Thailand Web Stat
ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ใคร ๆ ก็รุมรัก “แม่ทัพกุ้ง” ทหารไทยทันคูเหลี่ยมกัมพูชา

การเมือง
11:19
212
ใคร ๆ ก็รุมรัก “แม่ทัพกุ้ง” ทหารไทยทันคูเหลี่ยมกัมพูชา
อ่านให้ฟัง
00:00อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
การไปตรวจเยี่ยมชายแดนที่อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถือเป็นการติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจทหารกับเจ้าหน้าที่ตามแนวชายแดนอีกครั้ง

หลังจากก่อนหน้านี้ ไปที่ฐานมรกต หรือช่องบก จ.อุบลฯ พร้อมกับแม่ทัพภาค 2 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ในวันที่มีการขอโทษอย่างเป็นทางการ สำหรับการพูดพาดพิงถึงในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา

สำหรับ พล.ท.บุญสิน ถือเป็นขวัญใจของคนไทยทั้งประเทศ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ล่วงรุกพื้นที่ที่ช่องบก เพราะเป็นคนแรก ๆ ที่กล้าพูดชัดเจน ขณะที่รัฐบาลไทยยังอ้ำอึ้งเสมือนเกรงอกเกรงใจกัมพูชา โดยระบุว่า กัมพูชาละเมิดเอ็มโอยู 43 ครั้งแล้วครั้งเล่า และลักลอบเข้ามาขุดคูเลตในเขตพื้นที่ของไทยจริง ทหารไทยจึงผลักดันตอบโต้ และประกาศชัดว่า ถ้าจะเข้ามายึดพื้นที่ ก็ต้องดวลกัน

วันก่อน (25 มิ.ย.) แม่ทัพภาค 2 เพิ่งเดินทางไปทำบุญถวายพระพุทธรูปพระพุทธโมลีโลกนาถ ที่วัดโนนสวรรค์เนรมิต จ.อุดรธานี โดยมีประชาชนหลากหลายอาชีพแห่ไปต้อนรับแน่นวัด รวมทั้งครูจาก จ.บุรีรัมย์ คนหนึ่งที่ขับรถไปไกลกว่า 200 กม.นำภาพวาดของ “แม่ทัพกุ้ง” และเขียนคำว่า “เพื่อชาติ” ไปส่งมอบให้

พล.ท.บุญสิน พูดย้ำหนักแน่นว่า ให้พี่น้องทุกคนสบายใจได้ ไม่ต้องห่วงเรื่องชายแดน แม่ทัพภาค 2 จะดูแลให้ และไทยจะไม่เสียดินแดนให้กับใคร

“แม่ทัพกุ้ง” เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในเวลาอันรวดเร็ว ในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชากำลังตึงเครียด ปกติเป็นคนอ่อนน้อม พูดน้อย แต่ต่อยหนัก แม้แต่การถูกพูดพาดพิงจากนายกฯ ว่า อยู่คนละฝ่าย แต่ได้แสดงความเป็นผู้ใหญ่และชายชาติทหาร ไม่ติดใจกับคำพูดของผู้นำประเทศที่เป็นเสมือนผู้บังคับบัญชา

ไม่เพียงไม่ติดใจ ยังแสดงท่าทีขานรับ และสนับสนุนแนวทางของรัฐบาล เรื่องแก้ไขข้อขัดแย้งชายแดนด้วยแนวสันติวิธี ซึ่งกองทัพและฝ่ายความมั่นคง ได้แสดงให้เห็น ผ่านการใช้มาตรการเปิดปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มี 4 ระดับ จากน้อยสุดไปหามากสุด คือ ปิดด่านพรมแดนอย่างที่เป็นในปัจจุบัน

หลังประเมินสถานกาณ์แล้วส่อเค้าทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงประเทศ จากท่าทีและการจุดกระแสชาตินิยมของผู้นำกัมพูชา แต่กระนั้น ได้ผ่อนปรนเปิดให้เด็กนักเรียน และผู้ป่วยที่มีความจำเป็นจากฝั่งกัมพูชา เดินทางเข้ามาในเขตประเทศไทยได้

ล่าสุด คือการผ่อนปรนเปิดประตูจุดผ่านแดนถาวรที่บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เมื่อเย็นวันพุธ (25 มิ.ย.) ให้คนกัมพูชาที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ แต่มาไม่ทันเดดไลน์ที่กำหนดไว้ วันที่ 24 มิ.ย. โดยอนุโลมให้ผ่านพรมแดนไปฝั่งกัมพูชาได้ หลังมีเหตุการณ์วุ่นวาย แสดงความไม่พอใจจากชาวกัมพูชาที่ต้องการกลับประเทศ ซึ่งช่วยให้สถานการณ์ที่ตึงเครียดได้คลี่คลายลง

ความจริง การใช้มาตรการเปิดปิดด่านชายแดนของกองทัพไทย ที่ถูกนำมาใช้ในขณะนี้ ถือเป็นมาตรการสำคัญที่มีความจำเป็น สำหรับหลีกเลี่ยงการปะทะหรือความรุนแรง ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จากการก่อหวอด หรือความไม่พอใจ หรือแม้แต่การถูกยั่วยุ หากไม่ใช่มาตรการปิดด่าน อาจก่อให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างคน 2 ประเทศ จากกรณีน้ำผึ้งหยดเดียวขึ้นได้

