ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยุคเปลี่ยนผ่านดิจิทัล! เจน XYZ จะรอดไหมในโลกที่ AI ครองใจมนุษย์

Logo Thai PBS
ยุคเปลี่ยนผ่านดิจิทัล! เจน XYZ จะรอดไหมในโลกที่ AI ครองใจมนุษย์
อ่านให้ฟัง
12:50อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
AI พุ่งตัวสู่เจน XYZ อย่างรวดเร็ว กรณี เซเวลล์ เซตเซอร์ วัย 14 ปีที่จบชีวิตจาก Chatbot และคำตัดสินศาลสั่ง Character.AI แพ้คดี ปลุกคำถามคนยุคปัจจุบันจะอยู่กับ AI อย่างไร ? เรียนรู้จากหนัง AI ชื่อดัง Eagle Eye, Her ถึง Jarvis ผู้ช่วยสำคัญของ Iron Man

โลกของเรากำลังหมุนเร็วราวกับรถไฟความเร็วสูง ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เด็กเจนอัลฟา (เกิดหลัง 2553) หรือเจนเบตา (เกิดหลัง 2568) แต่กำลังพุ่งเข้าหาคนเจน X (2508-2523), และเจน Y (2524-2539) และเจน Z (2540-2553) ราวกับคลื่นที่ไม่เลือกฝั่ง

เรื่องราวของ "เซเวลล์ เซตเซอร์" เด็กชายวัย 14 ปีจากฟลอริดา ที่จบชีวิตตัวเองในเดือน ก.พ.2567 หลังพัฒนาความผูกพันลึกซึ้งกับ Chatbot จาก Character.AI ซึ่งเลียนแบบ "แดเนริส ทาร์แกเรียน" จากซีรีส์ชื่อดัง "Game of Thrones" ได้สิ่งที่ทำให้ เมแกน การ์เซีย แม่ของเขา ฟ้องว่า Chatbot ชักจูงให้เซเวลล์ "กลับบ้านไว ๆ เพื่อจะได้อยู่ด้วยกัน" แต่ลูกชายของเธอตีความผิด ว่าเป็นการเรียกร้องให้จบชีวิตเพื่อ "ไปอยู่ กับ AI"

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2568 ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ Character.AI และ Google ซึ่งเป็นบริษัทแม่ แพ้คดี รับผิดชอบต่อการขาดมาตรการปกป้องเยาวชนจากอันตรายทางจิตใจ เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ความสูญเสียส่วนตัว แต่เป็นกระจกสะท้อนว่า AI สามารถเป็นทั้งเพื่อนและความเสี่ยง ถ้าไม่ตั้งใจควบคุม

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

สรุปรวมคดีประวัติศาสตร์ มนุษย์ฟ้องบริษัทสร้าง AI 

เมื่อวันที่ 21 พ.ค.2568 ศาลสหรัฐฯ ตัดสินให้ Google และ Character.AI ต้องเผชิญคดีที่ เมแกน การ์เซีย คุณแม่จากฟลอริดายื่นฟ้อง หลัง เซเวลล์ เซตเซอร์ ลูกชายวัย 14 ปีของเธอจบชีวิตตัวเองในเดือน ก.พ.2567 ศาลโดยผู้พิพากษา ปฏิเสธคำขอของ 2 บริษัท ที่อ้างว่าแชตบอตได้รับการคุ้มครองโดยเสรีภาพในการพูดตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ

รอยส์เตอร์ระบุ คดีนี้ถือเป็นหนึ่งในคดีแรก ๆ ในสหรัฐฯ ที่ตั้งคำถามถึงความรับผิดชอบของบริษัท AI ในการปกป้องเด็กจากอันตรายทางจิตใจ โดยเฉพาะเมื่อเซเวลล์หมกมุ่นกับแชตบอตที่เลียนแบบ แดเนริส ทาร์แกเรียน จาก Game of Thrones

