วันนี้ (17 ก.ค.2568) กองทัพภาคที่ 2 ออกเอกสารชี้แจงกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์กำลังพลเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยมีข้อสันนิษฐานว่าเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ นั้น
กองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ได้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หน่วยจึงได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่เกิดเหตุทันที เพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้ทำการพิสูจน์ทราบพื้นที่ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายเพิ่มเติม
ต่อมาช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.ค. พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 สั่งการให้หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างละเอียดและเก็บรวบรวมหลักฐาน เพื่อส่งผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดวิเคราะห์ว่าเป็นทุ่นระเบิดชนิดใดและมีแหล่งที่มาอย่างไร รวมถึงพิจารณาว่าเป็นการวางไว้นานแล้วหรือเป็นการกระทำล่าสุด
อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ก่อนจะรายงานความคืบหน้าต่อสาธารณชนอีกครั้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนติดตามข้อมูลจากหน่วยงานด้านความมั่นคง หรือช่องทางราชการเป็นหลัก เพื่อความถูกต้องและป้องกันการสับสน
ขณะที่ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า หลังจากนี้หน่วยในพื้นที่ชายแดนจะตรวจสอบพิสูจน์ทราบเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชาได้นำทุ่นระเบิดมาใช้ในพื้นที่หรือไม่ เพราะปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชาได้ให้สัตยาบันในการเข้าร่วมเป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อย่างเป็นทางการตั้งแต่เมื่อปี 2542

อ่านข่าว
ทหารไทยเหยียบกับระเบิดบริเวณเนิน 481 เจ็บ 3 มทภ.2 ชี้เป็นของเก่าตกค้าง
ทหารไทยโต้โซเชียล "ภูมะเขือ" ศรีสะเกษยังคุมได้ กัมพูชาไม่รุกล้ำ