และช่วงบ่าย ให้การรับรอง กกต. 1 คน คือ นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ท่ามกลางการเรียกร้องให้ชะลอความเห็นชอบกรรมการในองค์กรอิสระออกไปก่อน ของ สว.เสียงข้างน้อย
สว.เสียงข้างน้อยที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้ นำโดย รศ.นันทนา นันทวโรภาส อดีตนักวิชาการด้านสื่อสารการเมือง ที่คลุกคลีอยู่กับคนในแวดวงการเมืองมานาน ด้วยเหตุผล เพื่อรอให้คดีฮั้วเลือก สว. ที่มี สว.ชุดปัจจุบัน มีลิสต์รายชื่อในคำร้องนี้ 138 คน จบสิ้นก่อน
โดยระบุว่า เป็นเรื่องไม่ควรกระทำ ทั้งโดยจริยธรรม และโดยจิตสำนึก เพราะ สว.เป็นผู้ถูกร้องเรียนอยู่ก่อนแล้ว ขณะที่ประชาชนที่เฝ้าจับตาดูความผิดปกติเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น ย่อมไม่อยากเห็นความบิดเบี้ยวของกระบวนการยุติธรรม จากการดึงดันของ สว. เสียงข้างมาก ที่หวังจะดันคนให้เข้าไปเป็นกรรมการในองค์กรอิสระ เพื่อพิจารณาคดีของตนเอง ซึ่งเป็นการขัดกันเรื่องผลประโยชน์อย่างชัดเจน
ถือเป็นเหตุผลที่ฟังเข้าใจง่าย ตรงไปตรงมาที่สุด ในช่วงที่การเมืองไทยกำลังให้ความสำคัญเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต และไม่มีความประพฤติเข้าข่ายผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ดังที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัย พฤติการณ์ของนักการเมือง ทั้งระดับ สส. รัฐมนตรี กระทั่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว
การปฏิเสธข้อเสนอชะลอ การเคาะรายชื่อบุคคลไปนั่งในองค์กรอิสระ เท่ากับหมายถึงไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการยุติธรรม เพราะขณะนี้ กรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 ของ กกต. ได้สรุปเรื่องแล้วว่า ข้อกล่าวหามีมูลความจริง ใกล้ไปถึงจุดที่ กกต. ชุดใหญ่จะพิจารณา หากเห็นด้วยจะส่งฟ้องศาลอาญาแผนกคดีเลือกตั้งแล้ว
ความพยายามของ สว.เสียงข้างน้อย เพื่อป้องกันการผลัดกันเกาหลัง เนื่องจาก สว.ผู้ให้ความเห็นชอบกับผู้ถูกให้ความเห็นชอบ ไปทำหน้าที่พิจารณาคำร้องและคดีที่ สว.ถูกกล่าวหา ประเดิมจากคดีฮั้วเลือก สว. เพราะ กกต.ใหม่ที่จะไปแทนที่ กกต.เดิม จะเป็นผู้พิจารณาคำร้องฮั้วเลือก สว.
ส่วนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จะเป็นผู้พิจารณาในชั้นปลายทางสุดท้าย หากคดีฮั้ว สว.เป็นไปตามข้อร้องเรียน เชื่อว่าจะมีการต่อยอดไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ กรณียุบพรรคการเมือง เนื่องจากมีรายชื่อหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหญ่ อยู่ในลิสต์รายชื่อคดีฮั้วเลือก สว.ด้วย
อุปสรรคที่ สว.เสียงข้างน้อยเจอมาตลอด ทั้งแต่เริ่มพยายามล่ารายชื่อ สว. 20 คน จากทั้งหมด 200 คน เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของ สว. กลุ่มที่ถูกตรวจสอบในคดีฮั้วเลือก สว. ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 แต่กลับหาไม่ได้
จากนั้น มีข่าวปะทะคารมทั้งในห้องประชุม และปิดประชุมลับ แต่ไม่สำเร็จด้วยเหตุผล สว.ไม่อาจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เรื่องให้ความเห็นชอบกรรมการในองค์กรอิสระ กระทั่งสุดท้าย มีเสนอญัตติด้วยวาจา แต่สุดท้ายสู้เสียงสามัคคีชุมนุมของ สว.ส่วนใหญ่ไม่ได้
ทั้งนี้ อำนาจ สว.ปัจจุบัน แม้จะไม่สามารถโหวตเลือกนายกฯ ร่วมกับ สส.ได้แล้ว แต่ยังมีล้นเหลือ ไม่เพียงการกลั่นกรองกฎหมาย ยังมีบทบาทเรื่องผลักดันพิจารณากฎหมายปฏิรูปประเทศ หน้าที่ในการควบคุมดูแลการบริหารประเทศของฝ่ายบริหาร โดยตั้งกระทู้และเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ รวมทั้งให้ความเห็นชอบ กรรมการในองค์กรอิสระ
หากไม่เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองใด ๆ สว.ชุดนี้ จะมีวาระถึงปี 2572 มีโอกาสเห็นชอบตั้งกรรมการในองค์กรอิสระหลายคน ตั้งแต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ สว.ชุดนี้ จะได้แต่งตั้งเกือบยกชุดคือ 7 คนจากทั้งหมด 9 คน แต่ก่อนหน้านี้ เพิ่งปัดตกผู้ผ่านคณะกรรมการสรรหา 2 คน คือ ศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และนายชาตรี อรรจนานันท์ อดีตอธิบดีกรมการกงสุล ต้องรับรองใหม่ในการประชุมเคาะ 22 ก.ค. ส่วนอีก 5 คนจะหมดวาระในช่วงปี 2570
สว.ชุดนี้ จะได้ตั้งกรรมการ ป.ป.ช. อย่างน้อย 5 คน โดย 4 คน ที่กระบวนการสรรหาได้เริ่มขึ้น และ สว.ให้การรับรองแล้ว 2 คน คือนายประภาส คงเอียด และนายเพียรศักดิ์ สมบัติทอง แต่ได้ตีตกผู้ผ่านคณะกรรมการสรรหาไป 2 คน
ส่วน กกต. สว.ชุดนี้จะมีส่วนรับรองแต่งตั้ง 5 คน จากทั้งหมด 7 คน รวมทั้งล่าสุดนายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ขณะที่กกต.คนอื่น ๆ รวมทั้ง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน ความจริงครบวาระแล้ว อยู่ระหว่างสรรหา
คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ คตง. สว.ชุดนี้ จะได้รับรองแต่งตั้งทั้งหมด 6 คน ให้การรับรองไปแล้ว 4 คน แต่ได้ปัดตกไป 2 คน ขณะที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) สว.ชุดนี้ จะได้รับรองแต่งตั้งทั้งองค์กร เพราะ 6 คนจะครบวาระปี 2571 และคนสุดท้ายจะครบวาระในช่วงปลายของ สว.ชุดนี้ คือกรกฎาคม 2572
และผู้ตรวจการแผ่นดิน สว.ชุดปัจจุบัน จะเป็นผู้รับรองทั้งหมดเช่นกัน ขณะนี้ 1 คนอยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการสรรหาพิจารณารายชื่อ
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : คำบอกเล่าจากปาก "พ่อน้องเมย" เมื่อ 8 ปีก่อน
"อนุทิน" ไม่หวิว อดร่วมวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล
ประกาศสถาปนา สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระชินวรวิสุทธิเทวารยวงศ์