ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทรัมป์ปิดดีลญี่ปุ่น ภาษี 15% เปิดตลาดรถ-ข้าว จ้างงานแสนตำแหน่ง

ต่างประเทศ
12:03
162
ทรัมป์ปิดดีลญี่ปุ่น ภาษี 15% เปิดตลาดรถ-ข้าว จ้างงานแสนตำแหน่ง
อ่านให้ฟัง
05:14อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ปธน.ทรัมป์ ประกาศข้อตกลงการค้าครั้งใหญ่กับญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นจะลงทุน 5.5 แสนล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ จ่ายภาษีนำเข้า 15% และเปิดตลาดรับรถยนต์ ข้าว และสินค้าเกษตรสหรัฐฯ ขณะที่สหรัฐฯ คาดได้กำไร 90% จากการลงทุน สร้างงานนับแสนตำแหน่ง

เมื่อวันที่ 22 ก.ค.2568 CNN รายงาน ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศผ่าน Truth Social ถึงการบรรลุข้อตกลงการค้ากับญี่ปุ่น ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น "ข้อตกลงครั้งใหญ่" และอาจเป็น "ข้อตกลงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์" ข้อตกลงนี้กำหนดให้สินค้าญี่ปุ่นที่ส่งออกไปสหรัฐฯ เผชิญภาษีตอบโต้ร้อยละ 15 พร้อมกับการลงทุน 550,000 ล้านดอลลาร์จากญี่ปุ่นในสหรัฐฯ โดยทรัมป์ระบุว่าสหรัฐฯ จะได้รับกำไรมากถึงร้อยละ 90 จากการลงทุนนี้

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะเปิดตลาดให้รถยนต์ รถบรรทุก ข้าว และสินค้าเกษตรบางรายการจากสหรัฐฯ รวมถึงสินค้าอื่น ๆ คาดว่าข้อตกลงนี้จะสร้างงานหลายแสนตำแหน่งในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าเงินลงทุนจะดำเนินการอย่างไร หรือคำนวณกำไรร้อยละ 90 อย่างไร และยังไม่มีเอกสารข้อตกลงอย่างเป็นทางการเผยแพร่

ทางด้าน นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น กล่าวว่ารัฐบาลจะตรวจสอบรายละเอียดข้อตกลงอย่างรอบคอบ และพร้อมหารือกับทรัมป์ผ่านการประชุมทางโทรศัพท์หรือพบปะโดยตรงหากจำเป็น อิชิบะ ระบุว่าจะช่วยส่งเสริมการสร้างงาน การผลิตสินค้าคุณภาพ และความร่วมมือระหว่าง 2 ชาติ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

การเจรจาก่อนหน้านี้ระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นถูกระบุว่าตึงเครียด โดยทรัมป์เคยวิจารณ์ญี่ปุ่นว่าไม่นำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ แม้จะขาดแคลนข้าว ทั้งที่ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ แสดงว่าญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากสหรัฐฯ มูลค่า 298 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 และ 114 ล้านดอลลาร์ในช่วง ม.ค.-เม.ย.2568 แต่ระบบการนำเข้าและจัดจำหน่ายข้าวของญี่ปุ่นที่เข้มงวดทำให้ผู้ส่งออกสหรัฐฯ เข้าถึงตลาดได้ยาก

อีกประเด็นคือรถยนต์ ซึ่งทรัมป์อ้างว่าญี่ปุ่นไม่นำเข้ารถยนต์สหรัฐฯ เลย แต่สมาคมผู้นำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่นระบุว่าในปี 2567 ญี่ปุ่นนำเข้ารถยนต์สหรัฐฯ 16,707 คัน

ก่อนการทำข้อตกลงนี้ นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้พบกับนายกฯ อิชิบะ และย้ำว่าต้องการข้อตกลงที่สมเหตุสมผลมากกว่าการเร่งรัด Mary Lovely จาก Peterson Institute for International Economics ชี้ว่าข้อตกลงนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากภาษีร้อยละ 25 ที่ทรัมป์เคยขู่จะใช้ในวันที่ 1 ส.ค.2568 ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้าญี่ปุ่นเคยเผชิญภาษีชั่วคราวร้อยละ 24 และลดลงเหลือร้อยละ 10

ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 5 ของสหรัฐฯ โดยส่งออกสินค้ามูลค่า 148,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2567 รวมถึงรถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และเครื่องจักรกล ในทางกลับกัน สหรัฐฯ ส่งออกสินค้าไปญี่ปุ่นมูลค่า 80,000 ล้านดอลลาร์ เช่น น้ำมัน ก๊าซ ยา และผลิตภัณฑ์การบิน ญี่ปุ่นยังเป็นเจ้าหนี้ต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ข้อตกลงนี้ต่อยอดจากข้อตกลงการค้าในปี 2562 ที่มีผลในปี 2563 ซึ่งช่วยให้สินค้าบางส่วนเคลื่อนย้ายได้โดยปลอดภาษี

ทรัมป์ยังกดดันให้ญี่ปุ่นลดการค้ากับจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของญี่ปุ่น เพื่อแลกกับข้อตกลงนี้ ขณะที่การเจรจาครั้งสุดท้ายในวันที่ 22 ก.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) สำเร็จลง หลังการประชุม 75 นาทีในห้องทำงานรูปไข่ กับนายเรียวเซ อากาซาวะ ผู้เจรจาด้านภาษีของญี่ปุ่น

อ่านข่าวอื่น :

"ทรัมป์" เก็บภาษีฟิลิปปินส์ 19% แลกเปิดเสรีการค้า

ปิดตำนานนักร้องเฮฟวี่เมทัล "ออซซี่ ออสบอร์น" เสียชีวิตในวัย 76 ปี