วันนี้ (29 พ.ค.2568) พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 รับฟังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ศูนย์พัฒนาอาชีพราษฏรไทยบริเวณชายแดนสุรินทร์ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังมีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
ก่อนที่ ผบ.ทบ.จะเข้าหาคือกับ พล.อ.เมา โซะพัน รอง ผบ.ทหารสูงสุดและผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา ที่จุดประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม เพื่อแก้ปัญหาหลังเกิดการปะทะ ของทหารทั้ง 2 ฝ่าย โดยการเข้าหารือเน้นการเจรจาด้วยสันติวิธี เนื่องจากในพื้นที่ทหารทั้ง 2 ฝ่ายยังวางกำลังอยู่ในลักษณะเผชิญหน้ากัน
เบื้องต้นได้ข้อตกลง 3 ข้อ ในการแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดหลังเกิดการประทะกัน ดังนี้
- การแก้ปัญหาเขตแดนในรูปแบบคณะกรรมการปักปันเขตแดน (JBC) ซึ่งจะเร่งดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์
- ให้กำลังถอยจากจุดปะทะ 200 เมตร
- สร้างสัมพันธึ์ระหว่างผู้บังคับหน่วยไม่ให้เกิดการปะทะในพื้นที่อีก
ไทยเตรียมรับมือ "อพยพประชาชน" กรณีเหตุฉุกเฉินชายแดน
ส่วนการเตรียมการอพยพประชาชนไปอยู่ในที่ปลอดภัยกรณีมีเหตุฉุกเฉิน นายอาทิตย์ บุษบา นายอำเภอน้ำยืน เปิดเผยว่า มีการตั้งศูนย์อพยพที่ อ.เดชอุดม ซึ่งไกลออกไปจากจุดปะทะ 8 จุด ขณะที่ครูโรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยา ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน ซักซ้อมแผนอพยพกับนักเรียนเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และหลบภัยภายในบังเกอร์ของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนโดมประดิษฐ์วิทยา อยู่ห่างจากจุดปะทะบริเวณช่องบกประมาณ 15 กิโลเมตรและอยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุด
ขณะที่บริเวณช่องบก ยังห้ามไม่ให้คนภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในสามเหลี่ยมมรกต มีเพียงรถของทหารที่แล่นเข้า-ออกบริเวณจุดตรวจทางขึ้นลงช่องบก โดยชาวบ้านเล่าว่าระยะนี้ไม่สามารถขึ้นไปหาของป่าบนภูเขาได้ เพราะทหารเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงไม่อนุญาตให้ชาวบ้านขึ้นไปโดยไม่มีกำหนด
อ่านข่าว
ทหารไทยปะทะกัมพูชาที่ “ช่องบก” บริเวณพื้นที่อ้างสิทธิ์