เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2568 CNN รายงาน พิธีปล่อยเรือพิฆาตขนาด 5,000 ตันลำใหม่ ที่อู่ต่อเรือเมืองชองจิน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีเหนือ กลายเป็นหายนะเมื่อเรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงต่อหน้า "คิม จองอึน" ผู้นำสูงสุดของประเทศ
สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ รายงานว่าเรือเสียสมดุลระหว่างการปล่อยลงน้ำ เนื่องจากกลไกการปล่อยเรือทำงานผิดพลาด ทำให้ส่วนท้ายเรือเลื่อนลงน้ำก่อนกำหนด ส่วนหัวเรือติดค้างอยู่บนรางปล่อย ส่งผลให้ตัวเรือเอียงและบางส่วนของตัวเรือด้านล่างถูกบดขยี้
KCNA ระบุว่า สาเหตุเกิดจากความประมาทเลินเล่อและขาดความรับผิดชอบอย่างร้ายแรง ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงอุตสาหกรรมยุทโธปกรณ์ สถาบันวิจัยกลศาสตร์แห่งสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งรัฐ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีคิมแชก และสำนักออกแบบเรือกลาง
คิม จองอึน ซึ่งเข้าร่วมพิธีด้วยตนเอง แสดงความโกรธอย่างฉุนเฉียว เรียกอุบัติเหตุนี้ว่า "อาชญากรรมที่ไม่อาจยอมรับได้" และกล่าวว่าทำลายศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจของชาติในชั่วพริบตา ผู้นำสูงสุดสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทันที และขู่ลงโทษผู้รับผิดชอบในที่ประชุมใหญ่ของคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานในปลายเดือน มิ.ย. พร้อมกำหนดให้ซ่อมเรือให้แล้วเสร็จก่อนการประชุมดังกล่าว ซึ่งเหลือเวลาเพียง 40 วัน
การยอมรับความล้มเหลวต่อสาธารณะเช่นนี้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องธรรมดาสำหรับเกาหลีเหนือ ซึ่งมักปกปิดความผิดพลาดทางทหาร นักวิเคราะห์มองว่า การเปิดเผยนี้อาจสะท้อนความมุ่งมั่นของคิมในการพัฒนากองทัพเรือ และความมั่นใจว่าเขาจะแก้ไขปัญหานี้ได้ในที่สุด
เรือพิฆาตลำนี้ ซึ่งยังไม่มีการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการ มีขนาด 5,000 ตัน และเป็นหนึ่งในเรือรบที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ รายงานจากกองบัญชาการเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (JCS) โดยโฆษก อี ซองจุน ระบุว่า เรือลำนี้เอียงตะแคงอยู่ในน้ำหลังอุบัติเหตุ
นักวิเคราะห์ทางเรือ ซาล เมอร์โคกลิอาโน ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแคมป์เบลล์ ในนอร์ทแคโรไลนา กล่าวกับ CNN ว่า ความเสียหายจากอุบัติเหตุเช่นนี้อาจร้ายแรงถึงขั้นหายนะ เนื่องจากแรงกดที่ไม่สมดุลอาจทำให้ตัวเรือฉีกขาด ส่วน คาร์ล ชัสเตอร์ นักวิเคราะห์เรือจากฮาวาย วิเคราะห์ว่า ความเครียดจากอุบัติเหตุนี้อาจทำให้ตัวเรือบิดงอ เกิดรอยแตก หรือถึงขั้นหักที่กระดูกงู ขึ้นอยู่กับจุดที่รับแรงกดมากที่สุด
การซ่อมแซมเรือเผชิญความท้าทายใหญ่หลวง พล.ร.อ.คิม ด็อกกี อดีตนายทหารเกาหลีใต้ ให้สัมภาษณ์ CNN ว่า เกาหลีเหนือขาด "อู่แห้ง" หรือ Dry dock ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญสำหรับการต่อเรือและซ่อมเรือขนาดใหญ่ อู่แห้งสามารถเติมน้ำเพื่อให้เรือลอย หรือสูบน้ำออกเพื่อซ่อมแซมได้ง่าย แต่เกาหลีเหนืออาจไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกนี้ ทำให้การซ่อมเรือต้องทำในน้ำ ซึ่งยากและใช้เวลานาน คาดว่าการซ่อมอาจใช้เวลา 4-5 เดือน ซึ่งนานกว่ากำหนดของ คิม จองอึน มาก
