พลิก "Thai SELECT" เทียบ "มิชลินสตาร์" ดันไทยฟู้ดสู่ "ครัวโลก"

ภาพลักษณ์ที่จัดจ้านของอาหารไทย รสชาติโดดเด่น ตกแต่งสวยงาม ไม่เพียงดึงดูดให้ ผู้บริโภคทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อยากลิ้มลอง และกลายเป็นที่มาของตราสัญลักษณ์ “Thai SELECT” หัวใจสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ต่อผู้บริโภคทั่วโลก ว่า ร้านอาหารหรือผลิต ภัณฑ์ ที่ได้รับตรานี้จะมอบประสบการณ์ รสชาติไทยแท้ ผ่านกระบวนอันพิถีพิถันในการปรุงรสอาหารตามต้นตำรับ และมีมาตรฐานอยู่ในระดับคุณภาพสากล

ในการเยือนสหราชอาณาจักร กรุงลอนดอน ของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะระหว่างวันที่ 21-25 พ.ค.นี้ ได้มีการมอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT โฉมใหม่ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ระดับผู้นำประเทศมอบประกาศนียบัตรแก่ร้านอาหาร Thai SELECT จำนวน 20 ราย

ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศกว่า 18,852 ร้าน จำนวนนี้ ได้รับตรา Thai SELECT แล้วทั้งสิ้น 1,779 แห่ง และในประเทศไทยเอง ก็มีร้านที่ได้รับตรานี้แล้วถึง 496 แห่ง ขณะเดียวกัน ยังมีผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูปที่ได้รับตรา Thai SELECT รวมกว่า 965 รายการ จากผู้ประกอบการ 109 บริษัท ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในมาตรฐานอาหารไทยที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 21-25 พ.ค. นี้ เพื่อมอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กว่า 2 ทศวรรษ ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ทำหน้าที่ส่งเสริมและสร้างความเชื่อมั่นให้ร้านอาหารและผลิตภัณฑ์อาหารไทยบนเวทีโลก ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ยกระดับให้ Thai SELECT ก้าวขึ้นสู่การเป็น Global Brand ที่สื่อสารกับผู้บริโภคทั่วโลกได้อย่างทรงพลัง มีการปรับรูปแบบตราและเกณฑ์การมอบตราครั้งสำคัญ โดยใช้ “ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้” เป็นสัญลักษณ์ สะท้อนถึงคุณภาพระดับสากล รสชาติไทยแท้ และประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์

พลิกโฉม “Thai SELECT” เทียบชั้น มิชลิน สตาร์

โดยร้าน Thai SELECT โฉมใหม่แบ่งเป็น 4 ระดับ คือ Thai SELECT 1 ดาว, 2 ดาว, 3 ดาว และ Thai SELECT Casual ครอบคลุมตั้งแต่ร้านเล็ก ราคาย่อมเยา ไปจนถึงร้านหรูระดับพรีเมียมที่มอบประสบการณ์อาหารไทยชั้นเลิศ ซึ่งมีการปรับเกณฑ์ประเมินเข้มข้นขึ้นใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ รสชาติและการนำเสนออาหาร บรรยากาศและประสบการณ์ของผู้บริโภค มาตรฐานสุขอนามัย ความเชี่ยวชาญของเชฟ และคุณภาพวัตถุดิบ

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

สำหรับ “ดาวเกียรติยศรูปดอกกล้วยไม้” เป็นสัญลักษณ์ เพื่อสะท้อนถึงคุณภาพระดับสากล รสชาติไทยแท้ และประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ได้แบ่งการรับรองออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่Thai SELECT Casual – ร้านอาหารบรรยากาศเป็นกันเอง เช่น ร้านขนาดเล็กหรือ Food Truck ,Thai SELECT 1 ดาว – ร้านอาหารคุณภาพดีในรูปแบบ Fine-Casual Dining ,Thai SELECT 2 ดาว – ร้านอาหารคุณภาพเยี่ยม รูปแบบ Upscale Dining และThai SELECT 3 ดาว – ร้านอาหารไทยคุณภาพยอดเยี่ยมระดับพรีเมียม โดยมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศ 177 แห่ง ที่ได้รับ “ดาวเกียรติยศ”

ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT 3 ดาว – ร้านอาหารไทยคุณภาพยอดเยี่ยมระดับพรีเมียม

น.ส.สุนันทา กังวานกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมฯยกระดับ Thai SELECT เทียบชั้นมิชลินสตาร์ ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญ เพราะอาหารไทยเป็นที่รู้จักทั่วโลก หากมีการส่งเสริมผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ผ่านอาหารไทยจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกเข้ามาไทยเพิ่มขึ้น

