ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ตลาดช่องจอมซบเซา! สุรินทร์เสียหาย 200-300 ล้านจากปิดด่าน

ภูมิภาค
09:27
137
ตลาดช่องจอมซบเซา! สุรินทร์เสียหาย 200-300 ล้านจากปิดด่าน
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังไร้ข้อยุติ ชาวน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสี่ยงกลับทำเกษตรใกล้จุดปะทะ หวั่นขาดรายได้ ขณะที่ผู้ค้าตลาดช่องจอม จ.สุรินทร์ ลดราคาสินค้าแทบไร้กำไร หลังลูกค้ากัมพูชาหายวับ กองทัพลงช่วยซื้อผลผลิตเกษตรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

วันนี้ (5 ก.ค.2568) สถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงไม่มีข้อยุติ ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชนในพื้นที่อย่างหนัก ชาวบ้านใน อ.น้ำยืน เริ่มกลับเข้าไปทำเกษตรในพื้นที่ใกล้จุดปะทะ แม้จะมีความเสี่ยง ขณะที่ผู้ค้าตลาดช่องจอม จ.สุรินทร์ ต้องลดราคาสินค้าเพื่อประคองรายได้ หลังผู้ซื้อและร้านค้าชาวกัมพูชาหายไปจำนวนมาก ด้านกองทัพและหน่วยงานรัฐเร่งช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

ที่บ้านโนนสูง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านบางส่วนเริ่มกลับเข้าไปเตรียมพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง แม้ว่าที่ดินจะอยู่ห่างจากช่องบก ซึ่งเป็นจุดปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชาไม่ถึง 20 กิโลเมตร นายวินันท์ ผ่องศรี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า การหยุดทำเกษตรอาจทำให้ครอบครัวขาดรายได้จากผลผลิตในฤดูกาลนี้ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของชุมชน "ถ้าไม่ลงมือปลูกตอนนี้ อาจไม่มีอะไรขายทั้งปี ถึงจะเสี่ยงแต่ก็ต้องทำ" เขากล่าว

ด้าน นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ใน อ.น้ำยืน และกำชับให้เจ้าหน้าที่ดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีรายได้น้อย ซึ่งอาจเผชิญภาวะความเครียดจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ รัฐมนตรีระบุว่า รัฐบาลมุ่งให้การสนับสนุนทั้งด้านจิตใจและเศรษฐกิจ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถดำรงชีวิตได้ท่ามกลางวิกฤต

พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังอยู่ในภาวะปกติ แต่กองทัพมีความพร้อมในการปกป้องอธิปไตย อย่างไรก็ตาม การที่กัมพูชายังไม่ถอนกำลังทหารและการปิดด่านชายแดนบางแห่งได้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน กองทัพได้จัดตั้งหน่วยรับซื้อผลผลิตทางการเกษตร เช่น มันสำปะหลังและข้าวโพด โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมการค้าภายในและไปรษณีย์ไทย เพื่อหาตลาดรองรับผลผลิต "เราจะไม่ทิ้งชาวบ้านให้เผชิญปัญหาคนเดียว" พล.ต.วีระยุทธ กล่าว

ตลาดช่องจอมซบเซา เสียหาย 200-300 ล้านบาท

ที่ ตลาดช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เชื่อมต่อกับจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา บรรยากาศการค้าขายเงียบเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้ค้าชาวไทยหลายรายต้องลดราคาสินค้าจนแทบไม่เหลือกำไร โดยเฉพาะสินค้าจำเป็น เช่น เสื้อผ้า รองเท้า และผ้าห่ม ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่แรงงานและพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชา. การลดราคานี้เป็นความพยายามเพื่อดึงดูดลูกค้าชาวไทยที่ทราบข่าวผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้กลับมาเดินตลาด

จากการสำรวจของทีมข่าวไทยพีบีเอส พบว่า ผู้ค้าส่วนใหญ่ที่ยังคงเปิดร้านเป็นคนไทย ขณะที่ผู้ค้าชาวกัมพูชาหลายรายปิดร้านและเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากความไม่แน่นอนในการต่ออายุใบอนุญาตทำงานและความกังวลว่าจะถูกผลักดันกลับ นายอุกฤษฎ์ วงษ์ทองสาลี ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ ประเมินว่า ความเสียหายจากวิกฤตชายแดนในพื้นที่อาจสูงถึง 200-300 ล้านบาท โดยเฉพาะจากการหยุดชะงักของการค้าชายแดนและการขาดแคลนแรงงานกัมพูชา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในภาคเกษตรและโรงงานในจังหวัด

เมื่อก่อนช่องจอมคึกคักทุกวัน พ่อค้าแม่ค้าจากกัมพูชามาเดินซื้อของเยอะ แต่ตอนนี้เงียบมาก เหลือแต่คนไทยที่มาช่วยอุดหนุนบ้าง

นางสาวสมศรี ใจดี ผู้ค้าขายเสื้อผ้าในตลาดช่องจอม กล่าว เธอระบุว่า ต้องลดราคาเสื้อผ้าลงเกือบร้อยละ 50 เพื่อให้ขายได้ และหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววัน

อ่านข่าวอื่น :

ค้นบ้าน-อายัดมือถือ "สีกา" หาหลักฐาน "เจ้าคุณอาชว์" ทุจริตเงินวัดหรือไม่

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชาลาดตระเวนจุดชมวิวภูผี ไม่มีเหตุรุนแรง