ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ปิดฉาก 31 ปี "โจว จิ้งหัว" หนีคดีข้ามแดน "ฟอกลูก-สวมสิทธิ" ไทย

อาชญากรรม
12:45
222
ปิดฉาก 31 ปี "โจว จิ้งหัว" หนีคดีข้ามแดน "ฟอกลูก-สวมสิทธิ" ไทย
อ่านให้ฟัง
07:45อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ไม่น่าเชื่อว่า "โจว จิ้งหัว" (Zhou Jinghua)ชื่อไทย "เมธาวรินทร์" ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ของรัฐในสาธารณรัฐประชาชนจีน จะหลบหนีความผิดเข้ามาในไทย และแต่งงานกับ "เริงศักดิ์ แซ่เตีย" หนุ่มไทย เพื่ออำพรางความผิดและให้ได้มา "สัญชาติไทย" โดยการสมรส ทั้ง ๆ ที่เคยแต่งงานกับ "ฉวู จินหง" (Xu Jinhong ) ตั้งแต่ปี 2530 มีบุตรด้วยกัน 3 คน ต่อมาพบว่า ลูกชาวจีนทั้งหมด ได้เชื้อชาติ-สัญชาติไทย มีชื่อ-สกุล เป็นคนไทย และอาศัยอยู่ในประเทศไทย

"โจว จิ้งหัว" สามารถหนีเงื้อมมือกฎหมายจากจีน มาตั้งรกรากอยู่ในไทยได้นานถึง 31 ปี หากทางการจีนไม่ส่งคำร้องขอส่งให้ส่งสาวจีนรายนี้ เป็นผู้ร้ายข้ามแดน เธอและครอบครัวอาจลอยนวลต่อไปในประเทศไทยได้ยาวๆ เพราะกว่าจะพิสูจน์ได้ว่า ก่อนที่ "โจว จิ้งหัว" จะมาเป็น "เมธาวรินทร์" นั้น ยังมีชื่อจีนอีก 3 ชื่อ ไม่ว่าจะเป็น "โจว ฉานหลิง" (Zhou Chanling) , "ฉวู ฉานหลิง" (Xu Chanling) และ "ชานลิน ซู"

ในปี 2566 หลังทางการจีนพบว่า "โจ จิ้งหัว" หนีคดีมาอาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงประสานมายัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ผ่านมาทางกระทรวงการต่างประเทศ จนนำไปสู่การตรวจสอบและปรากฏข้อเท็จจริง "โจวจิ้งหัว" เป็นบุคคลสัญชาติจีน ได้รับอนุญาตให้เข้าถือสัญชาติไทยโดยการสมรสกับ "เริงศักดิ์ แซ่เตีย" สามีผู้มีสัญชาติไทย

โจว จิ้งหัว (Zhou Jinghua) หรือ โจว ฉานหลิง (Zhou Chanling) และ ฉวู ฉานหลิง (Xu Chanling) หรือ ชานลิน ซู หรือ น.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล คือ บุคคลเดียวกัน

"โจวจิ้งหัว" ได้ทำการปลอมแบบฟอร์ม หนังสือรับรองจากชุมชน และปลอมใช้ชื่อญาติเพื่อให้ได้มา ซึ่งรายการปลอมชื่อของ "ฉวู ฉานหลิง" (Xu Chanling) หรือ "ชานลิน ซู" และได้หนังสือเดินทางของจีน (Chinese passport) เลขที่ 783921 เข้ามาในประเทศไทย โดยไม่ได้ใช้เอกสารในชื่อที่แท้จริงของตน คือ โจว จิ้งหัว (Zhou Jinghua) หรือ โจว ฉานหลิง (Zhou Chanling)

นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า "เมธาวรินทร์" หรือ "โจว จิ้งหัว" (Zhou Jinghua) ได้แต่งงานตามประเพณี กับ ฉวู จินหง (Xu Jinhong) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 มีความสัมพันธ์เป็นสามีภรรยากันโดยพฤตินัย จนมีบุตรด้วยกัน 3 คน ซึ่งได้รับการคุ้มครองและบังคับตามกฎหมายจีนมีผลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 ถึงปัจจุบัน

ต่อมาปี 2531 โจว จิ้งหัว หรือ "เมธาวรินทร์" ใช้รายการปลอมชื่อ “ฉวู ฉานหลิง” (Xu Chanling) หรือ ชานลิน ซู นำรายการดังกล่าวมาจดทะเบียนสมรสกับ "เริงศักดิ์ แซ่เตีย" สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตบางรัก ในกทม. พร้อม ๆ กับการสวมแจ้งเกิดบุตรทั้ง 3 คน (บุตรของ โจว จิ้ง หัว และ ฉวู จินหง (Xu Jinhong) มีสูติบัตรออกให้โดย สำนักทะเบียนท้องถิ่นเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และระบุชื่อ "เริงศักดิ์" เป็นบิดา

ตามข้อกฎหมาย การที่ "โจว จิ้งหัว" หรือ "เมธาวรินทร์" ปลอมชื่อ "ฉวู ฉานหลิง" (Xu Chanling) หรือ ชานลิน ซู ยื่นคำขอมีสัญชาติไทยโดยการสมรสกับ นายเริงศักดิ์ แซ่เตีย สามีผู้มีสัญชาติไทย ตามมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ได้รับอนุญาตให้เข้าถือสัญชาติไทยตามสามี เมื่อปี พ.ศ. 2535

พฤติการณ์ถือได้ว่าการสมรสระหว่างน.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล หรือ ชานลิน ซู กับ นายเริงศักดิ์ แซ่เตีย เป็นไปโดยปกปิดข้อเท็จจริง หรือแสดงข้อความเท็จ อันเป็นสาระสำคัญตามมาตรา 16 วรรคหนึ่ง (1) แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508

พล.อ. อนุพงษ์ ในฐานะรมว.มหาดไทย ในขณะนั้น ได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสัญชาติ (ฉบับที่ 4)พ.ศ. 2551 มีคำสั่งให้ถอนสัญชาติไทย น.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล หรือ ชานลิน ซู จึงมีผลให้เสียสัญชาติไทย ตามความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 จึงประกาศ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566

และต่อมาวันที่ 1 ก.ค.2566 ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่งเพิกถอน สัญชาติไทยของ "โจวจิ้งหัว" หรือ น.ส.เมธาวรินทร์ ชัยบุญญารัตนกุล หรือ ชานลิน ซู

คดีนี้อัยการสูงสุดผู้ประสานงานกลาง ได้อนุมัติให้ความช่วยเหลือตามที่ทางการสาธารณรัฐประชาชนจีนร้องขอ โดยมอบหมายให้พนักงานอัยการ สำนัก งานต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการประสานงานร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จนกระทั่งเจ้าพนักงานตำรวจสามารถจับกุมตัวโจว จิงหัว หรือจิ้งหัว (Zhou Jinghua)ได้ เมื่อเดือนตุลาคม 2566

และได้มียื่นฟ้องต่อศาลอาญา เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งส่งตัว โจว จิงหัว หรือจิ้งหัว (Zhou Jinghua) หรือ "เมธาวรินทร์" ผู้ถูกร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน

วันที่ 30 เมษายน 2567 ศาลอาญาได้มีคำสั่งให้ขังผู้ถูกร้องขอไว้เพื่อส่งตัวข้ามแดนไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมาเดือนมิถุนายน 2567 ผู้ถูกร้องรอได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

ขณะนี้คดีถึงที่สุดแล้ว เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2568 ทางอัยการประสานให้มีการส่งตัว “โจว จิงหัว หรือจิ้งหัว (Zhou Jinghua) หรือ “เมธาวรินทร์” ผู้ถูกร้องขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด

ถือเป็นการปิดฉากคดีการสวมสิทธิของ ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์รัฐ ในประ เทศจีน ที่ใช้วิธีการแต่งงานเพื่อให้ได้สัญชาติไทย และยังสวมสัญชาติ-เชื้อชาติให้ลูก ๆ หลังจากหนีคดีมาอาศัยอยู่ในไทยได้นานถึงกว่า 31 ปี ไม่ใช่การอุ้มท้องซื้อพ่อ แต่ใช้วิธีแต่งงานลวง เพื่อ"ซื้อและสวมสิทธิ" ความเป็นคนไทยที่เป็นภัยความมั่นคงอีกรูปแบบหนึ่ง

อ่านข่าว

สะเทือน "ดงขมิ้น" ผ้าเหลืองร้อน ถูก "สีกา" สอยร่วง 19 รูป

คำไต่สวน "พยานเบิกความ" คดี "ทักษิณ" ชั้น 14 รพ.ตำรวจ

"เงิน-สีกา" พ่นพิษ เปิดเส้นทางหนี "ทิดอาชว์"กทม.-หนองคาย-ลาว