วันที่ 10 มิ.ย.2568 สื่อท้องถิ่นกัมพูชา รายงานด้วยว่า ทางการกัมพูชากำลังเริ่มเดินหน้าอย่างจริงจัง ในการนำเรื่องความขัดแย้งตามแนวชายแดนกับประเทศไทยขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะเสนอให้ใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ร่วมกัน ถือเป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตา ก่อนที่ตัวแทนไทยและกัมพูชาจะร่วมวงประชุม JBC ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
เฟซบุ๊กของฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ภาพเอกสารระบุถึงการตัดสินใจจัดตั้งคณะกรรมการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ กรณีข้อพิพาทพื้นที่สามเหลี่ยมมรกต ปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด และตาควาย โดยมีปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศเป็นประธาน
เว็บไซต์ khmertimes รายงานว่า กัมพูชาเริ่มเดินหน้าอย่างจริงจัง ในการนำเรื่องความขัดแย้งตามแนวแดนกับประเทศไทย ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือ ศาลโลก โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศเมื่อวานนี้ ถึงการตั้งคณะกรรมการจัดระดับสูงเพื่อจัดเตรียมเอกสารหลักฐาน ที่จะทำหน้าที่รับผิดชอบในการนำคดีพิพาทตามแนวชายแดนที่ยืดเยื้อมายาวนาน สู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หลังจากที่ประชุมร่วม 2 สภา ตัดสินใจยื่นฟ้องศาลโลกในกรณีนี้ เมื่อ 2 มิ.ย.
รายงานระบุว่า แม้ว่าทางการไทยจะเสนอให้ใช้กลไกการเจรจาทวิภาคีเพื่อยุติข้อพิพาทชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา แต่รัฐบาลกัมพูชายังเดินหน้ายื่นเรื่องต่อไป ซึ่งคณะกรรมการดังกล่าว จะมีอำนาจและสามารถดำเนินการในนามของราชอาณาจักรกัมพูชา ต่อศาลโลก โดยจะเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของกัมพูชาตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นคำร้อง ไปจนถึงขั้นตอนการพิจารณาของศาลเสร็จสิ้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการชุดนี้ยังได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบและตัดสินใจเลือกที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนไปขึ้นศาลที่กรุงเฮก เอกสารที่รวบรวมโดยกลุ่มงานด้านกฎหมาย ร่วมกับที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อยื่นต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และงานที่ดำเนินการโดยกลุ่มงานด้านกิจการทูตตามความจำเป็น
ทั้งนี้ ตามประกาศของรัฐบาลกัมพูชา ระบุว่า คณะกรรมการจะประกอบด้วยกลุ่มงาน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มงานด้านกฎหมาย ที่นำโดยรัฐมนตรียุติธรรม และกลุ่มงานด้านกิจการทูต นำโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรม
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้น ก่อนที่คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย - กัมพูชา หรือ JBC ฝ่ายไทยเตรียมเดินทางไปประชุมที่กรุงพนมเปญ ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้
มาตรการตัดไฟฟ้าไม่เปลี่ยนจุดยืนกัมพูชา ยันยึด MOU 43
khmertimes ยังเผยแพร่รายงานข่าวอีกชิ้น ระบุว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ชี้ว่า แผนของไทยที่จะตัดไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตกับพื้นที่ชายแดนของกัมพูชานั้น ไม่ได้เปลี่ยนจุดยืนของกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับไทยและวาระการประชุม JBC ที่จะมาถึง เพื่อให้กัมพูชานำเรื่องพื้นที่พิพาท 4 จุดเข้าหารือในการประชุม
โดยระบุว่า รัฐบาลกัมพูชาจะร่วมมือกับไทยในการปักปันเขตแดนต่อไปโดยใช้กลไก JBC และอยู่บนรากฐานของความตกลงระหว่างสองประเทศโดยเฉพาะบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทย-กัมพูชา พ.ศ.2543 และจะยังคงรักษาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศผ่านกลไกที่มีอยู่ทั้งหมดเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนทั้งสองประเทศ และพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุม JBC ที่จะมาถึง การตัดสาธารณูปโภค จะไม่เปลี่ยนจุดยืนหลักของกัมพูชาดังที่กล่าวมาข้างต้น แต่จะเพิ่มความตึงเครียดเท่านั้น
จับตากัมพูชาเตรียมซ้อมรบกระสุนจริง ห่างไทย 190 กม.
ขณะที่การซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ตามรายงานสื่อท้องถิ่นกัมพูชา ว่า กองทัพเรือกัมพูชาเตรียมจัดการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง เพื่อยกระดับขีดความสามารถทางกลาโหม ในวันที่ 11-13 มิ.ย.นี้ ในพื้นที่อ่าวไทย ซึ่งเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยพลเรือตรีเมย ดีนา ผู้บัญชาการฐานทัพเรือเรียมของกัมพูชา ระบุว่า การซ้อมรบดังกล่าวเป็นการฝึกซ้อมตามปกติของทหารในกองทัพเรือ และมีเป้าประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการใช้อาวุธ โดยไม่ได้เชื่อมโยงกับประเด็นใดโดยเฉพาะ
การซ้อมรบดังกล่าวจะจัดขึ้นบริเวณเกาะตังและเกาะปูลูไว ห่างจากชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของกัมพูชา ที่จังหวัดพระสีหนุประมาณ 95 กิโลเมตร
ขณะที่เกาะดังกล่าว ถ้าอ้างอิงระยะทางจากแผนที่กูเกิล ตั้งอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรคลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ลงไปทางใต้ ถึงประมาณ 190 กิโลเมตร ขณะที่ระยะห่างจากเกาะกูด จ.ตราด อยู่ที่กว่า 186 กิโลเมตร
กำหนดการซ้อมรบดังกล่าวจะจัดขึ้นต่อเนื่องหลังจากการซ้อมรบร่วม โกลเดน ดรากอน ระหว่างจีนกับกัมพูชา เมื่อวันที่ 14-28 พ.ค.ที่ผ่านมา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านกลาโหม
อ่านข่าว :
"รศ.ดุลยภาค" ชี้พิพาทไทย-กัมพูชาศึกระยะยาว แนะตั้งวอร์รูมตอบโต้ทุกมิติ
ไทม์ไลน์เจรจากัมพูชาปรับกำลังช่องบก รมช.กลาโหมคงมาตรการชายแดน
นายกฯ คุยตรง "ฮุนเซน - ฮุน มาเนต" ยึดสันติวิธี รอถก JBC โต้ปิดด่านถาวร