ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดข้อกฎหมาย "ยุติการตั้งครรภ์" เข้าถึงบริการแพทย์อย่างปลอดภัย

สังคม
14:50
99
เปิดข้อกฎหมาย "ยุติการตั้งครรภ์" เข้าถึงบริการแพทย์อย่างปลอดภัย
อ่านให้ฟัง
15:21อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
เปิดข้อกฎหมาย "ยุติการตั้งครรภ์" เข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างปลอดภัย ล่าสุด สำนักงานประกันสังคม ให้สิทธิผู้ประกันตนหญิงที่ท้องไม่พร้อมเข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในสถานพยาบาลตามสิทธิได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

ย้อนไปเมื่อปี 2563 คณะรัฐมนตรีมีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 และ 305 โดยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่คณะรัฐมนตรีจะเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติฯ เมื่อวันที่ 17 พ.ค. และส่งต่อให้รัฐสภาพิจารณา 

ต่อมาได้ประกาศใช้ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล กฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 (ราชกิจจานุเบกษา, 2564) ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 301 และมาตรา 305 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 ก.พ.2564 มีสาระสำคัญดังนี้

มาตรา 301 หญิงใดทำให้ตนเองแท้งลูกหรือยอมให้ผู้อื่นทำให้ตนแท้งลูกขณะมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรา 305 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 301 หรือมาตรา 302 เป็นการกระทำของผู้ประกอบ
วิชาชีพเวชกรรมและตามหลักเกณฑ์ของแพทยสภาในกรณีดังต่อไปนี้ ผู้กระทำไม่มีความผิด

1. จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากหากหญิงตั้งครรภ์ต่อไปจะเสี่ยงต่อการได้รับอันตรายต่อสุขภาพทางกายหรือจิตใจของหญิงนั้น

2. จำเป็นต้องกระทำเนื่องจากมีความเสี่ยงอย่างมาก หรือมีเหตุผลทางการแพทย์อันควรเชื่อได้ว่าหากทารกคลอดออกมาจะมีความผิดปกติถึงขนาดมทุพพลภาพอย่างร้ายแรง

3. หญิงยืนยันต่อผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าตนมีครรภ์เนื่องจากการกระทำผิดเกี่ยวกับเพศ

4. หญิงซึ่งมีครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์

5. หญิงซึ่งมีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ ยืนยันที่จะยุติการตั้งครรภ์ภายหลังการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือกจากผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และผู้ประกอบวิชาชีพอื่นตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของแพทยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น

พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 ฉบับนี้ ถือเป็นการประกาศรับรองสิทธิของผู้หญิงในการจัดการกับเนื้อตัวร่างกายของตนเอง โดยให้มีมาตรการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่กระทบต่อการใช้สิทธิของหญิง และคุ้มครองชีวิตของทารกในครรภ์

กฎเกณฑ์ของแพทยสภา เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์

ภายหลังจากการที่ได้มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 ตั้งแต่ 7 ก.พ.2564 ถือเป็นการรับรองอย่างเป็นทางการถึงสิทธิของผู้หญิงในการจัดการกับร่างกาย แต่ยังมีประเด็นที่ต้องลงรายละเอียดในกฎเกณฑ์ของแพทยสภา โดยข้อบังคับนี้เรียกว่า "ข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ ทางการแพทย์ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามมาตรา 305 แห่งประมวญกฎหมายอาญา พ.ศ.2564" มีบังคับตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค.2564 เพื่อกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับแพทย์ในการยุติการตั้งครรภ์อย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย มีสาระสำคัญโดยสรุปดังนี้ 

1. มาตรา 305 ของประมวลกฎหมายอาญา การยุติการตั้งครรภ์ของหญิงที่ประสงค์จะยุติการตั้งครรภ์ จำต้องกระทำโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอันอยู่ภายใต้มาตรฐานของการประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งคำนึงถึงความปลอดภัยของหญิงนั้นเป็นสำคัญ

2. การยุติการตั้งครรภ์จำต้องกระทำภายใต้ความรู้ความเข้าใจของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมผู้นั้นเป็นสำคัญด้วย ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยแก่หญิงนั้น 

3. ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 305 หรือข้อบังคับของแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์การยุติการตั้งครรภ์ฯ มิได้มีการบังคับให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจำต้องมีหน้าที่จะต้องยุติการตั้งครรภ์ แต่ในกรณีที่หญิงตั้งครรภ์อาจถึงแก่ชีวิตเพราะการตั้งครรภ์ต่อ และมีข้อบ่งชี้ว่าการยุติการตั้งครรภ์นั้นอาจทำให้หญิงพ้นจากอันตรายนั้นได้ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจำต้องดำเนินการรักษาหญิงนั้น หากเกินความสามารถของตนก็ควรส่งต่อตามระบบเพื่อขจัดอันตรายให้หญิงนั้น

