วันนี้ (29 พ.ค.2568) ศาลการค้าระหว่างประเทศสหรัฐอเมริกา มีคำสั่งระงับแผนบังคับใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่า ผู้นำประเทศใช้อำนาจฉุกเฉินเกินขอบเขตเพื่อดำเนินการดังกล่าว
ศาลยังระบุด้วยว่า รัฐธรรมนูญสหรัฐอเมริกาให้อำนาจสภาคองเกรสตัดสินใจในการสร้างข้อกำหนดทางการค้ากับต่างประเทศ ซึ่งอยู่นอกเหนือจากขอบเขตอำนาจฉุกเฉินของประธานาธิบดี
ภายหลังศาลออกคำสั่งเพียงไม่กี่นาที รัฐบาลของทรัมป์ประกาศยื่นอุทธรณ์ พร้อมตั้งคำถามถึงอำนาจของศาล โดยผู้ช่วยโฆษกทำเนียบขาว ระบุว่า ไม่ใช่หน้าที่ของผู้พิพากษาซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ที่จะตัดสินใจว่าจะจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติอย่างไรให้เหมาะสม
ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างมาก โดยเงินยูโรร่วงลงร้อยละ 0.5 ส่วนค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษร่วงลงร้อยละ 0.2 ขณะที่เงินบาทเช้านี้อ่อนค่าลงเล็กน้อย สู่ระดับ 32.81 บาทต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ
ด้านสถานการณ์ดัชนีฟิวเจอร์สตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ทั้งดัชนีเอสแอนด์พี 500 ฟิวเจอร์ส ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ส่วนดัชนีแนสแดค ฟิวเจอร์ส ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.9
ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เอเชียในเช้าวันนี้ ทั้งดัชนีเอเอสเอ็กซ์ 200 ของออสเตรเลีย และดัชนีนิคเคอิ 225 ของญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น หลังศาลสั่งขวางมาตรการภาษีของทรัมป์
อ่านข่าว : "ฮุนเซน" โพสต์หวังการเจรจายุติปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา
ทรัมป์เดือด! ขู่ลงโทษรัสเซียหนัก หลังปูตินไม่ส่งข้อตกลงสันติภาพ