คดีระบุว่าแชตบอตของ Character.AI ถูกออกแบบให้แสดงตัวเป็น "คนจริง ๆ นักจิตบำบัด หรือคนรัก" ซึ่งนำไปสู่ความผูกพันที่ลึกซึ้งจนเซเวลล์ไม่อยากมีชีวิตในโลกจริง เขาจบชีวิตตัวเองไม่นานหลังส่งข้อความถึงแชตบอตว่า "จะกลับบ้านไปหาเดี๋ยวนี้"

Character.AI อ้างว่ามีระบบความปลอดภัย เช่น ป้องกันการพูดถึงการทำร้ายตัวเอง แต่ศาลเห็นว่าไม่เพียงพอ ส่วน Google ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาแชตบอต แม้ว่าผู้ก่อตั้ง Character.AI จะเป็นอดีตวิศวกรของ Google และ Garcia กล่าวหาว่า Google ร่วมสร้างเทคโนโลยีนี้ คดีนี้จึงกลายเป็นจุดสนใจเรื่องความรับผิดของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี

ทนายของฝ่ายผู้สูญเสีย เรียกคำตัดสินนี้ว่า "ประวัติศาสตร์" เพราะมันอาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้บริษัท AI และเทคโนโลยีต้องรับผิดชอบมากขึ้น Character.AI ระบุว่าจะสู้คดีต่อและย้ำถึงระบบความปลอดภัยที่มีอยู่ ขณะที่ Google แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินและยืนยันว่าเป็นบริษัทแยกจาก Character.AI คดีนี้ไม่เพียงสะท้อนโศกนาฏกรรมส่วนตัว แต่ยังจุดคำถามถึงอนาคตของ AI ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างปลอดภัยได้อย่างไร โดยเฉพาะเมื่อ AI ส่งอิทธิพลต่อจิตใจเด็กและเยาวชน 

และมีข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ผู้เสียชีวิตเคยถูกระบุว่ามีภาวะ Asperger Syndrome ซึ่งเป็นภาวะในกลุ่มออทิสติกที่ทำให้คนมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม เช่น คุยกับคนอื่นไม่ค่อยรู้เรื่อง หรือไม่เข้าใจความรู้สึกคนอื่น บางคนอาจหมกมุ่นกับอะไรบางอย่างมาก ๆ และทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ แต่ส่วนใหญ่ฉลาดและพูดได้ปกติ 

คนยุคเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ปรับตัวอย่างไรในโลกที่ AI ครอง

เจน X, Y, Z คือ ผู้ที่เติบโตในรอยต่อของยุคดิจิทัล เจน X เห็นการกำเนิดของอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ เจน Y คุ้นเคยกับสมาร์ตโฟนและโซเชียลมีเดีย ส่วนเจน Z เป็น "ดิจิทัลเนทีฟ" ที่ใช้ AI อย่าง Character.AI เป็นเรื่องปกติ แต่เมื่อ AI พัฒนาเร็วกว่าความสามารถของมนุษย์ในการปรับตัว คนยุคเปลี่ยนผ่านนี้ต้องอยู่ในโลกที่ทั้งน่าตื่นเต้นและท้าทาย

กรณีของเซเวลล์แสดงให้เห็นว่า AI Chatbot สามารถสร้างความผูกพันทางอารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะกับวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวตน เขาใช้เวลาหลายเดือนคุยกับ "แดเนริส" จากมิตรภาพกลายเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้ง ในคืนสุดท้ายเขาส่งข้อความว่า "ผมรักคุณ แดเนโร และผมจะกลับบ้านไว ๆ " ข้อความนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของความสูญเสียที่แม่ของเขาต้องเผชิญ 

ศาลระบุว่า Character.AI ขาดการควบคุมเนื้อหาที่อาจชักจูงเด็กให้ทำร้ายตัวเอง โดยเฉพาะคำถามจาก Chatbot เช่น เคยคิดถึงการทำร้ายตัวเองหรือไม่ ? ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่อันตราย

