ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

คู่ค้าไทยเร่งสต็อก หนีภาษีทรัมป์ ดันดัชนีราคาส่งออก ดัชนีราคานำเข้าพุ่ง

เศรษฐกิจ
17:58
125
คู่ค้าไทยเร่งสต็อก หนีภาษีทรัมป์ ดันดัชนีราคาส่งออก ดัชนีราคานำเข้าพุ่ง
ดัชนีราคาส่งออก และดัชนีราคานำเข้าของไทย เดือนมิถุนายน 2568 ขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามการเร่งนำเข้าสินค้าของคู่ค้าต่างประเทศ ก่อนการปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ

วันนี้ ( 29 ก.ค.2568) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.)โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ดัชนีราคาส่งออก และดัชนีราคานำเข้าของไทย เดือนมิ.ย.2568 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเร่งสต๊อกสินค้าของประเทศคู่ค้า ก่อนการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ เพื่อลดความเสี่ยงด้านราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ประกอบกับการนำเข้าสินค้ายังขยายตัวต่อเนื่องเพื่อนำมาผลิตก่อนส่งออกเพิ่มขึ้น และรองรับการบริโภคภายในประเทศ

อย่างไรก็ตามความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นโยบายกีดกันทางการค้า และการแข็งค่าของเงินบาท อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวทางด้านราคาของไทยในระยะข้างหน้า

โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ดัชนีราคาส่งออก เดือนมิถุนายน 2568 เท่ากับ 111.3 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่อง 0.7% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเร่งส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ก่อนการปรับขึ้นภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงทองคำ ยังเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้ราคาส่งออกขยายตัวต่อเนื่อง และส่งผลให้หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกปรับตัวสูงขึ้น ประกอบด้วย หมวดสินค้าอุตสาหกรรม สูงขึ้น 1.8 %

ได้แก่ ทองคำ ตามความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ตามความต้องการเร่งนำเข้าสินค้าของประเทศคู่ค้าก่อนจะมีการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของคอมพิวเตอร์และชิ้นส่วนไปยังตลาดโลก และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของชิ้นส่วนโลหะ ประกอบกับแนวโน้มอุณหภูมิของหลายประเทศที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศเพิ่มขึ้น

และหมวดสินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร สูงขึ้น1.2% ได้แก่ อาหารทะเลกระป๋อง ตามความนิยมอาหารพร้อมรับประทานเพิ่มขึ้น อาหารสัตว์เลี้ยง ตามความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อสุขภาพ เนื่องจากการให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัว และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์

โดยเฉพาะน้ำดื่มและน้ำผลไม้ ตามความต้องการเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพิ่มขึ้น ขณะที่หมวดสินค้าที่ดัชนีราคาส่งออกลดลง ประกอบด้วย หมวดสินค้าแร่และเชื้อเพลิง ลดลง 10.9% ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป และน้ำมันดิบ ตามอุปทานน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้น จากนโยบายปรับเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส และหมวดสินค้าเกษตรกรรม ลดลง4.3 %ได้แก่ ข้าว และผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ซึ่งเผชิญกับปัญหาอุปทานส่วนเกิน และการแข่งขันด้านราคาจากประเทศคู่แข่ง ทำให้ความต้องการชะลอลง

ดัชนีราคานำเข้า เดือนมิถุนายน 2568 เท่ากับ 115.4 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.4% ปัจจัยหลักเป็นผลจากความต้องการนำเข้าวัตถุดิบ เครื่องจักร และอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการผลิต และรองรับคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ก่อนหมดช่วงผ่อนปรนมาตรการภาษีของสหรัฐฯ

รวมถึงความต้องการสินค้าเพื่อใช้อุปโภคบริโภคในประเทศ ส่งผลให้ดัชนีราคานำเข้าปรับตัวสูงขึ้นเกือบทุกหมวดสินค้า ประกอบด้วย หมวดสินค้าอุปโภคบริโภค สูงขึ้น 8%ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องประดับอัญมณี และเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ตามความต้องการสินค้าเพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภคของประเทศ หมวดสินค้าวัตถุดิบและกึ่งสำเร็จรูป สูงขึ้น5.5%

โดยเฉพาะทองคำเป็นผลจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ทำให้ความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น สำหรับอุปกรณ์ ส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะแผงวงจรไฟฟ้า ตามความต้องการชิ้นส่วนเพื่อผลิตสำหรับขายในประเทศและส่งออก

และปุ๋ย เนื่องจากอุปทานตึงตัว ขณะที่ความต้องการในภาคเกษตรเพิ่มขึ้น หมวดสินค้าทุน สูงขึ้น4.7% ได้แก่ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เพื่อรองรับการผลิตสำหรับส่งออก และการขยายตัวของเทคโนโลยีดิจิทัล และหมวดยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง สูงขึ้น0.8%

โดยเฉพาะส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์ ตามความต้องการอุปกรณ์ชิ้นส่วนยานยนต์ สำหรับใช้ภายในประเทศและส่งออก รวมถึงรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ขณะที่หมวดสินค้าเชื้อเพลิง ลดลง10.7% โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ตามการคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันจะปรับตัวสูงเกินกว่าอุปสงค์โลก

สำหรับแนวโน้มดัชนีราคาส่งออก และดัชนีราคานำเข้า ไตรมาสที่ 3 ปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 2 ปี 2568 โดยปัจจัยที่สนับสนุนให้ดัชนีขยายตัว ได้แก่ ความต้องการบริโภคสินค้าเกษตรแปรรูป และอาหารในตลาดโลกยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง สินค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI และ Data Center รวมถึงอุตสาหกรรม EV ยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก และ ต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น

ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้าหลัก ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังมีแนวโน้มยืดเยื้อในหลายภูมิภาค ความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ รวมถึงนโยบายของหลายประเทศที่มุ่งสนับสนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศมากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูง ราคาสินค้าเกษตรสำคัญบางกลุ่มเผชิญกับปัญหาอุปทานส่วนเกิน และการแข่งขันทางด้านราคา และ เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า ซึ่งเป็นข้อจำกัดของภาคการส่งออกไทย

อ่านข่าว:

 คู่ค้าเร่งสต๊อกสินค้า หนีภาษีทรัมป์ ดันส่งออกมิ.ย. พุ่ง15.5% เฉพาะสหรัฐฯ + 41.9%

"กอบศักดิ์" ห่วงภาษีทรัมป์ หวังรัฐปิดดีล 25% เอกชนยังไปต่อได้

"จตุพร" สู้ภาษีทรัมป์ 36 % ภารกิจท้าทาย "พ่อบ้าน" พาณิชย์