านข่าว : อัพเดท ตึกสตง.ถล่ม ผู้เชี่ยวชาญเข้าพื้นที่จุดปล่องลิฟต์และเสาด้านหน้า
อัพเดท ตึกสตง.ถล่ม ผู้เชี่ยวชาญเข้าพื้นที่จุดปล่องลิฟต์และเสาด้านหน้า
โยธาฯ มั่นใจแบบจำลองฯ พิสูจน์สาเหตุตึก สตง.ถล่มได้ใน 90 วัน