4. การยุติการตั้งครรภ์ทั้งสองกรณีตามมาตรา 305 (1) ในส่วนปัญหาสุขภาพทางจิตใจของหญิงนั้น และ (2) ทารกที่เสี่ยงจะพิการหรือทุพพลภาพเมื่อคลอดออกมานั้น ต้องมีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมอีกคน มารับรองผลการวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าวซึ่งมีความซับซ้อนเป็นพิเศษ

5. การยุติการตั้งครรภ์ในกรณีที่หญิงตั้งครรภ์เนื่องจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ หญิงนั้นจะต้อง ยืนยันข้อเท็จจริงเป็นหนังสือเพื่อเป็นหลักฐานไว้กับผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมว่าเป็นการตั้งครรภ์ เนื่องจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับเพศ ซึ่งข้อเท็จจริงที่เป็นหนังสือนั้นกฎหมายไม่ได้เรียกร้องถึงขนาดว่าหญิงนั้นจำต้องดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมให้เสร็จสิ้นก่อนแต่อย่างใด

6. กฎหมายอาญามาตรา 305 ไม่ได้กำหนดเงื่อนไขว่าการจะแสดงความยินยอมของหญิงนั้นจะต้องขออนุญาตจากผู้ใดก่อน ถึงจะถือว่าหญิงได้ให้ความยินยอมแก่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม

7. การยุติการตั้งครรภ์ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจะต้องกระทำในสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน ซึ่งรวมถึงคลินิกเวชกรรม ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของหญิง

สำหรับข้อบังคับนี้มีเป้าหมายเพื่อให้การยุติการตั้งครรภ์เป็นไปอย่างปลอดภัย ถูกกฎหมาย และเคารพสิทธิของผู้หญิง โดยเฉพาะในกรณีที่การตั้งครรภ์ไม่พร้อมหรือมีเหตุผลทางการแพทย์ รวมถึงสนับสนุนการแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นตาม พระราชบัญญัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2560

ประกันสังคม ให้สิทธิ "ยุติการตั้งครรภ์" 

เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา สำนักงานประกันสังคม ให้สิทธิผู้ประกันตนหญิงที่ท้องไม่พร้อม สามารถเข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในสถานพยาบาลตามสิทธิได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์ได้ ตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับของแพทยสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามมาตรา 305 แห่งประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2564

นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมได้จัดให้มีสถานพยาบาลทั้งในรูปแบบสถานพยาบาลหลักคู่สัญญา และสถานพยาบาลอื่นที่เป็นการรักษาเฉพาะทาง ผู้ประกันตนสามารถใช้สิทธิการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลตามสิทธิได้ หากสถานพยาบาลตามสิทธิจำเป็นต้องส่งต่อไปยังสถานพยาบาลอื่น ทั้งที่เป็นสถานพยาบาลศักยภาพสูง หรือสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอนามัย ให้ค่าใช้จ่ายอยู่ในความรับผิดชอบของสถานพยาบาลตามสิทธิ

ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมได้รับทราบข้อมูลว่า สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณสำหรับการดูแลการให้บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยในส่วนของงบประมาณส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคและงบประมาณบริการผู้ป่วยใน ซึ่งเป็นการจ่ายให้คนไทยทุกสิทธิการรักษา ดังนั้น ผู้ประกันตนที่มีสัญชาติไทยสามารถใช้สิทธิบริการยุติการตั้งครรภ์ได้ทั้ง 2 ลักษณะ ได้แก่

  • เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอนามัยสามารถใช้สิทธิได้ เช่นเดียวกับผู้ที่มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า 
  • เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลตามสิทธิ กรณีสถานพยาบาลตามสิทธิไม่สามารถให้การรักษาได้ ให้ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามที่กรมอนามัยกำหนด หรือหากส่งต่อไปยังสถานพยาบาลศักยภาพสูงหรือสถานพยาบาลอื่น ให้สถานพยาบาลตามสิทธิรับผิดชอบค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน

ส่วนผู้ประกันตนที่ไม่ใช่สัญชาติไทย ให้เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลตามสิทธิ กรณีสถานพยาบาลตามสิทธิไม่สามารถให้การรักษาได้ ให้ส่งต่อไปยังสถานพยาบาลตามที่กรมอนามัยกำหนด หรือหากส่งต่อไปยังสถานพยาบาลศักยภาพสูงหรือสถานพยาบาลอื่น โดยให้สถานพยาบาลตามสิทธิรับผิดชอบค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน

การยุติการตั้งครรภ์ ไม่ใช่แค่ทางเลือกหนึ่งทางการแพทย์ แต่เป็นกระจกสะท้อนถึงการเข้าถึงความรู้ สุขภาพ และสิทธิของผู้หญิง หลายครั้งการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นการเปิดพื้นที่พูดคุยอย่างเข้าใจ และการจัดระบบสนับสนุนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสังคม คือสิ่งที่จำเป็น

ยุติตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย ในระบบบัตรทอง 30 บาท

ถ้ามีความจำเป็นต้อง “ยุติตั้งครรภ์” ตามเงื่อนไขของประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 28) พ.ศ. 2564 และข้อบังคับแพทยสภา สามารถรรับบริการยุติตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัยภายใต้ “ระบบบัตรทอง 30 บาท” ที่หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้ง 63 แห่ง ครอบคลุม 63 จังหวัด ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

เงื่อนไขการรับบริการ

1. หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ให้แจ้งความประสงค์ต่อแพทย์ ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมบริการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจและรับคำปรึกษาทางเลือก

2. กรณีอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์หากยืนยันจะยุติการตั้งครรภ์แนะนำให้ปรึกษาแพทย์

หมายเหตุ : หญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี จะเข้ารับบริการยุติการตั้งครรภ์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองหรือผู้ดูแล

วิธีการใช้สิทธิ

1. ติดต่อหน่วยบริการ แจ้งขอใช้ "สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ" ก่อนรับบริการพร้อมแสดงหลักฐาน ประกอบ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน หรือเอกสารที่ทางราชการออกให้ที่มีรูปถ่าย มีเลขประจำตัว ประชาชน หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ที่ยังไม่ได้ทำบัตรประจำตัว
ประชาชนให้ใช้ "สูติบัตร" แทน (ใบเกิด)

2. กรณีหน่วยบริการเกินศักยภาพจะส่งต่อยังหน่วยบริการที่มีศักยภาพต่อไป

ยุติการตั้งครรภ์ที่ไหนได้บ้าง

1. โรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม 

2. หน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ทั้ง 63 แห่ง ครอบคลุม 63 จังหวัด 

3. โรงพยาบาลในเครือข่าย RSA

  • ให้บริการตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
  • มีทีมแพทย์ให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด

4. คลินิกหรือหน่วยบริการที่ผ่านการรับรอง เช่น คลินิกเวชกรรมที่เข้าร่วมกับเครือข่าย RSA มีแพทย์ที่ผ่านการอบรมเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย

สถานบริการในเครือข่าย RSA แบ่งเป็นสองกลุ่ม

กลุ่มแรก

  • คลินิกเวชกรรม สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน (PDA) ติดต่อนัดหมายก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
    PDA ไม่มีการขายยาในเว็บไซต์
  • คลินิกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ (สวท) 9 สาขา ติดต่อนัดหมายก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
    “สวท ไม่มีการขายยาทางเว็บไซต์ อย่าหลงเชื่อเว็บไซต์ที่แอบอ้าง”
  • คลินิกวางแผนครอบครัว โรงพยาบาลคลองตัน ติดต่อนัดหมายก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง
    โรงพยาบาลคลองตันไม่ได้เปิดเว็บไซต์ ไม่มีการติดต่อทางอีเมล และไม่มีการขายยาทางอินเทอร์เน็ต รับอายุครรภ์ถึง 24 สัปดาห์ (หรือ ถึง 26 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์)
  • หน่วยบริการเพิ่มเติม ( ติดต่อนัดหมายก่อนเข้ารับบริการทุกครั้ง )

เช็กข้อมูลติดต่อสถานบริการในเครือข่าย RSA หรือ ทำนัด ที่นี่

กลุ่มสอง 

  • ผู้รับบริการ Walk in ไม่ได้ ต้องติดต่อประสานผ่านสายด่วน 1663 หรือหน่วยบริการปรึกษาก่อนเข้ารับบริการ ทั้งหมดเป็นโรงพยาบาลภาครัฐ

ขั้นตอนการเข้าใช้บริการโรงพยาบาลในเครือข่าย RSA 

  • ติดต่อทีมปรึกษา RSA เพื่อดูว่าสถานที่ใดใกล้คุณที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวตนทันที RSA จะช่วยประสานงาน และให้ข้อมูลเบื้องต้นที่จำเป็น

  • ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับสถานที่ยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย ติดต่อเราได้ที่นี่ ระบบปรึกษาท้องไม่พร้อม RSA Online : https://abortion.rsathai.org
    LINE Official : @rsathai
    Inbox Facebook Page : rsathai
    บริการให้คำปรึกษาออนไลน์ วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 8.00-19.00 น.

อ้างอิงข้อมูล : แพทยสภา, สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์, คลังสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ

อ่านข่าว : สถานทูตไทยในบาห์เรน ออกประกาศ ฉ.8 ระบุเหตุการณ์คลี่คลาย - ย้ำให้เตรียมกระเป๋าฉุกเฉิน

สพฐ.สั่งสอบข้อเท็จจริงคลิปเด็ก 13 ปี ทำร้ายรุ่นพี่จนสลบ

ผู้ส่งออก ชี้ “ปิดช่องแคบฮอร์มุซ” ไทยเสี่ยงด้านพลังงาน สินค้าเกษตรต้นทุนพุ่ง