วันนี้ (9 มิ.ย.2568) ชาวบ้านหนองคันนา ซึ่งเป็นชุมชน ที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-กัมพูชามากที่สุด ใน ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ บางส่วนยังช่วยกันทำหลุมหลบภัยใกล้บริเวณบ้านแม้สถานการณ์ชายแดน จะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น
นายสยาม แสนแก้ว ผู้ใหญ่หนองคันนา ม.8 บอกว่าชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้กังวลใจมากนักเพราะ พวกเขาเคยอยู่ในพื้นที่ปะทะ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ชาวบ้านได้มีการเตรียมความพร้อม ทั้งการซักซ้อมและไม่ประมาท โดยชาวบ้านที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ก็จะลงขันสร้างหลุมหลบภัยใกล้บ้าน เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินก็จะได้หลับได้ทัน
"มีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยปี 2529 และปี 2554 ก็คือประสบการณ์ แต่ถามว่ากังวลไหมก็กังวลนิดๆ แต่ก็มีประสบการณ์ ก็เลยยังทำให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติ"
ขณะที่นักเรียน โรงเรียน บ้านหนองคันนา ก็ยังเปิดทำการเรียนการสอนปกติ มีนักเรียน กว่า 400 คน ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานในชุมชนแม้เด็กๆ จะไม่เคยเจอเหตุการณ์ปะทะ แต่นักเรียน ไม่ได้มีท่าทีกังวลใจ ซึ่ง นายณัฏฐ์ธเนศ สีน้ำคำ ผู้อำนวยการโรงเรียนหนองคันนา บอกว่าโรงเรียนจะซ้อมหลบภัย และทักษะการเอาตัวรอด ให้กับนักเรียนเป็นประจำ
"คลายกังวลใจมาก ได้ยินข่าวการเจรจากันเมื่อวานดีใจมาก ถึงแม้ว่าเราจะมีการเตรียมความพร้อม แต่ว่าเด็กอยู่กับเรา 400 กว่าคน ก็เป็นความรับผิดชอบของพวกเราและผู้นำชุมชน"
อ่านข่าว : ทบ.เปิดภาพทีมทหารไทย เข้าคลี่คลายสถานการณ์ช่องบก
สำหรับหมู่บ้านหนองคันนา เป็นชุมชนสุดท้าย ก่อนขึ้นไปยังปราสาทตาเมือน ชาวบ้านที่นี่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เคยผ่านเหตุการณ์การปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา โดยรู้สึกดีใจที่มีการเจรจาโดยสันติวิธี
ขณะที่บรรยากาศ บริเวณ ปราสาทตาเมือนธม ก็ยังคงมีชาวบ้านทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด ยังคงทยอยนำสิ่งของ น้ำดื่ม อาหารแห้ง รวมทั้งยางรถยนต์ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากทหารยังคงปักหลักดูแลบริเวณปราสาทตาเมือนธมตามเดิม เนื่องจากยังเป็นพื้นที่พิพาท ที่ทั้งไทยและกัมพูชาต่างอ้างสิทธิ์
อ่านข่าว :
อดีต สมช.ชี้ไม่ประมาทชายแดนไทย-กัมพูชา แนะรัฐบาลกองทัพเป็นหนึ่งเดียว
"กัมพูชา" ลดเวลาพำนักคนไทยเหลือ 7 วัน จากเดิม 60 วัน
บขส.หยุดเดินรถชั่วคราวเส้นทางกรุงเทพฯ-เสียมราฐ และพนมเปญ