10 มิ.ย.นี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คาดจะประกาศผลเลือกตั้ง "นายกเทศมนตรี-สมาชิกสภาเทศบาล" ตาม พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ซึ่งกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้งตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว มีเหตุอันควรเชื่อว่าผลการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ให้ประกาศผลการเลือกตั้งนั้นภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้งได้
แม้ว่าช่วงก่อนและหลังวันเลือกตั้งในสนามการเมืองท้องท้องถิ่นจะมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นกรณี "ลูกพีช" สมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) ตำบลธัญบุรี ทีมธัญบุรีก้าวหน้า ลูกชายของ "นายกเบี้ยว" กฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถปาดหน้าลุง-ป้าจนเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
ครั้งนั้น "ลูกพีช" สมิทธิพัฒน์ และพวก ถูกดำเนินคดีอาญา 4 ข้อหา คือ 1.กรณีลุง ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส, 2.กรณีป้า ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ , 3.ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และ 4.ทำให้เสียทรัพย์ นอกจากนี้ ยังถูกดำเนินคดีจราจร 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ขับรถโดยประมาทเป็นอันตรายกับบุคคลอื่น, 2.ใบขับขี่หมดอายุ และ 3.นำรถที่ยังไม่ได้จดทะเบียนมาใช้ ซึ่ง "ลูกพีช" สมิทธิพัฒน์ รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ปรับข้อหาละ 2,000 บาท รวม 6,000 บาท
เหตุการณ์นี้ทำให้คอการเมืองวิเคราะห์กันว่า "บ้านใหญ่หลีนวรัตน์" ต้องเจอศึกหนักหลายด้าน นอกจากจะมีการปลุกกระแสไม่เอาผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ และอยากลองของใหม่ในพื้นที่เมืองปทุม แต่ "นายกเบี้ยว" กฤษฎา ก็ไม่ถอย นำทีมธัญญบุรีก้าวหน้า หาเสียงสุดซอย เพื่อกลบกระแสด้านลบที่เกิดขึ้นกับ "ลูกพีช" สมิทธิพัฒน์ และด้วยอยู่ในสนามการเมืองท้องถิ่นมานานกว่า 30 ปี ผลการเลือกตั้งบ้านใหญ่หลีนวรัตน์ จึงสามารถรักษาแชมป์ไว้ได้
โดย "น้ำอ้อย"ยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ มีคะแนนอันดับ 1 ขึ้นแท่น ว่าที่นายกเทศ มนตรีตำบลธัญบุรี ส่วนบุตรชาย "ลูกพีช" สมิทธิพัฒน์ ฝ่าด่านได้รับเลือกเป็น (ส.ท.) สมาชิกสภาเทศบาล ขณะที่คะแนนผู้ท้าชิง "สมชาติ ค้าทันเจริญ" สาย "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.อ.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ในครั้งนี้พ่ายบ้านใหญ่หลีนวรัตน์ไปกว่า 400 คะแนนเท่านั้น สนามนี้ในครั้งหน้า "กลุ่มคนรักปทุม" ยังคงทิ้งไม่ได้และอาจต้องทำพื้นที่ต่อ
การเลือกตั้งจบแล้ว แต่ศึกวิวาทะหน้าเพจเฟซบุ๊ก ยังไม่จบ เมื่อ "ฟลุค" มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.เขต 5 ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ประกาศชกข้ามรุ่น ขึ้นข้อความหน้าเพจ โพสต์ข้อความ "ขอทิ้งท้าย ว่ากูไม่กลัวไม่กลัวมึง ไอ้ J ..."
ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกชายของนายกเบี้ยว ใช้สื่อโซเชียลท้ารบขึ้นมาลอย ๆ แต่ก่อนหน้านี้ได้ทิ้งรัว ๆ ไว้หลายข้อความ
"ใต้เข็มขัด ใต้กฎกติกา อิทธิพลหรือเปล่า ไม่ทราบ วางตัวจะเป็นใหญ่ในปทุม หรือเปล่าพี่น้อง ปทุมมีอะไรดีขึ้นบ้าง"
หรือ "รถรางทั่วปทุม สนามบอลเทียบเท่าฟีฟ่า ศูนย์พักพิงสุนัข ศูนย์การแพทย์ทั่วจังหวัด เห็นมีแต่น้ำท่วม"
"วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซื้อมาทำไม กระทรวง หรือโรงพยาบาลรัฐทั่วจังหวัดยังฉีดไม่หมดเลย วัคซีนเหลือจนต้องแช่ถังใส่น้ำแข็ง งบประมาณทับซ้อน หรือป่าวครับ เรื่องของวัคซีน"
"ฟลุค" มนัสนันท์ เคยเจอขุดประวัติประเด็นดรามาในอดีต เมื่อครั้งเป็นเยาวชนในวัย 15 ปี คดีทำร้ายร่างกาย แต่ทุกอย่างยุติลงแล้ว ปัจจุบัน สส.มนัสนันท์ มีอายุ 34 ปี ขณะที่น้องชาย "ลูกพีช" สมิทธิพัฒน์ ว่าที่สมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) คนใหม่มีอายุ 28 ปี