ถือเป็นแนวทางที่กองทัพไทยคงตระหนักรู้ทันกลเม็ดในเรื่องนี้ดี เนื่องจากกัมพูชาแสดงจุดยืนตั้งแต่ต้น ไม่นำเรื่องพื้นที่พิพาทสามเหลี่ยมมรกตเข้าหารือเพื่อหาทางออกในเวทีเจบีซี แต่กลับจะลากไปที่ศาลโลก และพยายามขยายผลเรื่องนี้ให้เป็นข่าวระดับโลก โดยอาจหวังว่า จะได้รับความเห็นใจจากชาวโลก เพราะเป็นประเทศที่เล็กกว่า จึงถูกประเทศไทยรังแก ข่มเหง

ซึ่งยุทธวิธีดังกล่าวของกัมพูชา จะประสบความสำเร็จ และสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนเข้าสู่เวทีนานาชาติได้ ไม่ว่าจะร้องต่อสหประชาชาติ หรือ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติได้ หากมีปัจจัยประกอบเพื่อความสมจริงสมจัง โดยเฉพาะการมีเหตุการณ์ปะทะ หรือใช้ความรุนแรง ถึงขั้นเลือดตกยางออกได้ยิ่งดี แต่จนแล้วจนรอด ทางฝ่ายไทยยังใช้ความอดทนอดกลั้นรับมือได้จนถึงขณะนี้

แต่กลับกลายเป็นคนกัมพูชา ที่เป็นกลุ่มผู้หาเช้ากินค่ำ และค้าขายตามแนวชายแดน ที่ต้องได้รับความลำบากจากนโยบายและการตัดสินใจของผู้นำ ทั้งการปิดด่านเพื่อตอบโต้ไทย การประกาศไม่ซื้อสินค้า ไฟฟ้า น้ำมัน และอินเตอร์เน็ตจากประเทศไทย จนเกิดความระส่ำระสายไปทั่ว

ขณะที่ผู้นำ อย่างสมเด็จฮุน เซน กลับใช้เรื่องความเดือดร้อนดังกล่าวนี้ สร้างบทบาทให้ตนเองเป็นฮีโร่ต่อไป ไม่ว่าจะการโพสต์ภาพนั่งเครื่องบินส่วนตัว ไปซื้อน้ำมันที่สิงคโปร์ ไม่ง้อไทย และเปิดภาพ นั่ง ฮ.ไปตรวจเยี่ยมทหารใกล้ชายแดนไทย

แต่เรื่องนี้ ได้ถูกตั้งข้อสังเกตจากนักสังเกตการณ์การเมืองว่า อาจมีความไม่ชอบมาพากลเกิดขั้นได้ เพราะมีเรื่องทางธุรกิจและผลประโยชน์ที่ยังต้องดำเนินการ แม้แต่เรื่องตัดไฟฟ้าจากไทยข้ามไปกัมพูชา 9 จุด เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.

“ผู้พันเบิร์ด” พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผอ.สำนักประสานภารกิจความมั่นคงกับ กอ.รมน. กรมยุทธการ กองบัญชาการกองทัพไทย ระบุในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ฝั่งกัมพูชาตัดไฟเพียง 3 จุด อีก 6 จุดยังคงจ่ายไฟตามปกติ สะท้อนเงื่อนปมที่กัมพูชาเคลือบแฝงอยู่

นายทวิสัณฑ์ โลณานุรักษ์ นักวิชาการอิสระ ฟันธงว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชาครั้งนี้ ถือเป็นเรื่องการเมืองและผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวระหว่างผู้เกี่ยวข้อง โดยระบุชัดว่า มีธุรกิจ 3 ประเภท ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ คือธุรกิจสีขาว-การค้าขายชายแดน ที่ถูกกฎหมาย สีเทา-ธุรกิจกาสิโน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสีดำ ซึ่งเป็นธุรกิจมืดซ่อนปมผลประโยชน์มหาศาล ทั้งบนบกและทางทะเล ต่างมีผลลัพธ์ที่แตกต่างไม่เท่ากัน

จึงอาจเป็นปัจจัยสำคัญ ทำให้ได้เห็นการออกโรงเคลื่อนไหว หรือตีโพยตีพายต่อเนื่องของผู้นำกัมพูชาตัวจริง อย่างสมเด็จฮุน เซน ที่น่าจะกุมความลับนักการเมือง และนักธุรกิจไทยหลายคน ที่เข้าไปลงทุนในกัมพูชา แต่อาจไม่รักษาคำพูด หรือทำตามดีลที่ตกลงกันไว้ไม่ได้

ส่วนเป้าหมายอยู่ที่ใคร หรือหวังตีวัวกระทบคราดไปถึงใคร ให้ติดตามและจับตาให้ดี

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : เปิดโครงข่าย ลาสบอส Scambodia "ธุรกิจ-อิทธิพล" ตระกูลฮุน

"ไทย-กัมพูชา" แยกกันไม่ได้ ต้องรีเซ็ตสัมพันธ์ "ลิ้น-ฟัน" ครั้งใหญ่

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ชงยกเลิกกิจกรรม 75 ปีความสัมพั​นธ์ไทย-กัมพูชา​

Failed to load player resources

Please refresh the page to try again.

ERROR_BYTEARK_PLAYER_REACT_100001

00:00

00:00

ให้คะแนนการอ่านข่าวนี้