วันนี้ (29 ก.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อเวลา 24.00 น. ให้หยุดยิงตามข้อตกลงระหว่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กับ พล.อ.ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ได้มีการหารือร่วมกัน ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรุงกัวลาลัมเปอร์
รายงานสถานการณ์ปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา (เท่าที่ได้รับรายงาน) วันที่ 28 ก.ค.2568 ณ เวลา 24.00
จ.บุรีรัมย์
- พื้นที่ด้านช่องสายตะกู : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสียบาดเจ็บ
จ.สุรินทร์
- พื้นที่ปราสาทตาเมือน : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย บาดเจ็บ
-พื้นที่ปราสาทตาควาย : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย บาดเจ็บ
-พื้นที่ช่องจอม : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย บาดเจ็บ
จ.ศรีสะเกษ
- พื้นที่เขาพระวิหาร (ภูมะเขือ ห้วยตามาเรีย) : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย บาดเจ็บ
- พื้นที่ปราสาทโดนตวล : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย บาดเจ็บ
จ.ศรีสะเกษ
- พื้นที่เขาพระวิหาร (ภูมะเขือ ห้วยตามาเรีย) : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย บาดเจ็บ
- พื้นที่ปราสาทโดนตวล : ยุติการปะทะ ยังไม่ได้รับรายงานความสูญเสีย บาดเจ็บ
โดยผู้สื่อข่าวรายงาน 10 นาทีสุดท้าย ทหารไทยกับทหารกัมพูชาปะทะอย่างดุเดือด ใช้อาวุธ หนักโจมตี เครื่องบินขับไล่ F-16 บินปฏิบัติการทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา เช่น พื้นที่ภูผี ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย
สถานการณ์ชายแดนหลังพ้นเส้นตาย
เป็นเวลา 5 ชั่วโมง หลังชายแดนไทยกัมพูชา หยุดยิงตามข้อตกลงตั้งแต่เวลา 24.00 น. แต่ก่อนจะถึงเวลาหยุดยิงอย่าง จ.บุรีรัมย์ ที่กล้องวงจรปิดตามบ้านของชาวบ้านในพื้นที่บ้านกรวด บันทึกเสียงปืนและเสียงระเบิดได้ก่อนเวลาหยุดยิง
ขณะที่กองทัพยืนยันทุกพื้นที่ยุติปฏิบัติการทางทหารแล้ว โดยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดน
ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ตามบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ สามารถบันทึกเสียงปืนใหญ่และเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ซึ่งเกิดขึ้นก่อนถึงเวลาหยุดยิงตามข้อตกลงระหว่างรัฐบาลไทยและกัมพูชา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีทหารได้รับบาดเจ็บหลายรายจากเหตุปะทะดังกล่าว โดยมีรถพยาบาลและหน่วยกู้ภัยจำนวนมากเร่งเข้าพื้นที่และลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลประโคนชัย รวมถึงโรงพยาบาลในตัวจังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และรอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานภาครัฐ
ช่องอานม้า เงียบสงัดหยุดยิงก่อนเที่ยงคืน
สถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาในพื้นที่ จ.อุบลราชธานีเริ่มกลับเข้าสู่ความสงบ หลังเกิดเหตุปะทะกันต่อเนื่องในช่วง 2–3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะบริเวณ ช่องอานม้า อ.น้ำยืน ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นพื้นที่เผชิญเหตุยิงตอบโต้ระหว่างกำลังทหารของทั้งสองฝ่าย
ล่าสุด บรรยากาศบริเวณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ เทศบาลตำบลน้ำยืน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากแนวชายแดนดังกล่าวเป็นไปอย่างเงียบสงบ ไม่มีเสียงอาวุธหรือความเคลื่อนไหวผิดปกติ ขณะที่ฝ่ายทหารยืนยันว่าการปะทะในจุดช่องอานม้าได้ยุติลงเรียบร้อยแล้ว และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต
นอกจากจุดช่องอานม้าแล้ว อีกหนึ่งจุดที่เคยเกิดการปะทะคือ พื้นที่ช่องบก ซึ่งอยู่ในเขตชายแดนจังหวัดอุบลราชธานีเช่นกัน โดยเหตุการณ์ในบริเวณดังกล่าวก็ได้ยุติลงแล้วเช่นกัน โดย ยังไม่มีรายงานความสูญเสียทั้งสองฝ่าย
กองทัพประกาศหยุดยิงทุกพื้นที่
ส่วนโซเชียลมีเดีย อย่างเป็นทางการของกองทัพ ก็ได้โพสต์เช่นกัน โดยเพจกองทัพบก ทันกระแส ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "ยืนยันไทยทุกพื้นที่ หยุดยิง" พร้อมติดแฮชแท็ก #TruthFromThailand เพื่อย้ำจุดยืนของกองทัพบกไทยในการยุติปฏิบัติการทางทหารตามแนวชายแดน
ด้านกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนด้านตะวันออก ได้แสดงความขอบคุณ "นักรบผู้กล้าทำหน้าที่อย่างสมบูรณ์" ถือเป็นการให้กำลังใจทหารในพื้นที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้สถานการณ์ตึงเครียดตลอดหลายวันที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน กองทัพเรือได้ออกข้อความระบุว่า "พื้นที่ จ.ตราด ไม่มีการปะทะ" เป็นการยืนยันความสงบในพื้นที่รับผิดชอบริมฝั่งทะเลทางตะวันออก ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของกองกำลังชายแดนบริเวณดังกล่าว
ส่วนกองทัพอากาศไทย ได้สรุปสถานการณ์ผ่านโพสต์ยืนยันว่า "ทุกพื้นที่ที่หยุดยิงแล้ว" โดยอ้างอิงจากข้อความแจ้งของทั้งกองทัพบกและกองทัพเรือ สะท้อนถึงการทำงานร่วมกันของเหล่าทัพในการควบคุมสถานการณ์ตามแนวชายแดนให้เป็นไปตามแนวทางสันติภาพ
อ่านข่าว :
F-16 ทิ้งบอมบ์ 2 รอบสกัดกองทัพเขมรยึดตาเมือนธม-ตาควาย