ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อลงกรณ์" ชูเที่ยวเชิงภูมิอากาศ ดึง นทท.ยุโรปหนีร้อน แทนทัวร์จีน

"อลงกรณ์" ชูเที่ยวเชิงภูมิอากาศ ดึง นทท.ยุโรปหนีร้อน แทนทัวร์จีน
อ่านให้ฟัง
09:42อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
“อลงกรณ์”เสนอแนวทางใหม่การท่องเที่ยวเชิงภูมิอากาศ (Climate Tourism) เพิ่มรายได้ประเทศภายใต้วิกฤตยุโรปเดือด โอกาสทองท่องเที่ยวไทย หลังกลุ่มนักเที่ยวจีนหดตัว ชี้ ไทยมีการท่องเที่ยวที่หลากหลายมั่นใจตอบโจทย์โซนยุโรปหนีร้อนได้

วันนี้ (3 ก.ค.2568) นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานที่ปรึกษา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานสถาบันเอฟเคไอไอ โพสต์บทความเรื่อง “การท่องเที่ยวเชิงภูมิอากาศ (Climate Tourism) โอกาสใหม่ของไทยภายใต้วิกฤตยุโรปเดือด ในการเสนอแนวทางใหม่ Climate Tourism ในการสร้างรายได้เพิ่มด้านการท่องเที่ยวจากตลาดยุโรปที่เผชิญปัญหาอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไว้อย่างน่าสนใจ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานสถาบันเอฟเคไอไอ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานสถาบันเอฟเคไอไอ

นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานสถาบันเอฟเคไอไอ

ว่า สถานการณ์คลื่นความร้อนในยุโรปช่วงปลายเดือน มิ.ย.ถึงต้น ก.ค.2025 มีอุณหภูมิที่สูงเกินเกณฑ์และส่งผลกระทบรุนแรง เช่นในสเปนเผชิญอุณหภูมิพุ่งสูงกว่า 44 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ มีการบันทึกอุณหภูมิสูงสุด 44.9 องศาเซลเซียส (29 มิ.ย.) และเกิดไฟป่าครั้งใหญ่ในรัฐกาตาลุญญาและ รัฐวาเลนเซีย ขณะที่อิตาลี บันทึกอุณหภูมิที่กรุงโรม 40.8 องศาเซลเซียส (30 มิ.ย.) สูงที่สุดในรอบ 120 ปี

ส่วนเอเธนส์เมืองหลวงของกรีซร้อนเกิน 42 องศาเซลเซียสต่อเนื่อง 4 วันขนสนามบินต้องระงับเที่ยวบินช่วงบ่ายและเกิดไฟป่าใกล้กรุงเอเธนส์และบนเกาะเลสบอส

ทางด้านฝรั่งเศสตอนใต้ร้อนกว่า 40 องศาเซลเซียส แต่ยังไม่เท่าเมืองโมราทางใต้ของกรุงลิสบอนเมืองหลวงของปอร์ตุเกสมีอุณหภูมิสูงถึง 46.6 องศาเซลเซียสซึ่งใกล้เคียงสถิติร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป (48.8 องศาเซลเซียสในซิซิลีปี 2021)

โดยคลื่นความร้อนที่รุนแรงและเกิดบ่อยขึ้นในยุโรป ไม่ได้เกิดจากสภาพอากาศตามฤดูกาลเพียงอย่างเดียว แต่เชื่อมโยงโดยตรงกับผลกระทบจาก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

รายงานขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า ทวีปยุโรปคือพื้นที่ที่อุณหภูมิเพิ่มขึ้นเร็วที่สุดในโลก โดยในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา อุณหภูมิเฉลี่ยในยุโรปเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง สองเท่าซึ่งความถี่และความรุนแรงของคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้น 10-100 เท่าเนื่องจากภาวะโลกร้อน

อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่า อุณหภูมิฤดูร้อนในยุโรปจะ สูงขึ้นอีก 2-5°C ภายในปี 2100 หากการปล่อยคาร์บอนไม่ลดลง ซึ่ง Copernicus EU และ Météo-France ระบุว่า เดือนมิ.ย.2025 เป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ในยุโรป นับตั้งแต่เริ่มบันทึกสูงกว่าค่าเฉลี่ย 2.5°C สะท้อนว่า วิกฤตยุโรปเดือดสร้างจุดหมายใหม่ Cool Destination

ที่มา: เฟสบุ๊ค อลงกรณ์ พลบุตร

ที่มา: เฟสบุ๊ค อลงกรณ์ พลบุตร

ที่มา: เฟสบุ๊ค อลงกรณ์ พลบุตร

นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า สถานการณ์คลื่นความร้อนในยุโรป ได้เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจการท่องเที่ยวของยุโรป เช่น โรงแรมและรีสอร์ทในพื้นที่ร้อนลงทุนใหม่สร้างสระว่ายน้ำในร่ม ปรับเปลี่ยนระบบปรับอากาศโดยใช้พลังงานสะอาดลดโลกร้อนและเพิ่มกิจกรรม

ในขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวก็หนีร้อนไปจุดหมายปลายทางที่เย็น (Cool Destinations) เช่นพื้นที่ชายฝั่งทะเลเหนือ (นอร์เวย์ เดนมาร์ก ไอซ์แลนด์) ภูเขาสูง (เทือกเขาแอลป์ในสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย) และยุโรปตะวันออก (โปแลนด์, บอลติก) ที่มีอากาศเย็นกว่า