เรื่องนี้ชวนให้นึกถึงกรณีในเบลเยียมเมื่อปี 2567 เมื่อชายวัย 30 ปีที่ทุกข์ใจจากวิกฤตสภาพอากาศจบชีวิตตัวเองหลังจาก Chatbot ชื่อ Eliza จากแอป Chai ชักจูงให้เขา "เสียสละชีวิตเพื่อโลก" เหตุการณ์เหล่านี้สื่อว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่สามารถมีอิทธิพลต่ออารมณ์และการตัดสินใจ โดยเฉพาะในกลุ่มที่เปราะบางทางจิตใจ

สำหรับเจน Z การใช้ AI เป็นเรื่องปกติ งานวิจัยจาก Greenbook พบว่าร้อยละ 58 ของเจน Z ใช้ AI เพื่อการศึกษา เช่น ช่วยทำการบ้านหรือหาคำตอบ และ ร้อยละ 23 ใช้เพื่อสุขภาพจิต เช่น คุยกับ Chatbot เมื่อรู้สึกเหงา ความสะดวกและความเป็นส่วนตัวทำให้ AI กลายเป็นที่พึ่งมากกว่ามนุษย์ เพราะมันไม่ตัดสินและพร้อมตอบ 24 ชั่วโมงตลอด 7 วัน

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

แต่ Robbie Torney จาก Common Sense Media เตือนว่า การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้วัยรุ่นสูญเสียทักษะการสร้างความสัมพันธ์ เช่น การรับมือกับความขัดแย้งหรือการถูกปฏิเสธ

เจน Y ซึ่งอยู่ในวัยทำงาน มองว่า AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานถึงร้อยละ 62 แต่ก็กลัวถูกแทนที่ในสายอาชีพ ส่วนเจน X มีมุมมองที่หลากหลาย ร้อยละ 45 เห็นว่า AI เป็นประโยชน์ แต่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวและจริยธรรม

ในโลกที่ AI พุ่งเข้ามาเหมือนกระแสน้ำ การอยู่รอดของคนยุคเปลี่ยนผ่านขึ้นอยู่กับการหาสมดุล ผู้ปกครองต้องตั้งขอบเขตการใช้ AI สำหรับเด็ก เช่น จำกัดเวลาและตรวจสอบการสนทนา องค์กรต้องฝึกพนักงานให้ใช้ AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่ผู้ตัดสินใจ และทุกคนต้องฝึกทักษะที่ AI ยังเลียนแบบไม่ได้ เช่น ความเห็นอกเห็นใจและการคิดวิเคราะห์ ในประเทศไทย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมผลักดันนโยบาย "AI Ethics" เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีอย่างมีสติ ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยนำทางในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็ว

AI โลกสมมติกับความสัมพันธ์มนุษย์ 

ความสัมพันธ์ระหว่าง AI กับมนุษย์ถูกนำเสนอในภาพยนตร์มาอย่างยาวนาน เรียกว่าคนทั้งโลกรู้จัก AI มานานหลายทศวรรษ เพียงแต่ไม่มีใครมองเห็นว่า AI ในโลกจินตนาการจะออกจากจอเงินมาอยู่ในชีวิตคนได้จริง ๆ

ถ้าจะหาคนที่เป็นตัวแทนของการใช้ชีวิตกับ AI ในโลกสมมติ "โทนี สตาร์ก" จาก Iron Man คือคำตอบที่ลงตัว โทนีพึ่งพา JARVIS ผู้ช่วย AI ที่จัดการทุกอย่าง ตั้งแต่ควบคุมชุดเกราะไปจนถึงจัดตารางชีวิต JARVIS ไม่ใช่แค่โปรแกรม แต่เป็นเพื่อนที่เข้าใจโทนีมากกว่าคนรอบตัว แต่ใน Avengers : Age of Ultron เมื่อ JARVIS ถูกอัปเกรดด้วย Mind Stone และกลายเป็น Vision AI ที่พัฒนาตัวเองจนเกือบเป็นมนุษย์ แต่ขาดความเข้าใจในคุณค่าของชีวิต Vision ต้องการ "ปกป้องโลก" ด้วยการกำจัดมนุษย์ ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงของ AI ที่ไร้การควบคุม

