ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไขคำตอบ "ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ" คืออะไร ทำไมโลกต้องกังวล ?

ไลฟ์สไตล์
19:21
74
ไขคำตอบ "ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ" คืออะไร ทำไมโลกต้องกังวล ?
"ยูเรเนียม" กลายเป็นหัวใจของความขัดแย้งโลก เมื่ออิหร่านเร่งพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ด้วยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมถึงระดับ 60% ใกล้เคียงกับเกรดอาวุธ การโจมตีฐานนิวเคลียร์โดยสหรัฐฯ-อิสราเอล สร้างความกังวลถึงความมั่นคงโลก เสี่ยงต่อการแข่งขันอาวุธในตะวันออกกลาง

ลองนึกถึงโลหะสีเงินที่ซ่อนอยู่ในหินและดินมีชื่อว่า "ยูเรเนียม" มันมีพลังงานมหาศาลและมีอันตรายเต็มเปี่ยม เพราะมี กัมมันตภาพรังสี ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ในตารางธาตุ ยูเรเนียมมี เลขอะตอม 92 นับตามจำนวนอนุภาคที่เรียกว่าโปรตอนในใจกลางของอะตอม ซึ่งทำให้มันเป็น "ธาตุหนัก"

สิ่งที่น่าสนใจคือยูเรเนียมในธรรมชาติ มี 2 ไอโซโทป คือ

  1. ยูเรเนียม-238 (U-238) มีโปรตอน 92 ตัวและนิวตรอน 146 ตัว คิดเป็นประมาณร้อยละ 99.27 ของยูเรเนียมทั้งหมด
  2. ยูเรเนียม-235 (U-235) มีโปรตอน 92 ตัวและนิวตรอน 143 ตัว มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 0.72 เท่านั้น

แต่ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยของจำนวนนิวตรอนที่ห่างกันเพียง 3 ตัวนี้ กลับมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ "ปฏิกิริยานิวเคลียร์"

เฉพาะยูเรเนียม-235 เท่านั้นที่สามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ (Chain reaction) ได้ในปฏิกิริยานี้ นิวตรอนจะเข้าชนและแยกนิวเคลียสของอะตอมยูเรเนียม-235 ปลดปล่อยพลังงานมหาศาลพร้อมกับนิวตรอนตัวใหม่ ซึ่งจะไปชนอะตอมอื่น ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ นี่คือหลักการพื้นฐานที่ใช้ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพื่อผลิตไฟฟ้า และในทางกลับกันก็คือหลักการทำงานของระเบิดปรมาณูที่สร้างพลังทำลายล้างมหาศาลจากการเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ที่รวดเร็วและควบคุมไม่ได้

ดังนั้น เพื่อให้ยูเรเนียมสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าหรือเป็นวัสดุสำหรับอาวุธนิวเคลียร์ จำเป็นต้องเพิ่มสัดส่วนของยูเรเนียม-235 ให้สูงขึ้นจากระดับธรรมชาติ กระบวนการนี้เรียกว่า การเสริมสมรรถนะยูเรเนียม (Uranium Enrichment)

การเสริมสมรรถนะยูเรเนียม (Uranium Enrichment)

วิธีการที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ การใช้เครื่องเหวี่ยงแก๊ส (Gas Centrifuge) อาศัยหลักการของแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง ก๊าซยูเรเนียมเฮกซะฟลูออไรด์ (UF6) ซึ่งเป็นสารประกอบของยูเรเนียม จะถูกป้อนเข้าไปในกระบอกสูบที่เรียกว่าโรเตอร์ ซึ่งจะหมุนด้วยความเร็วสูงมาก 70,000 รอบ/นาที

ด้วยแรงเหวี่ยงนี้ จะทำให้โมเลกุลของยูเรเนียม-238 ที่หนักกว่าจะถูกผลักออกไปด้านนอกของโรเตอร์ ในขณะที่โมเลกุลของยูเรเนียม-235 ที่เบากว่าจะยังคงรวมตัวอยู่ใกล้ศูนย์กลาง การสกัดก๊าซจากส่วนต่าง ๆ ของเครื่องเหวี่ยงจะช่วยให้ได้ยูเรเนียม-235 ที่มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

เนื่องจากการแยกในแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพจำกัด จึงจำเป็นต้องเชื่อมต่อเครื่องเหวี่ยงหลายเครื่องเข้าด้วยกันเป็นชุดที่เรียกว่า "ชุดเครื่องเหวี่ยง" (Cascades) เพื่อดำเนินการแยกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกว่าจะถึงระดับความเข้มข้นที่ต้องการ

ทำไมการเสริมสมรรถนะจึงเป็นเรื่องน่ากังวล

สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ทั่ว ๆ ไป ยูเรเนียมโดยทั่วไปจะถูกเสริมสมรรถนะให้มีความเข้มข้นของยูเรเนียม-235 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 3-5 ซึ่งเพียงพอสำหรับการรักษาระดับปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ควบคุมได้ และไม่เพียงพอที่จะนำไปสร้างอาวุธนิวเคลียร์ได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับการผลิต "อาวุธนิวเคลียร์" ยูเรเนียมที่ใช้มักจะต้องมีความเข้มข้นของยูเรเนียม-235 สูงกว่าร้อยละ 90 ซึ่งจะเรียกว่า "ยูเรเนียมเกรดอาวุธ" (Weapon-Grade Uranium - WGU) การสร้างระเบิดเริ่มต้นด้วยยูเรเนียม-235 ที่ความเข้มข้นร้อยละ 20 แต่เพื่อให้ระเบิดมีขนาดกะทัดรัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ความเข้มข้นร้อยละ 90 จึงเป็นสิ่งที่ต้องการ

ประเด็นสำคัญที่น่ากังวลคือ การเพิ่มความเข้มข้นของยูเรเนียมจากร้อยละ 60 ไปยังร้อยละ 90 นั้นง่ายกว่ามาก เมื่อเทียบกับการเพิ่มความเข้มข้นจากระดับธรรมชาติที่ร้อยละ 0.72 ไปยังร้อยละ 60 เนื่องจากต้องกำจัดยูเรเนียม-238 ออกไปน้อยลง นี่จึงเป็นสาเหตุที่เทคโนโลยีเครื่องเหวี่ยงแก๊ส ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด 

เส้นทางนิวเคลียร์ของ "อิหร่าน"

โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดที่สุดในโลก แม้อิหร่านจะยืนยันมาโดยตลอดว่าโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสันติ เช่น การผลิตพลังงาน แต่จากข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐฯ ชี้ว่า อิหร่านเคยดำเนินโครงการอาวุธนิวเคลียร์ลับที่ชื่อว่า "AMAD" มาแล้วและถูกระงับไปในปี 2003

จุดเริ่มต้นของโครงการนิวเคลียร์อิหร่านย้อนไปถึงทศวรรษที่ 1950 ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ และยุโรปตะวันตก แต่หลังจากปฏิวัติอิสลามในปี 1979 โครงการชะลอตัวลงและกลับมาเร่งความเร็วอีกครั้งอย่างลับ ๆ ในช่วงทศวรรษ 1990

ในปี 2002 มีการเปิดเผยโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่ไม่เคยประกาศไว้ที่ นาทานซ์ และโรงงานน้ำหนักเบาที่อารัก ต่อมาในปี 2009 ก็มีการเปิดเผยโรงงานใต้ดินที่ฟอร์โดว์ การปิดบังและแอบสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้โดยไม่แจ้งต่อทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ได้จุดชนวนวิกฤตการณ์ระหว่างประเทศและตั้งคำถามถึงเจตนาที่แท้จริงของโครงการ

เพื่อตอบสนองต่อความกังวลของนานาชาติ ได้มีการเจรจาจนนำไปสู่การลงนามใน "แผนปฏิบัติการร่วมฉบับสมบูรณ์" (Joint Comprehensive Plan of Action - JCPOA) หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน" ในปี 2015 ข้อตกลงนี้ทำขึ้นระหว่างอิหร่าน สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี จีน และรัสเซีย โดยมีเป้าหมายจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

ภายใต้ JCPOA อิหร่านตกลงจำกัดการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่ร้อยละ 3.67 เป็นเวลา 15 ปี และจำกัดปริมาณยูเรเนียมเสริมสมรรถนะไว้ที่ 300 กก. รวมถึงการอนุญาตให้ IAEA ตรวจสอบอย่างเข้มงวดขึ้น

แต่ในปี 2018 สหรัฐฯ ภายใต้การนำของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ สมัยแรก ได้ประกาศถอนตัวออกจากข้อตกลง ซึ่งนำไปสู่การกลับมาบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอีกครั้ง นับตั้งแต่นั้นมา อิหร่านก็เริ่มละเมิดข้อจำกัดของ JCPOA อย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขีดความสามารถในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมขึ้นอย่างมาก ทั้งในด้านปริมาณและระดับความบริสุทธิ์

อิหร่านตอนนี้ใกล้ระเบิดแค่ไหน ?

จากรายงานของ IAEA เมื่อเดือน พ.ค.ปีนี้ อิหร่านมียูเรเนียมเข้มข้นร้อยละ 60 ถึง 408.6 กิโลกรัม ซึ่งเพิ่มจากครั้งก่อนเกือบร้อยละ 50 ระดับร้อยละ 60 นี้ใกล้เคียงยูเรเนียมเกรดอาวุธ (ร้อยละ 90) และไม่มีเหตุผลสำหรับใช้ในโรงไฟฟ้าในอิหร่านเลย IAEA ตั้งข้อสังเกต อิหร่านเป็นชาติเดียวที่ไม่มีระเบิดนิวเคลียร์แต่ทำไมมียูเรเนียมเข้มขนาดนี้

ถ้าอิหร่านเอายูเรเนียมร้อยละ 60 ไปทำให้เข้มถึงร้อยละ 90 ที่โรงงานฟอร์โดว์ อาจใช้เวลาแค่ 3 สัปดาห์ ก็จะได้ยูเรเนียมเกรดอาวุธ 233 กิโลกรัม ซึ่งทำระเบิดได้ 9 ลูก (แต่ละลูกใช้ 25 กิโลกรัม) ถ้าใช้ทั้งฟอร์โดว์และนาทานซ์พร้อมกัน อาจทำได้ถึง 22 ลูก ใน 5 เดือน

อิหร่านมีเครื่องหมุนเหวี่ยงล้ำสมัยมากถึง 14,689 เครื่อง และรวมรุ่นเก่าด้วยอีก 21,900 เครื่อง โดยใช้งานจริงราว 18,000 เครื่อง ถ้าอิหร่านยังใช้ยูเรเนียมเข้มข้นร้อยละ 20 เป็นวัตถุดิบ เพื่อทำให้เป็นร้อยละ 60 จะใช้เวลาเพียงแค่ 3 เดือนก็ไม่มียูเรเนียมร้อยละ 20 เหลือแล้ว

ยูเรเนียมทั้งหมดของอิหร่านตอนนี้มีถึง 9,247.60 กิโลกรัม รวมทุกความเข้มข้น และความสามารถในการทำยูเรเนียมเข้มข้นอยู่ที่ 64,000 หน่วยแยกต่อปี (หน่วยวัดความสามารถของเครื่องหมุนเหวี่ยง) นี่ยิ่งทำให้โลกกังวลว่า อิหร่านอาจแอบเตรียมการใหญ่อะไรหรือไม่ ?

มากไปกว่านั้น อิหร่านหยุดให้ IAEA ตรวจสอบแบบเต็มที่ตั้งแต่ปี 2564 โดยถอนพิธีสารเพิ่มเติม และถอดเครื่องตรวจสอบออก ทำให้ IAEA ไม่รู้ว่ายูเรเนียมหรือเครื่องมืออยู่ที่ไหน เรียกว่า สูญเสียข้อมูลต่อเนื่อง และอิหร่านยังไล่ผู้ตรวจสอบที่มีประสบการณ์ออก ไม่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ลับ เช่น Turquzabad หรือ Marivan ซึ่งเคยพบร่องรอยยูเรเนียม ทำให้โลกยิ่งกังวลว่าอิหร่านกำลังซ่อนอะไรกันแน่

