ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ฮุน เซน-ก๊ก อัน" สายสัมพันธ์โยงคอลเซนเตอร์กาสิโนปอยเปต

ต่างประเทศ
19:18
283
"ฮุน เซน-ก๊ก อัน" สายสัมพันธ์โยงคอลเซนเตอร์กาสิโนปอยเปต
ตร.ไทยเตรียมรวบรวมข้อมูลหลักฐาน ดำเนินคดีกับเจ้าของตึก 18 และ 25 ชั้น ที่ปอยเปต กัมพูชา ซึ่งถูกระบุว่าที่นั่นเป็นฐานปฏิบัติการขบวนการคอลเซนเตอร์ มีรายงานว่า เจ้าของตึกทั้ง 2 หลัง อาจเป็นคนเดียวกันกับเจ้าของกาสิโนที่ปอยเปต

วันนี้ (27 มิ.ย.2568) เป็นอีกครั้งที่ตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ในปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจยของกัมพูชา ถูกพูดถึงในฐานะเป็นฐานขบวนการคอลเซนเตอร์ ตึกทั้ง 2 หลังตั้งอยู่ข้างกัน ส่วนอาคารใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง เป็นที่รู้จักในชื่อว่า "คลาวด์ กาสิโน"

ข้อมูลที่ปรากฏในรายงานของผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติและความมั่นคงในภูมิภาค จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยแพร่เมื่อ พ.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า เจ้าของคลาวด์ กาสิโน ชื่อ "ก๊ก อัน"

ในรายงานยังบอกด้วยว่า การก่ออาชญากรรมออนไลน์ที่กำลังใช้กัมพูชาเป็นฐานที่มั่นนั้น กลายเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ของประเทศ สร้างเม็ดเงินมากกว่าอุตสาหกรรมสิ่งทอและการผลิตเสื้อผ้า ที่เคยเป็นอุตสาหกรรมใหญ่ในกัมพูชาไปแล้ว ที่สำคัญ ยังอ้างถึงชื่อนักการเมืองระดับสูง ซึ่งมีความใกล้ชิดกับพรรคประชาชนกัมพูชา รวมถึงสนิทสนมกับ "ฮุน เซน และ ฮุน มาเนต"

หนึ่งในนั้น ก็คือ "ก๊ก อัน" ที่ในรายงานกล่าวหาว่า เป็นเจ้าของฐานแก๊งคอลเซนเตอร์ในปอยเปตและสีหนุวิลล์ นอกจากเป็นนักการเมืองระดับสูง ยังมีข้อมูลว่า ก๊ก อัน เป็น เศรษฐีอันดับต้น ๆ ของกัมพูชา เป็นนักธุรกิจเจ้าของกิจการหลากหลายประเภท รวมถึงโรงแรมและกาสิโนหลายแห่งทั้งที่ปอยเปตรวมทั้งสีหนุวิลล์

เว็บไซต์ขแมร์ไทมส์ สื่อท้องถิ่นกัมพูชารายงานเมื่อปี 2559 ว่า ตำรวจจีนและกัมพูชาเคยเข้าจับกุมคนจีนกว่า 70 คน ทำงานหลอกลวงออนไลน์ที่ชั้นบนสุดของคลาวน์กาสิโน ตามรายงานยังระบุว่า ในจำนวนคนจีนที่พบทั้งหมด มี 42 คนที่มีหมายจับติดตัว

ข้อมูลของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) พบว่าเจ้าของตึก 18 ชั้นและ 25 ชั้น เป็นชาวกัมพูชา โดยมีพยานบุคคล ยืนยันว่า ตึกทั้ง 2 หลังถูกใช้เป็นที่ทำงานของขบวนการคอลเซนเตอร์ ส่วนเจ้าของอาจเป็นคนเดียวกันกับกาสิโนที่อยู่ใกล้กันหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน

ข้อมูลเปิดเผย ก็คงทราบว่าเจ้าของตึกเป็นคนกัมพูชา แต่จะนำเข้าสู่การสอบสวนต้องมีข้อมูลมากกว่านั้น เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง เมื่อได้รับข้อมูลคดีอาญาว่าที่ทำการคอลเซนเตอร์คือตึก 18 ชั้นและ 25 ชั้น ซึ่งอยู่มาระยะเวลานาน ถามว่าเจ้าของตึก รู้หรือควรรู้ไหมว่าพวกนี้เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ เป็นเรื่องที่ต้องสืบสวนสอบสวนหาตัวเจ้าของตึก ที่มีพยานหลักฐานยืนยัน

ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง น่าจะมีความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นใครจึงจะออกหมายจับได้ เมื่อออกหมายจับจะติดตามจับกุม จึงมีช่องทางประสานงานตามกฎหมาย ถ้าประเทศนั้นมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ก็ประสานผ่านช่องทางนั้น ถ้าไม่มีก็ใช้ทางการทูต หรือฝ่ายบังคับใช้กฎหมายด้วยกัน

ตำรวจไซเบอร์ ตรวจสอบข้อมูลคดีและที่ตั้งของอุปกรณ์อิเลกทรอนิกส์ พบว่าฐานขบวนการคอลเซนเตอร์ติดชายแดนไทย มีทั้งหมด 28 แห่ง โดยมี 1 แห่งอยู่ที่ประเทศลาว ที่เหลือกระจายอยู่ทั่วกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นปอยเปต พระสีหนุ หรือ บาเวต

ส่วนยอดการรับแจ้งความออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.2565 - 31 พ.ค.2568 รวมกว่า 900,000 เรื่อง มูลค่าความเสียหาย 91,000 ล้านบาท เฉพาะ เดือน พ.ค. ที่ผ่านมาเพียงเดือนเดียว รับแจ้งความกว่า 34,000 เรื่อง ความเสียหาย 2,200,000 บาท 

อ่านข่าวอื่น :

เปิดคลังอาวุธกัมพูชา หลัง "ฮุน เซน" ขู่ผ่านไลฟ์ยิงไกลถึง กทม.

จากเขมรแดงสู่ตระกูลฮุน เกมอำนาจที่ "ฮุน เซน" ไม่มีวันลงจากเวที