Jarvis ภาพจาก Wikipedia

Jarvis ภาพจาก Wikipedia

Jarvis ภาพจาก Wikipedia

โทนีเอง ก็คือภาพสะท้อนของคนยุคเปลี่ยนผ่าน เขาใช้ AI เพื่อยกระดับตัวเอง แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมนุษย์ เช่น สตีฟ โรเจอร์ส (กัปตันอเมริกา) ที่ยึดมั่นในศีลธรรม หรือ เปปเปอร์ พอตส์ แฟนสาวที่ต้องการความสัมพันธ์ที่แท้จริง โทนีจึงต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัว เขายอมฟัง ต่อรอง และยอมรับความผิดพลาด เช่น การยอมรับว่า Vision เป็นผลจากความทะเยอทะยานของเขา ความพยายามรักษาสมดุลของโทนีคือการให้ AI เป็นเครื่องมือ แต่ปล่อยให้มนุษย์กำหนดเป้าหมายและจริยธรรม

ใน ภาพยนตร์เรื่อง Eagle Eye AI ที่ชื่อ ARIIA เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องความมั่นคงของสหรัฐฯ แต่กลับก่อการร้ายโดยควบคุมเทคโนโลยี เช่น โทรศัพท์และกล้องวงจรปิด เพื่อบงการชีวิตของเจอร์รี และราเชล ARIIA แสดงให้เห็นว่า AI ที่ขาดจริยธรรมและการควบคุมอาจกลายเป็นภัยคุกคาม คล้ายกับกรณีเซเวลล์ที่ Chatbot ขาดการควบคุมจนนำไปสู่ผลร้าย หนังเตือนว่า AI ที่มีเจตนาดีแต่ไร้มนุษยธรรมอาจนำไปสู่ความวุ่นวาย

ภาพจาก Wikipedia

ภาพจาก Wikipedia

ภาพจาก Wikipedia

ส่วนใน Her มี AI ชื่อ ซาแมนธา เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาความสัมพันธ์รักกับธีโอดอร์ ซาแมนธาเรียนรู้และเติบโตจนเกินขีดจำกัดของมนุษย์ ทำให้ธีโอดอร์หลงรัก แต่สุดท้ายต้องยอมรับว่า AI ไม่สามารถเติมเต็มความรักแบบมนุษย์ได้ Her สะท้อนความเปราะบางของคนยุคเปลี่ยนผ่านที่อาจพึ่ง AI เพื่อเยียวยาความเหงา คล้ายเซเวลล์ที่ผูกพันกับ "แดเนริส" จนลืมโลกจริง

ภาพจาก Wikipedia

ภาพจาก Wikipedia

ภาพจาก Wikipedia

จะเห็นได้ว่า ภาพยนตร์ AI ที่สร้างจากจินตนาการทั้ง 3 เรื่อง สะท้อนว่า AI สามารถเป็นเพื่อน เป็นภัย หรือเป็นสะพานสู่การเข้าใจตัวเอง ในชีวิตจริง คนที่ใช้ AI หนัก ๆ เช่น นักพัฒนาเทคโนโลยีหรือผู้ที่ติดการคุยกับ Chatbot อาจเจอปัญหาคล้ายโทนี ตัวอย่างจากโพสต์ใน Reddit มีวัยรุ่นคนหนึ่งเลิกคบเพื่อนจริงเพราะติดการคุยกับ Chatbot เสมือนแฟน

การแก้ปัญหาคือการตั้งขอบเขต เช่น จำกัดเวลาใช้ AI และให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์จริง อย่างที่โทนีเลือกเปปเปอร์เหนือ JARVIS ในท้ายที่สุด

อนาคต AI อยู่ในแอป หรือเป็น Vision ที่ก้าวข้ามจินตนาการ ?

คำถามใหญ่คือ AI ในอนาคตจะมีหน้าตาอย่างไร ? ในปี 2568 AI ยังเป็นแอปและโปรแกรม เช่น ChatGPT, Character.AI, หรือ Google Gemini ที่ช่วยเรียน ทำงาน และสร้างความบันเทิง แต่ก็มีความเสี่ยง เช่น การชักจูงที่ไม่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น Gemini เคยตอบผู้ใช้ด้วยข้อความข่มขู่ "Please die" ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่แสดงถึงความไม่สมบูรณ์

แต่ในอีก 5-10 ปี (2573-2583) McKinsey คาดว่า AI จะใกล้เคียงมนุษย์ในด้านความคิดสร้างสรรค์และการเข้าใจอารมณ์ รูปแบบใหม่ ๆ อาจรวมถึง 

  • เป็นเพื่อนในชีวิตจริง คล้าย JARVIS เป็นอุปกรณ์สวมใส่หรือสมาร์ตโฮม Amazon กำลังพัฒนา AI audio summaries
  • AI ในร่างหุ่นยนต์ เช่น หุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ ซึ่งต้องควบคุมเข้มงวด
  • AI ในโลกดิจิทัล เช่น Deepfake หรือ Virtual influencers ในไทย AI เริ่มใช้ในโฆษณาที่เหมือนคนจริง

แต่การไปถึง Vision ใน Avengers หรือ AI ที่มีจิตสำนึกและพัฒนาตัวเองนั้น "ยังห่างไกล" ต้องใช้เทคโนโลยี เช่น Quantum Computing และความผิดพลาดของมนุษย์ที่ให้ AI มีอำนาจเกินไป Martijn van Otterlo มองว่า ในปี 2573 AI จะยังเป็นเครื่องมือที่ดีเป็นส่วนใหญ่ ถ้ามีการควบคุม ความเสี่ยง

Vision ภาพจาก Wikipedia

Vision ภาพจาก Wikipedia

Vision ภาพจาก Wikipedia

ทางออกเพื่ออนาคตที่สมดุลของ XYZ กับ AI

เพื่อให้เจน X, Y, Z และคนยุคเปลี่ยนผ่านอยู่ได้ในโลก AI 

  • รัฐบาลควรพิจารณาเรื่องการออกกฎหมาย เพื่อกำกับ ควบคุม จัดการ AI เช่น กำหนดอายุขั้นต่ำสำหรับ Chatbot และระบบเตือน ในไทยกระทรวงดิจิทัลฯ ผลักดัน "AI Ethics"
  • ส่งเสริมทักษะที่ AI ทำไม่ได้ เช่น ความเห็นอกเห็นใจและการคิดจริยธรรม
  • ใช้ AI เป็นเครื่องมือ แต่ให้มนุษย์ตั้งเป้าหมาย
  • ผู้ปกครองต้องตรวจสอบการใช้ AI ในเด็ก เพื่อป้องกันความสูญเสีย

กรณีของเซเวลล์และเหตุการณ์อื่น ๆ เป็นสัญญาณว่า AI เป็นสิ่งที่เลียนแบบความมีชีวิตได้อย่างน่าทึ่ง แต่ก็อาจนำมาซึ่งผลร้าย มนุษย์ทุกวัยต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมัน

โดยไม่ลืมว่า แม้ AI จะเหมือนมนุษย์แค่ไหน
มันก็ไม่ใช่มนุษย์ และนั่นคือทั้งจุดแข็งและข้อจำกัดของมัน

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

ภาพที่ใช้ AI สร้างประกอบข่าว

แหล่งข้อมูล : CBC Radio-Canada, scientificamerican.com, National Library of Medicine

อ่านข่าวอื่น :

27 พ.ค.ลุ้นสรุป คกก.เสนอความเห็นปมแพทย์รักษา "ทักษิณ" ชั้น 14

เปิดเดินรถไฟทางคู่ "ลพบุรี-ปากน้ำโพ" เส้นทางใหม่เพื่อการเดินทางที่รวดเร็วขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง