ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ยุติภารกิจเคลื่อนย้าย "ช้างป่าตัวตึง" คลองตะเกรา ปรับแผนผลักดันเข้าป่า

สิ่งแวดล้อม
13:52
105
ยุติภารกิจเคลื่อนย้าย "ช้างป่าตัวตึง" คลองตะเกรา ปรับแผนผลักดันเข้าป่า
อ่านให้ฟัง
03:23อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จนท. และทีมสัตวแพทย์กว่า 100 คน ปฏิบัติการเคลื่อนย้าย "ช้างป่าตัวตึง" คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ไปยังศูนย์ปรับพฤติกรรมช้างป่า แต่เจออุปสรรคฝนตกหนัก-รถเคลื่อนย้ายช้างเข้าพื้นที่ไม่ได้ ต้องยุติภารกิจ ก่อนปรับแผนเป็นเฝ้าระวัง-ผลักดันเข้าป่า

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ระดมเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย ร่วมปฏิบัติภารกิจเคลื่อนย้ายช้างป่าตัวผู้ น้ำหนัก 5 ตัน อายุประมาณ 10 ปี

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ทีมงานได้วางแผนและเริ่มปฏิบัติการเคลื่อนย้ายช้าง ในช่วงคืนวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยติดตามพบช้างป่า 2 ตัว เป็นตัวใหญ่ 1 ตัว และตัวเล็ก 1 ตัว เดินลงมาจากเขายายหมาน้อย มาหากินบริเวณสวนป่าคลองตะเกรา จึงยิงยิงยาซึมช้างป่าตัวเป้าหมายและเข้าถึงตัวช้าง

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

แต่ด้วยอุปสรรคด้านสภาพภูมิประเทศและมีฝนตกเป็นเวลานาน ทำให้ดินอุ้มน้ำ รถเคลื่อนย้ายช้างไม่สามารถเข้าถึงจุดที่ช้างอยู่ได้ ประกอบกับประเมินว่าหากต้องชักลากช้างเป็นระยะทางไกล ต้องใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง อีกทั้งการเคลื่อนย้ายช้างไปดูแลที่คอกปรับพฤติกรรมช้างเขาสอยดาว ระยะทาง 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางนาน 3 ชั่วโมง จึงจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจกลางดึก เพื่อความปลอดภัยของช้างเป็นสำคัญ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

นายเฉลิม พุ่มไม้ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กล่าวว่า ช้างตัวดังกล่าวไม่เคยมีประวัติทำร้ายคน แต่ออกนอกป่าอนุรักษ์เข้าไปยังพื้นที่คลองตะเกราเป็นระยะนานแล้ว ซึ่งผู้นำชุมชุนและชาวบ้านได้ทำหนังสือขอให้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จับเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่ เนื่องจากเข้าไปยังชุมชนและกินพืชผลทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด จนเกิดความเสียหาย อีกทั้งกังวลในเรื่องความปลอดภัย

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

การแก้ไขปัญหาต้องคำนึงถึงผลกระทบสุขภาพสัตว์ด้วย ระยะเวลาที่ช้างต้องฟื้นตัวจากยาซึม 2-3 ชั่วโมง แต่รถเข้าไม่ได้ จึงยกเลิกภารกิจ

นายเฉลิม กล่าวว่า ทีมสัตวแพทย์จะติดตามจนช้างป่าฟื้นตัว และปรับแผนให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ร่วมกับอาสาสมัครในชุมชน จัดชุดผลักดันและเฝ้าระวังช้างป่าดังกล่าวให้กลับเข้าสู่พื้นที่ป่าอนุรักษ์ต่อไป ระหว่างรอให้เคลื่อนย้ายช้างป่าตัวนี้อีกครั้ง คาดว่าใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

สำหรับภารกิจในครั้งนี้ใช้ทีมงานกว่า 100 คน ทั้งทีมสัตวแพทย์​ เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน, เขาสอยดาว, คลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ และอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง โดยแบ่งเป็นชุดติดตามช้างป่า กองอำนวยการ ชุดลากขา ชุดบินโดรน ชุดยิงยาซึม และสัตวแพทย์

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

ภาพ : กรมอุทยานฯ

อ่านข่าว : ชง "ดอยอินทนนท์" ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานมรดกอาเซียนแห่งใหม่ 

นักกีฏวิทยา ค้นพบแมลงชนิดใหม่ของโลก "เพลี้ยจักจั่นสะแกราช" 

เปิดผลชันสูตร "วาฬคูเวียร์" ป่วยจนช็อกจากการติดเชื้อ-จมน้ำตาย