อยากให้คนทั่วโลกได้สัมผัสรสชาติอาหารไทยแท้จริง ไม่ใช่แบบที่ถูกดัดแปลงจนเสียเอกลักษณ์ Thai SELECT คือเครื่องยืนยันว่าร้านนั้นๆ ได้มาตรฐานและให้รสชาติไทยจริง เพื่อให้ต่างชาติเข้าใจง่าย การปรับสัญลักษณ์เป็นรูปดาวคล้ายกับมาตรฐานมิชลินสตาร์ซึ่งเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกคุ้นเคย

น.ส.สุนันทา กังวานกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

นอกจากนี้ กระทรวงฯ เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์การสื่อสาร Thai SELECT อย่างเข้มข้น ด้วยกิจกรรมส่งเสริมการตลาดในและต่างประเทศ การขยายช่องทางสื่อสารไปยังแพลตฟอร์มใหม่ๆ เช่น การจัดทำ เกมออนไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ทั่วโลก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันอาหารไทยให้เป็น ซอฟท์พาวเวอร์ ที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบายรัฐบาลที่เน้นสร้างรายได้ผ่านการเพิ่มมูลค่าสินค้าและเสริมภาพลักษณ์ของไทยในฐานะ ครัวของโลกอีกด้วย

ดัน “ธุรกิจอาหารไทย”  ศูนย์กลางระดับภูมิภาค

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า หนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ “อาหารไทย” เป็นซอฟท์พาวเวอร์อันดับ 1 ของประเทศ และเพื่อเป็นการเร่งกระตุ้นการบริโภคอาหารไทยผ่านร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT พร้อมส่งเสริมให้เป็นธุรกิจเรือธงที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดการปฏิรูปมาตรฐานอาหารไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอาหารระดับภูมิภาคและต่อเนื่องสู่ระดับโลก

รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยที่ทรงคุณค่า รวมถึง ยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักและนิยมแก่ผู้บริโภคชาวไทย/ชาวต่างชาติ รวมถึงเป็นแหล่งสร้างรายได้และแหล่งจ้างงานที่สำคัญของประเทศ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

เนื่องจากอาหารไทยสะท้อนถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้ดีที่สุด แสดงถึงความละเมียดละไมและความใส่ใจในการประกอบอาหารของคนไทยที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นับเป็นความภาคภูมิใจและมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทยถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พ.ค. 2568) มีร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลัก ษณ์ Thai SELECT จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จำนวน 496 ร้าน แบ่งเป็น กรุงเทพฯ 82 ร้าน ภาคเหนือ 96 ร้าน ภาคกลาง 107 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 87 ร้าน ภาคใต้ 87 ร้าน และ ภาคตะวันออก 37 ร้าน

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ให้ร้านอาหารไทย

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (วันที่ 31 มี.ค. 2568) ระบุว่า ไทยมีนิติบุคคลดำเนินธุรกิจร้านอาหารอยู่ 24,555 ราย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก 97.44% หรือ 23,926 ราย เป็น รูปแบบบริษัทจำกัดมากที่สุด 89.10% หรือ 21,879 ราย รองลงมาเป็น ห้างหุ้นส่วนสามัญ/ห้างหุ้นส่วนจำกัด 10.86% หรือ2,667 ราย และบริษัทมหาชนจำกัด 0.04% จำนวน 9 ราย

จังหวัดที่มีการประกอบธุรกิจร้านอาหาร 5 อันดับแรกอยู่ในพื้นที่หัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 9,710 ราย ชลบุรี 2,693 ราย ภูเก็ต 1,936 ราย เชียงใหม่ 1,504 ราย และสุราษฎร์ธานี 1,411 ราย

โดยไตรมาสแรก (ม.ค. – มี.ค.) มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจร้านอาหารใหม่ 973 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวและหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร 339 ราย (34.84%) ชลบุรี 119 ราย  เชียงใหม่ 77 ราย  ภูเก็ต 62 ราย  และสุราษฎร์ธานี 43 ราย 

อธิบดีกรมพัฒน์ฯ กล่าว ว่า ตัวเลขไตรมาสแรก แสดงให้เห็นว่าธุรกิจร้านอาหารไทยยังคงเติบโตได้ดี และมีการจัดตั้งธุรกิจร้านอาหารใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจร้านอาหารเป็นซอฟท์ พาวเวอร์ อันดับ 1 ของประเทศ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ในการเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รับรู้และรู้จักไปทั่วโลก ยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่นิยมกับผู้บริโภคชาวไทยและชาวต่างชาติ สร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านความนิยมในการบริโภคอาหารไทย

