วันนี้ (5 มิ.ย.2568) หลังจากที่มีรายงานข่าวว่า พระจำนงค์ ธมฺมจารี หรือ อดีตพระพรหมเมธี ผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดเมื่อปี 2561 และได้ลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศเยอรมนี
- นิมนต์พระผู้ใหญ่ 3 วัดดัง พบ ตร.คดีเงินทอนวัด
- ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา คดีเงินทอนวัด
- คดีเงินทอนวัดไม่จบ "อดีตพระพรหมดิลก" ห่มเหลืองไม่ได้
ทั้งนี้มีกำหนดการกลับประเทศไทย โดยจะเดินทางออกจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในวันที่ 4 มิ.ย.เวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลาของประเทศไทยประมาณ เวลา 17.00 น. และจะเดินทางถึงประเทศไทย เวลาประมาณ 06.30 น. ของวันที่ 5 มิ.ย.นี้

ล่าสุดมีการเปิดเผยภาพ อดีตพระพรหมเมธี เดินทางถึงประเทศไทยเรียบร้อย เมื่อเวลา 06.30 น. โดย อดีตพระพรหมเมธี นั่งรถเข็นออกจากทางเดินสนามบินโดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกเข็นรถเข็น มาส่งยังประตูทางออก

ขณะนี้ อดีตพระพรหมเมธี อยู่ในการควบคุมตัวของพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และอยู่ระหว่างสอบปากคำในคดีเงินทอนวัด ซึ่งเหตุเกิดเมื่อปี 2561

หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดทำคดี ระบุว่า คดีนี้เป็นคดีเก่าเมื่อ 7 ปีที่แล้ว ที่กองบังคับการปราบปราม หรือ บก.ป. ร่วมกับ กองบังคับการปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งในคดีมีผู้ต้องหาหลายคน รวมถึงเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติด้วน โดยอดีตพระพรหมเมธี คือ 1 ในผู้ต้องหา ที่ถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา ประกอบด้วย “สนับสนุนเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์, ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต และร่วมกันฟอกเงิน”
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนไม่คัดค้านการประกันตัว เพราะผู้ต้องหาเข้ามามอบตัวด้วยตัวเอง และเชื่อว่าหากได้รับการประกันตัว ผู้ต้องหาก็จะไม่ไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน เนื่องจากคดีผ่านมานานแล้ว
และแม้ว่าคดีจะผ่านมาหลายปี แต่หัวหน้าชุดพนักงานสอบสวน ยืนยันว่า มีพยานหลักฐานครบถ้วน เหลือเพียงแค่คำให้การของผู้ต้องหา ซึ่งหลังจากนี้กระบวนการก็อยู่ที่ศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร โดยคดีดังกล่าวมีพลตำรวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน
ซึ่งภายหลังการสอบปากคำแล้วเสร็จ ผู้ต้องหาได้ยื่นหลักทรัพย์ 400,000 บาท เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว ในชั้นพนักงานสอบสวน และทางตำรวจอนุญาตโดยไม่ได้กำหนดเงื่อนไข โดยหลังเสร็จสิ้นกระบวนการสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ผู้ต้องหาได้เดินทางกลับทันที
สำหรับการเดินทางเข้ามอบตัวในครั้งนี้มีข้อมูลว่า ฝั่งของผู้ต้องหาได้เตรียมพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้คดี โดยอ้างอิงผลคำตัดสินศาลจากคดีของพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา และ พระพรหมสิทธิ เจ้าอาวาสวัดสระเกศ ซึ่งก่อนหน้านี้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน แต่ภายหลังศาลพิพากษาคดีถึงที่สุดไม่ปรากฏว่าพระทั้ง 2 รูป ได้ทุจริตเบียดบังเอาเงินไปใช้ประโยชน์ และภายหลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ได้สถาปนาสมณศักดิ์ คืนให้กับพระทั้ง 2 รูปดังเดิม
อ่านข่าว : สั่งจำคุก “พนม ศรศิลป์” 20 ปี ทุจริตเงินทอนวัด ให้คืน 12 ล้าน
อัยการยื่นฟ้องอดีตพระผู้ใหญ่คดี "เงินทอนวัด"