เส้นทางนักการเมืองท้องถิ่นของ 2 พี่น้อง "ฟลุค" มนัสนันท์ และ "ลูกพีช" สมิทธิพัฒน์ ผลผลิตบ้านใหญ่ "หลีนวรัตน์" เมืองปทุมธานี ภาคกลาง แม้จะอยู่คนละถิ่นกับ ลูกกอล์ฟ หรือ สจ.กอล์ฟ "สิรดนัย พลายด้วง" สมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) เขต 7 จ.สงขลา วัย 28 ปี ลูกชาย "โกถึก" สมยศ พลายด้วง สส.เขต 3 สงขลา พรรคประชาธิปัตย์
แต่จุดเริ่มต้นในการเข้าสู่แวดวงการเมืองกลับไม่ต่างกัน คือ เป็นทายาทตระกูลการเมือง เติบโตจากเด็กในพื้นที่เพราะพื้นเพเป็นคนท้องถิ่นโดยตรง และที่สำคัญที่บ้านมักจะคลุกคลีกับแวดวงคนการเมืองมาก่อน ทั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ มีอิทธิพลในพื้นที่
"เด็กรุ่นใหม่ใจอาสา พร้อมเข้ามาพัฒนาบ้านเมือง" สโลแกนประจำตัวของ สจ.กอล์ฟ "สิรดนัย" เขากลายเป็นที่รู้จักเพียงข้ามคืน หลังส่งลูกน้องไปรุมทำร้าย ด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผบ.หมู่ กก.ตชด. 43 ซึ่งทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ในหน่วยเลือกตั้งที่ 7 ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เหตุไม่พอใจที่ถูกห้ามถ่ายรูป ในหน่วยเลือกตั้ง ขณะไปลงคะ แนนกับภรรยา เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา
เป็นเหตุให้ สิรดนัย และลูกน้องอีก 6 คน ถูกแจ้ง 2 ข้อหาหนัก คือ ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานการปฏิบัติ การตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยใช้อาวุธ, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะเหตุที่จะกระทำหรือได้กระทำการตามหน้าที่ โดยเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลาที่ จ.307/2568 และ จ.308-จ.313/2568
ถือเป็นคดีดัง จนทำให้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องมอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ บินลงใต้เร่งรัดติดตามคดีดังกล่าว
และหากไม่มีกล้องวงจรปิด เป็นหลักฐานยืนยันชัดเจน ถึงการกระทำ ความผิด ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในพื้นที่คงจางหายไปเหมือนหลายกรณีที่เคยเกิดขึ้น คดีนี้แม้ผู้ต้องหาทั้งหมดจะรับสารภาพ เนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน ดังนั้นในชั้นสอบสวนทางพนักงานสอบสวน จึงคัด ค้านการประกันตัว ทั้งหมดจึงถูกคุมขังไว้ที่ สภ.เมืองสงขลา เพื่อรอส่งศาลจังหวัดสงขลาต่อไป
"สิรดนัย" เป็นลูกชาย "โกถึก" สมยศ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ และ สส.สงขลาสมัยแรกในปี 2566 โดยสามารถเอาชนะอดีต สส.เก่า 2 สมัยอย่าง "ไพร พัฒโน" จากพรรคภูมิใจไทย และ "พยม พรหมเพชร" อดีต สส. 1 สมัย จากพรรครวมไทยสร้างชาติมาได้
ในอดีต "โกถึก" สมยศ คลุกคลีกับคนการเมืองในค่ายสีฟ้ามาหลายช่วง เคยอยู่ในทีมทำงานของ "นิพนธ์ บุญญามณี" อดีต สส.สงขลา และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา นอกจากนี้เคยช่วยงาน อดีตนายกฯชาย "เดชอิศม์ ขาวทอง" สส.พรรคประชาธิปัตย์ และ "ไพเจน มากสุวรรณ์" อดีตนายกองค์ การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาอีกด้วย
ขณะที่เส้นทางการเมืองของลูกชาย แม้จะเป็นอดีตรองประธานสโมสรฟุตบอลนครศรียูไนเต็ด และที่ปรึกษากรรมาธิการตำรวจ แต่ได้เดินตามรอยบิดา ด้วยการลงสู่สนามการเมืองท้องถิ่นในนาม "ทีมสงขลาพลังใหม่" ลงสมัครสมาชิกสภาจังหวัดและได้รับเลือกในสมัยแรกเช่นกัน
ทั้ง 3 คนจาก 2 ตระกูล ทายาททางการเมืองจากสนามระดับท้องถิ่น ที่กำลังทยานขึ้นสู่ระดับชาติ จึงน่าจับตาว่า พวกเขาจะทำหน้าที่เป็นตัว แทนของประชาชนได้จริงหรือไม่
อ่านข่าว : ชั้น 14 - ฮั้ว สว.เกมต่อรอง 2 ขั้วสีทางการเมือง "แดง-น้ำเงิน"
ครม.อนุมัติ G-token เครื่องมือระดมทุนรูปแบบใหม่
เสียงเตือนดัง ทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับใหญ่ 5 จังหวัด