วันนี้ (11 ก.ค.2568) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และจังหวัดน่าน ได้ติดตามสถานการณ์ปริมาณฝนในพื้นที่ จ.น่าน พบว่าพื้นที่ อ.เวียงสา อ.นาน้อย อ.แม่จริม อ.สันติสุข มีฝนตกหนักและยังคงตกต่อเนื่อง ขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำให้ยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด
พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังได้แก่ อ.เวียงสา ทั้งอำเภอ, ต.เชียงของ ต.บัวใหญ่ อ.นาน้อ, ต.น้ำปาย อ.แม่จริม และ ต.พงษ์ อ.สันติสุข เช่นเดียวกับที่ อ.ร้องกวาง จ.แพร่
นอกจากนี้ ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ท่าปลา อ.ฟากท่า อ.บ้านโคก อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2568 เวลา 21.00 น. นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า ได้ร่วมประชุมกับศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ปภ. ผู้แทนสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรนำ (องค์การมหาชน) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เพื่อให้มีการแจ้งเตือนเฝ้าระวังพื้นที่เสียงสาธารณภัย เนื่องจากอิทธิพลของหย่อมความกดอากาศต่ำ ประกอบกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
สำหรับพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม จนถึงวันที่ 13 ก.ค.2568 มีดังนี้
- ภาคเหนือ จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตรดิตถ์ และสุโขทัย
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 6 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร และนครพนม
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง โดย ปภ. จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวัง ติดตาม และเตรียมพร้อมรับมือ โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยง รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นเสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และให้เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัยและเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้นในพื้นที่
สำหรับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ขอให้ติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด
แท็กที่เกี่ยวข้อง: