วันนี้ (29 พ.ค.2568) การประชุมคณะกรรมการประกันสังคม ชุดที่ 14 ครั้งที่ 12/2568 ไร้การเข้าร่วมการประชุมของนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการประกันสังคม จึงมีการลงมติพิจารณาให้นายสุวิทย์ ศรีเพียร กรรมการประกันสังคม ฝ่ายนายจ้าง เป็นประธานในการประชุมวันนี้แทน
การประชุมเริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 09.30 น. ก่อนจะสิ้นสุดในเวลาประมาณ 12.30 น. ใช้เวลาร่วม 3 ชั่วโมง ซึ่งวาระสำคัญในการประชุมวันนี้ คือวาระสืบเนื่องเรื่อง ข้อบังคับการประชุมของคณะกรรมการประกันสังคม
นายธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน เปิดเผยหลังการประชุมว่า วาระหลักของการประชุมในวันนี้ ที่ทาง สปส. เสนอเข้ามา ตั้งแต่ระเบียบการเสนอวาระ อำนาจหน้าที่ของผู้เสนอวาระ การประชาสัมพันธ์หรือการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งหลายข้อเป็นประเด็นของการไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ หรือหากเปิดเผยข้อมูลได้ จะต้องผ่านประธานบอร์ด หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ย้อนแย้งการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นสาธารณะ
ทางฝ่ายผู้ประกันตนมีความเห็นว่าในการเปิดเผยข้อมูลไม่จำเป็นต้องผ่านประธานบอร์ดเพียงคนเดียว ควรจะเป็นเรื่องสาธารณะได้ ซึ่งสำหรับฝ่ายผู้ประกันตนมองว่าวาระนี้เป็นวาระสำคัญ จึงอยากให้มีการจัดประชุมเป็นวาระพิเศษโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อคณะกรรมการชุดอื่นในอนาคต นายธนพงษ์กล่าว
นายธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน
นายธนพงษ์ เชื้อเมืองพาน กรรมการประกันสังคม ฝ่ายผู้ประกันตน
ส่วนประเด็นการผลิตปฏิทิน ทีมประกันสังคมก้าวหน้า ได้ยื่นหนังสือเรื่องยกเลิกปฏิทิน โดยประธานในที่ประชุมให้เลขาธิการ สปส. เป็นผู้รับเอกสาร พร้อมเสนอเป็นวาระการประชุมในครั้งถัดไป วันที่ 17 มิ.ย.นี้ เนื่องจาก มองว่า เมื่อผลสำรวจออกมาแล้วว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการทำปฏิทิน ก็ควรรับฟังเสียงผู้ประกันตน แต่กลับกลายเป็นว่า ฝ่าย สปส. ระบุว่า ยกเลิกผลิตปฏิทินไม่ได้ จึงมีการย้อนถามถึงอำนาจหน้าที่ว่า ใครสามารถยกเลิกการทำปฏิทินได้ และทาง สปส. ให้คำตอบว่าต้องไปถามทางกฎหมาย
ทาง สปส. ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนว่ามีการจัดซื้อจัดจ้างทำปฏิทินแล้วหรือยัง แต่ครั้งแรกที่มีการเสนอให้ยกเลิกทำปฏิทิน ทาง สปส. ระบุว่ายังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้าง แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลเพียงพอว่าทาง สปส. มีการจัดซื้อจัดจ้างแล้วหรือยัง
พิพัฒน์ ชงบอร์ด สปส. ถก เอา-ไม่เอาปฏิทิน
ขณะที่นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า กรณีการผลิตปฏิทินประกันสังคม ต้องให้เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ต้องเจรจากับทางคณะกรรมการประกันสังคม ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะมีผู้ประกันตนและนายจ้างบางส่วนยังต้องการปฏิทินอยู่ เพื่อไม่เป็นการปิดปากใคร โดยเฉพาะทีมประกันสังคมก้าวหน้า ว่าสามารถร่วมหาทางออกได้ในทิศทางใด
นายพิพัฒน์กล่าวว่า ในเมื่อเป็นประชาธิปไตย คุณทำประชาพิจารณ์มา 62 % ไม่เอาแล้ว แต่อีก 38 % บอกอยากได้ แล้วจะเป็นอย่างไร ประชาธิปไตยอยู่ตรงไหน
พวกคุณคณะก้าวหน้าบอกเป็นประชาธิปไตย ไม่ใช่เผด็จการ แต่นี่คุณกำลังเข้าสู่เผด็จการหรือเปล่า คุณจะเอาเสียงส่วนใหญ่ มาบังคับเสียงส่วนน้อย
ด้านนางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม รับนโยบายของ รมว.แรงงาน จะนำเรื่องการผลิตปฏิทินเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประกันสังคมในวันที่ 17 มิ.ย.นี้ โดยต้องได้ข้อสรุปว่าปฏิทินประกันสังคมจะผลิตต่อหรือไม่ ผ่านการโหวตของกรรมการทั้ง 3 ฝ่าย
ซึ่งผลการประชาพิจารณ์ที่ผ่านมา มีผู้ประกันตนและนายจ้างหลายคนที่ไม่ได้เข้าทำแบบสอบถาม โดยเฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 40 ซึ่งข้อสรุปที่ได้ในการประชุมบอร์ดครั้งต่อไป เชื่อว่า จะเป็นแนวทางที่จะให้สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการต่อไป โดยขณะนี้ ยังไม่ได้มีการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างการจัดทำปฏิทิน ปี 2569
ก็ฟังเสียงทุกส่วน คนที่ให้ต่อก็มีเยอะ คนที่ทำแบบสอบถามบางส่วนก็บอกว่าเข้าไม่ถึงแบบสอบถาม ส่วนที่ไม่ต้องให้ทำปฏิทินก็รับฟัง นางมารศรี กล่าว
มารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
มารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม
ขณะที่กรณีการบริจาครถที่ไม่ได้ใช้แล้วของสำนักงานประกันสังคม เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า การบริจาครถที่ผ่าน มีการสอบถามไปยังทุกวัดก่อนหน้านี้ ซึ่งที่ผ่านมา ตนเองไม่ทราบว่า วัดมีการบริจาครถต่อให้หน่วยงานอื่น
โดยกล่าวขอบคุณผู้นำข้อมูลนี้มาเปิดเผย และเน้นย้ำว่า หลังจากนี้ จะแจ้งให้สำนักงานเลขานุการกรม ให้ตรวจสอบกับกรมการขนส่ง ว่ารถที่บริจาคคันไหนบ้างไม่ได้เป็นของวัดแล้ว โดยยืนยันว่ามีหลักฐานการบริจาคครบถ้วน ซึ่งนอกจากการบริจาครถ ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม ยังบริจาคอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้แล้วให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ต้องการนำไปใช้ประโยชน์ ส่วนการบริจาครถจะเน้นการบริจาคไปที่ส่วนราชการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก
อ่านข่าวอื่น :
จับสแกมเมอร์ข้ามชาติหลอกลวงชาวไทยลงทุน สูญ 2,000 ล้าน
ผบช.ภ.9 ชี้เหตุโจมตี สภ.จะแนะ ใช้อาวุธหนัก-ก่อเหตุมากกว่า 10 คน