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยมีการปรับตัวรับกระแสการเปลี่ยนแปลงด้านการบริโภคอาหารของผู้บริโภคอย่างเห็นได้ชัด เช่น มีการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านระบบเดลิเวอรี การสั่งอาหารล่วงหน้าแล้วมารับที่ร้าน หรือ บริการจองคิวผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อลดการรอคิวและความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ พร้อมรับกระแสบริโภคนิยมที่เน้นความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลาในการเดินทางไปร้านอาหาร

“ภัตตาคารไทย” เหนื่อย ต่างชาติแข่งผุดร้านเป็นดอกเห็ด

ด้าน นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เปิดเผยกับ “ไทยพีบีเอสออนไลน์” ว่า สถานการณ์ของร้านอาหาร ภัตตาคารไทย โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เริ่มมีการปิดร้านลงจำนวนมาก บางแห่งเงียบเหงา  จำนวนนักท่องเที่ยว ลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่บางตาลงมาก ยังไม่รวมถึงนักท่องเที่ยวในประเทศ ที่เริ่มหันมาใช้จ่ายประหยัดขึ้น ส่งผลให้ทั้ง ย่านบรรทัดทอง เยาวราช มีจำนวนนักท่องเที่ยวบางตาลง ซึ่งร้านค้าที่มีสายป่านสั้นมีเงินทุนน้อยก็อาจจะปิดตัวไป แต่ทั้งบรรยากาศความเงียบเหงา อาจจะเป็นระยะสั้น เพราะช่วงนี้เป็นช่วง Low Season

ปัจจุบัน ธุรกิจร้านอาหารกำลังเผชิญความยากลำบากอย่างมาก ยอดขายลดลงอย่างหนัก จากที่เคยขายได้วันละ 50,000 บาท ตอนนี้เหลือเพียง 20,000บาท หรือลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง ...คนคิดก่อนซื้อและซื้อเฉพาะที่จำเป็น ไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีเงินเต็มกระเป๋าจะซื้ออะไรก็ซื้อได้ แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นเช่นนั้นแล้ว 

นอกจากนี้ ปัญหาที่น่ากังวลของผู้ประกอบการไทย ขณะนี้คือ การมาเปิดตัวของร้านอาหารของคนต่างชาติ ที่เริ่มเห็นมากขึ้นในหลายพื้นที่กระจายไปตามหัวเมืองหลักและหัวเมืองรองและจ้างงานคนชาติเดียวกัน ซึ่งถือว่ามาแย่งงานคนไทยไปอย่างเห็นได้ชัด

สาเหตุที่คนต่างชาติเข้ามาทำธุรกิจในไทยเพิ่มขึ้น เพราะการที่ภาครัฐมีมาตรการฟรีวีซา ทำให้คนเหล่านี้ เข้ามาเรียนและทำงานรวมถึงทำธุรกิจไปควบคู่กันหากรัฐไม่มีมาตการที่เข้มขนอนาคตอาจจะเห็นร้านอาหารของต่างชาติผุดเป็นดอกเห็ดมากกว่านี้แน่นอน

นายกสมาคมฯ กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวให้ทันกับสถาน การณ์การซื้อของผู้บริโภค ทั้งการปรับรูปแบบการขาย เน้นขายออนไลน์มากขึ้น หรือการจัดโปรโมชั่นช่วง Low Season เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ

ทั้งนี้สมาคมภัตตาคารไทย อยากให้รัฐบาลพิจารณาควบคุมราคาพลังงานไม่ให้ปรับขึ้นในปีนี้ รวมถึงเลื่อนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำออกไปก่อน เพื่อช่วยลดต้นทุนและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับธุรกิจร้านอาหารที่กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตซึ่งเป็นต้นทุนหลักที่ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของธุรกิจในช่วงนี้

การเดินสายมอบตราสัญลักษณ์ “Thai SELECT” ให้กับร้านอาหารไทยของ "นายกรัฐมนตรี" ในครั้งนี้ อาจจะเป็นแค่งานฉาบฉวยที่ไม่ต้องถึงระดับ"นายก"ต้องมา แต่อย่างน้อยก็เป็นการตอกย้ำว่า "อาหารไทย"ไม่เป็นสองรองใคร และยังอาจคว้าโอกาสของการเป็น"ครัวของโลก"ได้ในอนาคต 

 อ่านข่าว:

ไทย 1ใน 25 "ตลาดเกิดใหม่" น่าลงทุน คลังชี้ไทย-USA สัมพันธ์ปึ้ก

อุตฯรถยนต์ไทย "โอกาส-ท้าทาย" สนค.ชี้ไทยต้องปรับตัวรองรับตลาดโลก

สภาพัฒน์ฯหั่นจีดีพีไทยปี68 เหลือ1.8% รับความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก