วันนี้ (24 ก.ค.2568) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ประชุมด่วนในศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มีรายงานเบื้องต้น สั่งอพยพผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ด่วน โรงพยาบาล 5 แห่ง ใน 2 จังหวัด คือ จ.ศรีสะเกษ รพ.กันทราลักษณ์ รพ.ขุนหาญ รพ.ภูสิงห์ จ.สุรินทร์ มี 2 แห่ง รพ.พนมดงรัก รพ.กาบเชิง ส่วนอีก 5 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สระแก้ว จันทบุรี ตราด มีการเตรียมพร้อมรับมือขั้นสูงสุด แต่ยังไม่มีรายงานการปะทะและความเสียหายในพื้นที่
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ขณะนี้การจัดทำแผนเผชิญเหตุอยู่ในระยะ Response ll เสนอแผนเผชิญเหตุในการจัดการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งจะมีการสรุปสถานการณ์ให้ทราบครั้งหลังการประชุม

โรงพยาบาลพนมดงรัก มีขนาด 30 เตียง ได้เคลื่อนย้ายผู้ป่วย 19 คนไปยังโรงพยาบาลอื่น และให้ผู้ป่วยที่สามารถกลับบ้านได้กลับบ้านอีก 19 คน ส่วนโรงพยาบาลกาบเชิง มีขนาด 60 เตียง เคลื่อนย้ายผู้ป่วยแล้ว 56 คน และขณะนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ (สสจ.สุรินทร์) ได้ยกระดับสถานการณ์เป็น "ภาวะฉุกเฉินระดับ 2" แล้ว

นายสมศักดิ์ ระบุด้วยว่า ได้สั่งการให้จัดทีม MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) ไปให้บริการจิตวิทยาและการคัดกรองสุขภาพจิตให้กับประชาชนในพื้นที่ ที่อาจอยู่ในภาวะเครียดและตื่นตระหนก พร้อมเปิดศูนย์ให้คำปรึกษาแบบ Walk-in และออนไลน์
นอกจากนี้ ได้กำชับเรื่องการบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีความเหมาะสม ประเมินร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อสนับสนุนงาน ช่วยเหลือด้านการอพยพประชาชนและดูแลศูนย์อพยพ เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัย และให้ติดตามกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วยเรื้อรังที่ต้องรับยาเพื่อนำส่งยา ให้สำรองเวชภัณฑ์ยาให้เพียงพอเพื่อรับมือสถานการณ์ และพร้อมการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ
ตำรวจใช้แผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง เหตุชายแดนไทย-กัมพูชา
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณแนวชายแดน อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม หลังฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิง ส่งผลให้มีทหารและประชาชนไทยได้รับบาดเจ็บ
ผบ.ตร.ระบุว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ ทหารดำเนินการตามภารกิจหลักส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์กำลังดำเนินการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยครอบคลุมการรักษาความมั่นคงภายใน การอพยพประชาชน การบูรณาการการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บเข้าสู่พื้นที่ปลอดภัยร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่
ส่วนการส่งกำลังเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุน ผบ.ตร.ระบุว่า กองทัพเคยร้องขอให้เตรียมความพร้อมส่งกำลังควบคุมฝูงชนเข้าไป เนื่องจากอาจเกิดเหตุขัดแย้งระหว่างประชาชนทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาเมือนธม แต่เนื่องจากขณะนี้มีคำสั่งปิดปราสาทแล้ว จึงยุติการนำกำลังควบคุมฝูงชนเข้าปฏิบัติการ
พร้อมย้ำว่าขณะนี้ใช้ปฏิบัติการทางทหารเป็นหลัก ส่วนตำรวจยังคงเน้นการสนับสนุนแผนพิทักษ์พื้นที่ในแนวหลังเพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน โดยตำรวจตระเวนชายแดนที่ประจำการในแนวบังเกอร์ชายแดนยังคงอยู่ในพื้นที่ตามหน้าที่เพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับทหารต่อเนื่อง
อ่านข่าว : กระสุนปืนใหญ่ตกในปั๊ม ปตท. กันทรลักษ์ เสียชีวิต 3 คน
ชาวบ้านกาบเชิง เสียชีวิต 2 เจ็บ 2 คน เหตุกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ชุมชน