ที่มา: เฟสบุ๊ค อลงกรณ์ พลบุตร

ที่มา: เฟสบุ๊ค อลงกรณ์ พลบุตร

ที่มา: เฟสบุ๊ค อลงกรณ์ พลบุตร

นอกจากนี้ยังมีรูปแบบส่งเสริมการท่องเที่ยวยามค่ำคืน (Night Tourism)โดยจัดกิจกรรมท่องเที่ยวกลางคืนเช่น ทัวร์ชมเมือง งานเทศกาลต่างๆในเวลากลางคืนและกิจกรรมการดูดาว (Stargazing) คือ การมองขึ้นไปบนท้องฟ้าในเวลากลางคืนเพื่อสังเกตดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ และวัตถุอื่นๆ ในอวกาศ เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมทั้งในเชิงท่องเที่ยวสันทนาการและการศึกษา สภาพแวดล้อมที่ร้อนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทำให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวแบบ Cool Retreat มุ่งหาสถานที่เงียบสงบและสวยงาม เช่น รีสอร์ทในชนบท หรือบ้านพักตากอากาศที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ เพื่อพักผ่อนและฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ เช่น การทำสมาธิ การเข้าคอร์สโยคะ หรือการใช้เวลาอยู่กับตัวเองในสถานที่เงียบสงบ

นายอลงกรณ์ กล่าวว่าโอกาสไทยจาก Hotสู่ Heat Escape จากวิกฤตคลื่นความร้อนในยุโรป ทำให้มองเห็นโอกาสทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของไทยโดยสามารถใช้จุดแข็งของไทยสร้างรายได้ใหม่เข้าประเทศพร้อมกับตอบโจทย์วิกฤตยุโรปเดือด

เนื่องจากแนวโน้มการท่องเที่ยวของไทยปี 2568 ไม่สดใสนัก ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากการท่องเที่ยวโดยมีการคาดหมายว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยประมาณ 34.5 ล้านคน หดตัว 2.8 % เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี โดยตลาดนักท่องเที่ยวหลักที่หดตัว อาทิ จีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้

สำหรับตลาดที่ยังเติบโตมาจากนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป ซึ่งเป็น นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) อาทิ รัสเซีย เยอรมัน ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ส่วนทางด้านรายได้ท่องเที่ยวในปี 2568 คาดว่าจะอยู่ที่ 1.62 ล้านล้านบาท หดตัว 3% จากปี 2567

ทั้งนี้หนทางหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ คือ ตลาดยุโรปเพื่อชดเชยการลดลงของตลาดสำคัญๆ โดยเฉพาะจีนแต่ต้องดำเนินกลยุทธ์ใหม่ๆโดยเร็ว เช่น โปรโมทเป็นฮับหนีร้อน (Heat Escape Hub) สนับสนุนภาคเอกชนของไทยร่วมมือกับบริษัททัวร์ในยุโรป หรือแพ็กเกจ Workation (ทำงานระยะไกลในรีสอร์ท) โดยเฉพาะกลุ่ม Nomad

รวมถึงแพ็กเกจ Double Escape ที่ผสมผสานการท่องเที่ยวกับสปาและเวลล์เนส (wellness) ต่อยอดภูมิปัญญาไทย อาหารเครื่องดื่มไทย แพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพและการท่องเที่ยวเชิงภูมิอากาศ (Climate Tourism) เป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (Nature Tourism) ที่ตอบโจทย์โลกรวนโลกร้อนจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

รูปแบบการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่นและมีส่วนช่วยในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้อีกด้วยเนื่องจากไทยมีแหล่งท่องเที่ยวและสันทนาการทางธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้งทะเล, น้ำตก, แม่น้ำ ถ้ำหลายพันแห่งและ อุทยานแห่งชาติทั้งบนบกและในทะเลกว่า 150 แห่ง

ทั้งนี้ภาครัฐต้องทำงานเชิงรุกโดยร่วมมือกับภาคเอกชนขับเคลื่อนการตลาดในยุโรปโดยจัดแคมเปญโฆษณาประชาสัมพันธ์ทั้งออนไลน์ (On-line) และอินไซท์ (On-site) การจัดโรดโชว์โดยการนำของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยว ททท.และสำนักงานผู้แทนการค้าไทยรวมทั้ง

ส่งเสริมภาคเอกชนไทยเพิ่มเที่ยวบิน Charter จากเมืองร้อนจัดเช่น สเปน, ปอร์ตุเกส อิตาลี กรีซ และออกคูปองส่วนลดที่พักและอาหาร ภายใต้เป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวยุโรปที่ต้องการ หลบร้อน เพิ่มรายได้ท่องเที่ยวในทุกฤดูร้อนของยุโรป

นอกจากนี้ควรพิจารณามาตรการสนับสนุนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ของประเทศอื่นๆอาทิ เกาหลีใต้ เตรียมเสนอมาตรการวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมากับบริษัทนำเที่ยว (Group Tour) ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงไฮซีซั่นของนักท่องเที่ยวจีน

ขณะที่ เวียดนามเตรียมออกมาตรการวีซ่าระยะยาว 10 ปี (10-year Golden Visa) ดึงดูดชาวต่างชาติและกระตุ้นการท่องเที่ยว อีกแนวทางหนึ่งที่สำคัญคือรัฐบาลควรเร่งเจรจาทำความตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศไทยกับสหภาพยุโรป (อียู) โดยเร็ว

อ่านข่าว:

 “พณ.” ดัน Soft Power ไทย บุก 3 เมืองใหญ่ในสหรัฐฯหวังดึงคนรุ่นใหม่ทั่วโลก

ผู้ว่าการ ททท. ขอโทษ "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" เว็บล่ม แจงเหตุไม่ได้รับ OTP

ครม.รอเคาะงบ 1.1 แสนล้าน ปั๊มเศรษฐกิจ ดัน GDP 0.4%