วันนี้ (26 พ.ค.2568) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ในโอกาสที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการอุทยานมรดกอาเซียน ครั้งที่ 12 (12th ASEAN Heritage Park Committee Meeting: 12th AHPCM) ระหว่างวันที่ 26-27 พ.ค.2568 ณ โรงแรมฮิลตัน กรุงเทพ แกรน อโศก กรุงเทพมหานคร

การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 100 คน จาก 10 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย เมียนมา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีผู้แทนจากสำนักเลขาธิการอาเซียน ศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจากติมอร์-เลสเต เข้าร่วมสังเกตการณ์ประเทศไทย

ในฐานะเจ้าภาพ ได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยมีประเทศเวียดนาม ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งหน้าทำหน้าที่เป็นรองประธานการประชุม สาระสำคัญของการประชุมมุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานในอุทยานมรดกอาเซียน การรายงานความก้าวหน้าโครงการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการหารือและกำหนดทิศทางการบริหารจัดการพื้นที่คุ้มครองในภูมิภาคอาเซียน

ในโอกาสนี้ ไทยได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงความประสงค์ที่จะนำเสนออุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารและข้อมูลต่าง ๆ ตามระเบียบและข้อกำหนดของคณะกรรมการมรดกอาเซียน
อธิบดีกรมอุทยานฯ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกอาเซียน ว่า ต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกพื้นที่, จัดทำเอกสารผ่านสำนักนโยบายและแผนธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.), การประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญจาก ACB (ASEAN Center for Biodiversity), การพิจารณาโดยคณะกรรมการมรดกอาเซียน (AHP Committee), การเห็นชอบจากคณะทำงานอาเซียนด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ (AWGNCB), การรับรองจากคณะเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม (ASOEN) และสุดท้ายคือการรับรองและประกาศขึ้นทะเบียนอย่างเป็นทางการโดยการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม (AMME) กระบวนการนี้ใช้เวลา 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับความพร้อมของพื้นที่และข้อมูล

ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกอาเซียนแล้ว 10 แห่ง โดย 9 แห่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมอุทยานฯ ได้แก่
- อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประกาศปี 2527
- อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกาศปี 2527
- อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา – อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ – อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ประกาศปี 2546
- กลุ่มป่าแก่งกระจาน (อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี) ประกาศปี 2546
- อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม – เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ประกาศปี 2562
- อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ประกาศปี 2562
- อุทยานแห่งชาติเขาสก ประกาศปี 2564
- เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว - อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ประกาศปี 2566
- อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ประกาศปี 2566
และลำดับที่ 10 คือ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามหาราชินี จ.สมุทรปราการ ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2567

นายอรรถพล กล่าวว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์พื้นที่อุทยานมรดกอาเซียนของประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นการส่งเสริมความรู้ เพิ่มประสิทธิภาพให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่อนุรักษ์ รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการจัดการพื้นที่อนุรักษ์กับกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในอนาคต
ทั้งนี้ ในวันที่ 27 พ.ค.2568 จะมีการจัดกิจกรรมศึกษาดูงาน ณ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดและสวนพฤกษศาสตร์ระยอง จ.ระยอง นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 28-30 พ.ค.2568 จะมีการประชุมคณะทำงานอาเซียนด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ (ASEAN Working Group on Nature Conservation and Biodiversity: AWGNCB) ซึ่งเป็นการประชุมเชิงนโยบายต่อเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการอุทยานมรดกอาเซียนกรมอุทยานฯ

สำหรับการขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกอาเซียน จะช่วยเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ในหลายมิติ ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้แก่คนในพื้นที่, ด้านการมีส่วนร่วม โดยกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนเห็นคุณค่าและเข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม โดยส่งเสริมการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและการอนุรักษ์ทรัพยากร การเสริมสร้างพันธมิตร ด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทั้งในระดับประเทศและระดับอาเซียน
การพัฒนาศักยภาพ โดยสนับสนุนการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และโอกาสในการได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากโครงการอุทยานมรดกอาเซียน ประโยชน์เหล่านี้จะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพพื้นที่ให้เข้มแข็งในทุกด้าน เพื่อประโยชน์ของประเทศและภูมิภาคอาเซียนอย่างยั่งยืน

อ่านข่าว : ไม่ใช่แค่หนึ่ง นักวิจัยขึ้น-ลง 15 ครั้ง สำรวจพบ "เฟิร์นชนิดใหม่" ภูกระดึง
ฉลามเสือดาวใกล้สูญพันธุ์ กรมทะเลเปิดตัวโครงการอนุรักษ์-ฟื้นฟู
บก.ปทส.จับขบวนการค้าสัตว์ป่า สลดพบ “ลูกอุรังอุตัง” 2 ตัว ยังไม่หย่านม