ฐานผลิตนิวเคลียร์สำคัญของอิหร่าน

  1. นาทานซ์ โรงงานหลักที่ทำยูเรเนียมเข้มข้น มีทั้งส่วนบนดินและใต้ดิน ใช้เครื่องหมุนเหวี่ยงรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ 
  2. ฟอร์โดว์ โรงงานใต้ภูเขาที่แข็งแกร่งมาก ใช้ทำยูเรเนียมร้อยละ 60 และถูกออกแบบให้ทนการโจมตี
  3. อิสฟาฮาน ศูนย์ที่เปลี่ยนยูเรเนียมจากหินเป็นก๊าซ สำหรับเครื่องหมุนเหวี่ยง และเก็บยูเรเนียมเข้มข้นไว้จำนวนมาก
  4. อารัก โรงงานที่ทำเครื่องปฏิกรณ์น้ำหนักเบา ซึ่งอาจผลิต พลูโตเนียม (วัตถุดิบอีกแบบสำหรับระเบิด) แต่ถูกปรับตาม JCPOA ให้ไม่ผลิตมาก 
  5. เครื่องปฏิกรณ์วิจัยเตหะราน ใช้ทำไอโซโทปทางการแพทย์ เดิมใช้ยูเรเนียมเข้มข้นสูง แต่เปลี่ยนเป็นร้อยละ 20
  6. สถานที่ที่ไม่เคยประกาศ (Undeclared Sites) IAEA ยังคงสอบสวนสถานที่ที่ไม่เคยประกาศหลายแห่ง เช่น Turquzabad, Varamin, Marivan และ Lavisan-Shian ที่พบร่องรอยของวัสดุนิวเคลียร์ที่ไม่เปิดเผย การมีอยู่ของสถานที่เหล่านี้ยิ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับเจตนาของอิหร่าน

เมื่อโลกต้องลงมือ

12 มิ.ย. IAEA บอกว่าอิหร่านไม่ทำตามข้อตกลงนิวเคลียร์ครั้งแรกในรอบ 20 ปี อิหร่านตอบโต้ด้วยการบอกว่าจะสร้างโรงงานใหม่และเพิ่มเครื่องหมุนเหวี่ยง คืนวันที่ 13 มิ.ย. อิสราเอลส่งเครื่องบินถล่มฐานนิวเคลียร์ นาทานซ์ ฟอร์โดว์ อิสฟาฮาน และ โรงงานขีปนาวุธ ต่อมา 21 มิ.ย. สหรัฐฯ ถล่มที่เดียวกัน หวังทำลายความสามารถของอิหร่าน

แต่ภาพจากดาวเทียมก่อนโจมตีเห็นรถบรรทุกวิ่งออกจากโรงงาน ทำให้นักวิเคราะห์สงสัยว่า อิหร่านอาจย้ายยูเรเนียมไปซ่อนที่อื่นแล้ว บางคนบอกว่าอิสราเอลอาจรู้ข้อมูลล่วงหน้า แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่ายูเรเนียมทั้งหมดถูกทำลายหรือไม่

ถ้าอิหร่านทำระเบิดนิวเคลียร์ได้จริง "ตะวันออกกลาง" จะวุ่นวายหนักเพราะชาติอื่น ๆ อย่าง ซาอุดีอาระเบีย หรือ ตุรกี อาจอยากมีระเบิดบ้าง เหจุการณ์จะพัฒนากลายเป็น การแข่งขันกันสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเปิดทางนำไปสู่สงครามใหญ่ และถ้าอิหร่านให้ยูเรเนียมหรือเทคโนโลยีกับกลุ่มก่อความวุ่นวาย อาจเกิด การก่อการร้ายด้วยนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อมนุษยชาติได้

หากตะวันออกกลางเกิดความวุ่นวาย ย่อมสั่งผลกระทบทั้งโลก เช่น ราคาน้ำมันพุ่ง เพราะภูมิภาคนี้เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ การมีระเบิดของอิหร่าน ยังอาจทำให้กล้าสนับสนุนกลุ่มที่สร้างปัญหามากขึ้น โดยไม่กลัวการตอบโต้

การทำความเข้าใจ "ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะ" จึงไม่ใช่แค่เรื่องของวิทยาศาสตร์ เคมี และ ฟิสิกส์ เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ การเมืองระหว่างประเทศ และความมั่นคงของโลกอย่างแยกไม่ออก ในขณะที่อิหร่านยังคงเดินหน้าในเส้นทางนิวเคลียร์ของตน โลกก็ยังคงจับตามองด้วยความกังวลอย่างยิ่งยวด

แหล่งข้อมูล : Gas Centrifuge: An Important Technology for Uranium EnrichmentThe Iran Nuclear Deal: Geopolitical RamificationsWhat is uranium enrichment that makes Israel and the US worried?

อ่านข่าวอื่น :

ตร.ไซเบอร์เรียก "มินนี่" สอบเพิ่ม 27 มิ.ย. ส่งสำนวนคดีอัยการ ก.ค.นี้

ใคร ๆ ก็รุมรัก “แม่ทัพกุ้ง” ทหารไทยทันคูเหลี่ยมกัมพูชา