- รู้จัก 7 ด่านค้าชายแดน จุดเชื่อมการค้าการลงทุน "ไทย-กัมพูชา"
- เปิดตำนาน "ช่องบก" สามเหลี่ยมมรกตสมรภูมิรบชายแดน 3 แผ่นดิน
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2568 สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า กัมพูชาออกมาตรการจำกัดระยะเวลาการพำนักในราชอาณาจักรของพลเมืองไทย เหลือเพียง 7 วัน จากเดิม 60 วัน โดยเมื่อครบกำหนดพลเมืองไทยจะต้องเดินทางออกจากกัมพูชา แล้วจึงสามารถกลับเข้ามาเพื่อประทับตราหนังสือเดินทางหรือบัตรผ่านแดนใหม่ได้
อธิบดีสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชา ระบุว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อตอบโต้การดำเนินการของฝั่งไทย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.2568 ซึ่งเริ่มใช้มาตรการจำกัดระยะเวลาพำนักของชาวกัมพูชาเหลือเพียง 7 วันเช่นกัน ส่งผลให้ชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้าไทยต้องเดินทางกลับออกมาก่อนเมื่อครบกำหนด และประทับตราหนังสือเดินทางใหม่เช่นกัน
ขณะที่เฟซบุ๊กของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โพสต์ข้อความเกี่ยวกับผลการหารือระหว่างทหารกัมพูชากับไทย กรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่บริเวณช่องบก โดยมีเนื้อหา 1 ย่อหน้า ระบุว่า กระทรวงกลาโหมกัมพูชาขอแจ้งให้ประชาชนทราบว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. กองทัพกัมพูชาและไทยได้ประชุมหารือกันและตัดสินใจปรับกำลังทหารของทั้ง 2 ฝ่ายให้กลับเข้าสู่พื้นที่ที่เหมาะสม เพื่อลดความตึงเครียดและลดการเผชิญหน้าตามแนวชายแดน
ในโพสต์ดังกล่าวมีชาวกัมพูชาเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ตั้งคำถามว่าทำไมต้องถอนทหารจากดินแดนของตัวเอง และเรียกร้องให้กระทรวงกลาโหมออกมาชี้แจงประเด็นนี้
"ฮุน เซน" ชี้ปรับกำลังทหารในพื้นที่พิพาทป้องกันการปะทะ
ส่วนสำนักข่าวเฟรช นิวส์ ของกัมพูชา รายงานว่า สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีท่าทีสนับสนุนการเจรจาระหว่างทหารกัมพูชากับไทย โดยโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า การปรับกำลังทหารในพื้นที่ขัดแย้งผ่านการทำความเข้าใจกันระหว่างผู้บัญชาการทหารของทั้งกัมพูชาและไทยเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะด้วยความรุนแรง โดยประชาชนทั้งกัมพูชาและไทยต่างต้องการสันติภาพที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงและไม่ต้องการให้เกิดสงคราม
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่า ความพยายามในการหาทางออกด้วยการเจรจาได้เกิดขึ้นในทุกระดับ ตั้งแต่รัฐบาลไปจนถึงผู้บัญชาการทหารแนวหน้าและขณะนี้เริ่มเห็นผลแล้ว พร้อมร้องขอให้ชาวกัมพูชาวางใจในความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยสันติวิธี ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามนองเลือดและเพื่อส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือที่ดีกับประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะเดียวกันสมเด็จฮุน เซน ยืนยันว่าการส่งข้อพิพาท 4 จุดเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีการปรับกำลังทหารในพื้นที่พิพาทก็ตาม
มีรายงานว่า ปรัก สุคน รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา ส่งจดหมายถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรียกร้องไทยให้ความร่วมมือในการยื่นข้อพิพาทเขตแดนที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนานเข้าสู่กระบวนการของ ICJ
อ่านข่าว
ไทยแถลงย้ำให้กัมพูชาลดความตึงเครียดแนวชายแดน