วันนี้ (29 พ.ค.2568) เจ้าหน้าที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ นำกำลังเข้าตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่ง ในซอยเพชรบุรี 13 เขตราชเทวี เพื่อขยายผลตรวจค้นหาพยานหลักฐานประกอบคดี ที่ได้จับผู้ต้องหาชายชาวไนจีเรีย โดยการเข้าตรวจค้น พบเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ในชั้นล่าง มีกล่องพัสดุ มีสินค้าอาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือแพทย์ บรรจุอยู่ภายในกระสอบ โดยไม่มีลักษณะ การจัดแพ็กบรรจุลงกล่องเพื่อส่งสินค้า
ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาจดทะเบียนสมรสกับหญิงชาวไทย เมื่อช่วงแรกๆ ของการแพร่ระบาดโควิด-19 จากนั้นได้ร่วมกับกลุ่มขบวนการหลอกลวงผู้อื่น ผ่านช่องทางออนไลน์

ซึ่งผู้ต้องหาคนนี้มีหน้าที่สร้างเว็บไซต์ปลอม โฆษณาจำหน่ายสินค้า และ บริการ เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาทิ หน้ากากอนามัย ถุงมือแพทย์ และสินค้าอื่น ๆ ที่ไม่มีอยู่จริง พบนับพันเว็บไซต์ ซึ่งมีผู้หลงเชื่อร่วมทำธุรกิจด้วยมากกว่า 30 คน เกิดความเสียหาย ราว 2,000 ล้านบาท
ร.ต.อ.วิษณุ ระบุว่า กลุ่มขบวนการมีคนหลายเชื้อชาติ ร่วมกันก่อเหตุและเงินที่ได้จากการหลอกลวง ก็มีการถ่ายโอนผ่านบัญชีม้า ก่อนจะแลกเปลี่ยนออกไปเป็นสกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโต

คดีนี้มีผู้ต้องหามากกว่า 20 คน ที่ถูกออกหมายจับ หลังพบว่ามีความเกี่ยวข้องกันทำเป็นขบวนการ ร่วมกันกระทำความ ตามข้อหา มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จฯ, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น และความผิด ตาม พ.ร.บ.การฟอกเงิน
และการตรวจค้นในวันนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในพื้นที่เป้าหมาย ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด จนสามารถจับผู้ต้องหา ชาวไนจีเรียได้ 3 คน ชาวแคเมอรูน ได้ 1 คน และชาวไทยร่วมขบวนการได้อีก 4 คน
อ่านข่าว :
กรมการปกครองค้น 3 จุดจับร้านดัดแปลงปืน ยึดของกลางนับร้อยชิ้น
จ่อแจ้งข้อหาเพิ่ม "แย้ม-อรัญญาวรรณ" ปมยักยอกเงินประมูลร้านค้าวัดไร่ขิง