สส.ยู ยองวอน นักวิเคราะห์กลาโหมเกาหลีใต้ เตือนว่า การเร่งปล่อยเรือเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ และการเร่งซ่อมอาจนำไปสู่ปัญหาเพิ่มเติมในอนาคต ชัสเตอร์เห็นด้วยว่า การซ่อมที่สมบูรณ์อาจใช้เวลาหลายเดือน ไม่ใช่สัปดาห์ตามที่คิมต้องการ
ปัญหานี้อาจเชื่อมโยงกับวิธีการปล่อยเรือ รายงานจาก 38 North ระบุว่า อู่ต่อเรือชองจินใช้วิธีปล่อยเรือด้านข้าง ซึ่งไม่เคยใช้มาก่อนในเกาหลีเหนือ เนื่องจากอู่ไม่มีรางลาดเอียงสำหรับปล่อยเรือท้ายลงน้ำตามปกติ การเลือกวิธีนี้จากความจำเป็นอาจนำไปสู่ความผิดพลาดทางเทคนิค KCNA ระบุว่า การเคลื่อนที่ของฐานไม่ประสานกัน ทำให้โครงรางปล่อยส่วนท้ายหลุดก่อน ส่งผลให้เรือเสียสมดุลและเสียหาย
อุบัติเหตุครั้งนี้ ถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งสำคัญสำหรับความพยายามของเกาหลีเหนือในการปรับปรุงกองทัพเรือ ซึ่งถือเป็นสาขาที่ด้อยพัฒนาที่สุดของกองทัพเมื่อเทียบกับกองทัพบกและกองทัพอากาศ เรือพิฆาตลำนี้เป็นเรือรบผิวน้ำลำที่ 2 ที่เปิดตัวในรอบ 1 เดือน ต่อจากเรือพิฆาต "ชเว ฮยอน (Choe Hyon)" ขนาด 5,000 ตัน ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่เมืองนัมโพ ทางชายฝั่งตะวันตก

เรือพิฆาตชเว ฮยอน
เรือพิฆาตชเว ฮยอน
คิม จองอึน ยกย่อง ชเว ฮยอน ว่าเป็นเรือรบแห่งยุคใหม่ที่ติดตั้งอาวุธทรงพลังที่สุด และจะเริ่มปฏิบัติการในต้นปี 2569 รายงานจาก KCNA ระบุว่า คิมดูแลการทดสอบขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียง ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน และปืนอัตโนมัติบนเรือลำนี้ด้วยตนเอง
ชเว ฮยอน ถือเป็นก้าวสำคัญจากเรือรบสมัยโซเวียตที่ล้าสมัยซึ่งครองกองทัพเรือเกาหลีเหนือ (Korean People’s Navy) มานาน นักวิเคราะห์ตะวันตกระบุว่า การออกแบบเรืออาจมีส่วนคล้ายเรือรบรัสเซีย โดยเกาหลีใต้มองว่า รัสเซียอาจให้ความช่วยเหลือด้านเทคโนโลยี แลกกับการที่เกาหลีเหนือส่งทหารและอาวุธไปสนับสนุนสงครามในยูเครน
อี ซองจุน จาก JCS กล่าวว่า เรือลำที่เสียหายน่าจะมีสมรรถนะคล้ายเรือรบพิฆาต ชเว ฮยอน ซึ่งสามารถบรรทุกขีปนาวุธได้ราว 80 ลูก ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรง แม้ว่ากองทัพเรือเกาหลีใต้ที่มีเรือพิฆาต 12 ลำจะเหนือกว่าก็ตาม
คิม จองอึน วางเป้าหมายใหญ่ในการพัฒนากองทัพเรือ รวมถึงการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเขากล่าวในเดือน มี.ค.2568 ว่าเป็นก้าวสำคัญในการป้องกันประเทศ ผู้นำเกาหลีเหนือวางกรอบการพัฒนาอาวุธว่าเป็นการตอบโต้ภัยคุกคามจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ซึ่งเพิ่มการซ้อมรบร่วมและนำทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ เช่น เรือบรรทุกเครื่องบินและเรือดำน้ำนิวเคลียร์ เข้ามาในภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม เมอร์โคกลิอาโน ตั้งคำถามว่า เรือรบใหม่ของเกาหลีเหนือมีเครื่องยนต์ทำงานจริงหรือไม่ เนื่องจากสื่อของรัฐไม่เคยเผยภาพเรือขณะเคลื่อนที่
ขณะที่ เชิง ซองชาง จากสถาบันเซจองในเกาหลีใต้ วิเคราะห์ว่าการเปิดเผยความล้มเหลวนี้ เป็นส่วนหนึ่งของสไตล์การปกครองของคิม ที่ต้องการควบคุมข่าวลือและแสดงความเข้มงวดต่อเจ้าหน้าที่ แต่ความเสียหายนี้อาจทำให้เกิดคำถามถึงความสามารถของเกาหลีเหนือในการขยายกองทัพเรือตามที่คิมตั้งเป้าไว้
อ่านข่าวอื่น :
แท็กที่เกี่ยวข้อง: