จากกันด้วยดีหรือไม่ ไม่มีใครรู้ แต่ก่อนหน้าที่ "กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์" สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชนจะตัดสินใจแถลงข่าวลาออกจากพรรคฯ แต่เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา "ยอดชาย พึ่งพร" สส.ชลบุรี เขต 9 พรรคประชาชน กล่าวพาดพิงระหว่างปราศรัยหาเสียงช่วย ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองหนองปรือ กรณีพรรค การเมืองหนึ่ง ยื่นข้อเสนอให้เงิน 55 ล้านบาท พร้อมเงินเดือนอีกเดือนละ 250,000 บาท รถตู้ยี่ห้อหรูอีก 1 คัน เพื่อให้ สส. ย้ายไปอยู่ในสังกัดพรรคนั้น
แม้จะไม่มีการระบุชื่อว่าเป็นใคร แต่วันนี้(13 พ.ค.) ระหว่างการแถลงข่าวลาออกของ กฤษฎิ์ ยอมรับว่า ลำบากใจที่จะมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน เพราะไม่อยากทำงานร่วมกับพรรคอื่น แล้วสังกัดอยู่ในพรรคเดิม อย่างนั้นคือ "งูเห่า" ชัดเจน ที่ทำงานกับพรรคเดิมไม่ได้ เพราะอุดมการณ์และแนวทางการทำงานต่างกัน และกล้าที่จะออกมาพูดว่าขอให้พรรคขับออก เนื่องจากได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว
ท่ามกลางการแถลงข่าวได้มีเสียงตะโกนจากผู้ที่ร่วมรับฟังว่า "แน่จริงก็ลาออก ลองลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยไม่สังกัดพรรคที่คุณอยู่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ที่จะให้คุณมาชุบตัว คุณเป็นงูเห่า"
หากพลิกประวัติของตระกูล "ชีวะธรรมานนท์" พบว่า เป็นคหบดีและทำธุรกิจผู้นำด้านการผลิตพาเลทไม้ และบรรจุภัณฑ์ไม้ อันดับต้นๆของประเทศไทย และเป็นหนึ่งในผู้นำเข้าไม้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยการนำเข้าไม้จากทั่วทุกมุมโลก บิดาของ แพร หรือ กฤษฎิ์ คือ พรเทพ ชีวะธรรมานนท์ หรือ "เฮียย้ง" ประธานบริษัทพรเทพอินเตอร์กรุ๊ป
"ถามว่า กอบโกยอะไร ..ตั้งแต่เลือกตั้งวใน จ.ชลบุรี มีใครทุ่มกำลังทรัพย์ ตั้งสำนักงาน ซื้อสำนักงานเพื่อให้ประชาชนขี่มอเตอร์ไซค์มาพบปะได้สะดวก ให้เด็กๆ ได้เรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอม เงินภาษีที่ประชาชนที่โอนให้กับพรรค ...ไม่เคยได้ใช้สักบาท ไม่เคยตัดเงินจากพรรคมาทำกิจกรรมในพื้นที่" คำชี้แจงของ สส.กฤษฎิ์ หลังถูกกล่าวหาว่าเข้ามากอบโกย
กฤษฎิ์ บอกว่า เรื่องความหวังของประชาชน ตนเองเข้าใจ เพราะเคยมีความหวังว่าพรรคจะเป็นความหวังเดียวที่เปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วกลับผลักดันอะไรไม่ได้ ฉะนั้นความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงเป็นเหตุให้จ้องทำหนังสือยุติบทบาทกับพรรค
ตามประวัติก่อนจะเข้าสู่สนามการเมือง กฤษฎิ์ ช่วยครอบครัวทำงานตั้งแต่ยังเด็กๆ จนเรียนจบในระดับปริญญาตรีด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยศรีปทุม ชลบุรี และปริญญาโท MPA บริหารนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยบูรพา หลังเรียนจบและช่วยครอบครัวทำธุรกิจ จึงเข้าสู่แวดวงการเมือง เนื่องจากรู้จักกับ นิชนันท์ วังคะฮาต อดีตแกนนำแดงแหลมฉบัง และจิรวุฒิ สิงห์โตทอง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย และ “จูน” พลอยลภัสร์ สิงโตทอง ลูกสาวของจิรวุฒิมาก่อน
ต่อมาปี 2563 จิรวุฒิ ให้การสนับสนุนคณะก้าวหน้า ในนามหัวหน้ากลุ่มอนาคตชลบุรี โดยการส่งบุตรสาว "จูน" พลอยลภัสร์ สิงห์โตทอง ลงสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง
ในปี 2565 เมื่อพรรคเพื่อไทยเลือกส่ง "สรวุฒิ เนื่องจำนง" ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย จึงทำให้ จิรวุฒิ ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ "เสี่ยเฮ้ง" สุชาติ ชมกลิ่น แกนนำกลุ่มชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ และลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย ปี 2566 และสามารถเอาชนะสรวุฒิ และ "จิรวุฒิ" จึงได้เป็น สส.ชลบุรี สมัยแรก
โดย "จูน" พลอยลภัส ได้ชักนำให้ "แพร" หรือสส.กฤษฎิ์ เข้าสู่สนามการเมือง โดยสามารถเอาชนะ บ้านใหญ่ "คุณปลื้ม" สุกุมล คุณปลื้ม และ สมเจตน์ เกตุวัตถา "บ้านใหญ่บางพระ" พรรครวมไทยสร้างชาติ มาได้และได้ผงาดเป็น "บ้านใหญ่ศรีราชา"ขึ้นมาแทนที่
กฤษฎิ์ บอกว่า เป้าหมายสำคัญที่สุดของสส.เขตคือ การแก้ปัญหาในพื้นที่ การผลักดันเรื่องที่เป็นปัญหาในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ก็ไม่เคยได้รับการสนับ สนุน... มีการพูดไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพในสถานะทางเพศ มีการปล่อยข่าวว่า ตนเป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรค ทั้งการยุบพรรคประชา ชนในเขตต้องโทรมาหาทุกครั้งว่าเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่เวลาก็พิสูจน์แล้วว่าตนไม่ได้เป็นเช่นนั้น และเสียใจที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้
ส่วนอนาคตทางการเมืองนั้น ชัดเจนแล้วว่า กฤษฎิ์ จะย้ายเข้าไปสังกัดพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า แม้ว่าจะมีหลายพรรคจะเข้ารุมจีบก็ตาม
อ่านข่าว : เส้นทาง "ลูกพีช หลีนวรัตน์-สจ.กอล์ฟ พลายด้วง" ทายาทบ้านใหญ่
ชั้น 14 - ฮั้ว สว.เกมต่อรอง 2 ขั้วสีทางการเมือง "แดง-น้ำเงิน"
นักวิชาการ วิเคราะห์ขัดแย้ง เพื่อไทย-ภูมิใจไทย เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล?