ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา หอการค้าไทย ชี้กระทบเชื่อมั่น-ลงทุนหยุดชะงัก

เศรษฐกิจ
18:04
2,754
เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา หอการค้าไทย ชี้กระทบเชื่อมั่น-ลงทุนหยุดชะงัก
อ่านให้ฟัง
04:17อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
หอการค้าไทย เผย เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชากระทบเชื่อมั่นเศรษฐกิจ-ลงทุนระหว่างประเทศหยุดชะงัก ด้านพลังงานสั่งตั้งศูนย์ป้องกันเหตุฉุกเฉินเร่งด่วน เฝ้าระวังและวางแนวทางการป้องกันสถานที่ด้านพลังงานสำคัญ ขณะที่ OR ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย

วันนี้ (24 ก.ค.2568) นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และเกิดการหยุดชะงักของกิจกรรมทางการค้า และการลงทุนระหว่างสองประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ประธานกรรมการ  หอกาค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ประธานกรรมการ หอกาค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ประธานกรรมการ หอกาค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย

หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาเสถียรภาพ ความมั่นคง และความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ

ด้านการค้าการลงทุน หอการค้าไทยขอยืนยันว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายไทยยังคงเปิดด่านการค้าอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยมีนโยบายปิดกั้นการค้าชายแดน อย่างไรก็ตาม มาตรการด้านความมั่นคงและสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดการชะลอตัวของกิจกรรมเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะสามารถกลับมาฟื้นตัวหลังสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ด้านนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ได้สั่งการเร่งด่วนให้ กระทรวงพลังงาน ตั้งศูนย์ป้องกันเหตุฉุกเฉิน เฝ้าระวังและวางแนวทางการป้องกันสถานที่ด้านพลังงานที่สำคัญ เช่น คลังน้ำมัน สถานีบริการน้ำมัน ระบบส่งไฟฟ้า ขอให้ทุกหน่วยงานทั้งในส่วนกลาง

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน

นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน

ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และจังหวัดในพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด ประกอบด้วย ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการพิจารณาเปิดปิดสถานีบริการน้ำมัน ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงานและกระทบประชาชนให้น้อยที่สุด และเตรียมแผนและมาตรการต่างๆ หากเกิดเหตุการณ์ทวีความรุนแรงขึ้น

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเช้า ซึ่งทันทีที่เกิดเหตุการณ์ ได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานตั้งศูนย์ป้องกันเหตุฉุกเฉิน และเรียกประชุมด่วน โดยได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และวางแนวทางและมาตรการต่างๆ

นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้พลังงานจังหวัด ในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีการปิดสถานีบริการน้ำมันชั่วคราว ให้พิจารณาการเปิดปิดให้คำนึงถึงความปลอดภัยของพนักงาน และกระทบประชาชนให้น้อยที่สุด รวมทั้งให้มีการสื่อสารให้กับประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ

นอกจากนั้น ขอให้อำนวยความสะดวกส่วนราชการ โดยเฉพาะโรงพยาบาล สถานีตำรวจ หรือการอพยพคน ที่จำเป็นต้องมีการใช้น้ำมันและไฟฟ้า ให้สามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและเกิดความปลอดภัยกับประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด

ด้าน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ออกแถลงการณ์ ขอแสดงความเสียใจ กรณีเหตุการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ที่ส่งผลให้สถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด พิชชา ปิโตรเลียม ต.บ้านผือ ได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

อ่านข่าว:

สธ.ย้ายผู้ป่วย 5 โรงพยาบาล หลังเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา

ตราดปิดด่านหาดเล็ก ส่งนักเรียนกัมพูชากลับ รับมือวิกฤตชายแดน