ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

หยุดรัฐบาล? หยุดยิง "ไทย-กัมพูชา"

การเมือง
16:02
428
หยุดรัฐบาล?  หยุดยิง "ไทย-กัมพูชา"
อ่านให้ฟัง
05:42อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ถึงเวลานี้ นอกจากกระบวนการตามกฎหมาย ซึ่งอ้างอิงเป็นวาทกรรมว่า "นิติสงคราม" ถูกจับจ้องว่า อาจเป็น "จุดเปลี่ยนทางการเมือง" โดยเฉพาะคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุจากคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน แล้ว สถานการณ์การสู้รบ ระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็กำลังเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งด้วย

เพราะนอกจากข้อสังเกตเรื่องศักยภาพของรัฐบาล และประสิทธิภาพของรัฐมนตรีใน ครม.แพทองธาร 2 กับบทบาทรักษาอธิปไตยไทยและการปกป้องชีวิตของประชาชนแล้ว ยังมีคำถามถึงนัยการเมือง ที่แฝงอยู่ในการขับเคลื่อน โดยเฉพาะข้อตกลงการเจรจาหยุดยิงกับกัมพูชา 

แม้ฝ่ายการเมือง จะเจรจาหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข แต่สำหรับนายจตุพร พรหมพันธุ์ เชื่อว่า หยุดยิงไม่มีอยู่จริง และต้องหยุดรัฐบาลก่อน ถึงจะหยุดยิงได้ เพราะเห็นว่า ความขัดแย้ง ที่กลายเป็นเหตุปะทะ และเปลี่ยนไปเป็นการสู้รบ โดยปมจริงๆ คือกัมพูชาต้องการจะยึดครอง 3 ปราสาท กับช่องบกซึ่งการตกลงกันได้จริงๆ ย่อมต้องมีเงื่อนไข นี่ละข้อกังขา 

ความไม่ไว้วางใจของนายจตุพร มา 3 ใน 4 คนของทีมเจรจาหยุดยิงของไทย "ภูมิธรรม เวชยชัย-มาริษ เสงี่ยมพงษ์-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช" มีความรู้-ความสามารถและประสบการณ์ เทียบเท่ากับคู่เจรจาไหม และยังไม่ไว้วางใจ เพราะทั้ง 3 คน คือคนใกล้ชิดของนายทักษิณ ชินวัตร ที่เรียกตัวเองว่าเสมียนประเทศ

ส่วนข้อกังขา เหตุมาจากเชื่อว่า สมรภูมิรบ มีทั้งความเจ็บและการสูญเสีย จะมาตกลงกันได้ง่ายดายได้เหรอ? และการตกลง "หยุดยิง" ของกัมพูชา ไทยไม่มีอะไรเป็นเงื่อนไขจริงหรือ? เพราะปัญหา..เกิดจากกัมพูชาต้องการจะยึดครอง 3 ปราสาทกับช่องบก และจากสถานการณ์ ศบ.ทก.ก็แจกแจงแล้วว่า ไทยยึดไว้ได้ 11 พื้นที่

นายจตุพร อ้างอิงว่า แม้จะยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงที่ว่าได้ แต่เชื่อว่า วงถก จีบีซี 4 ส.ค.นี้ จะถอดหน้ากาก..รัฐบาลได้ และนอกจาก 3 ใน 4 คนของทีมเจรจาหยุดยิงฝ่ายไทย ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นคนใกล้ชิดของเสมียนประเทศแล้ว อีก 1 คนในทีมค่ะ กำลังเผชิญกับข้อครหา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ปฏิเสธเสียงแข็งไม่เป็นความจริง

1 ใน 4 ทีมเจรจา พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ปฏิเสธข้อสังเกต ว่าการเจรจาภาษีต่างตอบแทนกับสหรัฐฯ เป็นเงื่อนไขที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตรงกับการเจรจาหยุดยิง ระหว่าง "ไทยกับกัมพูชา" และไม่เป็นความจริง ที่รัฐบาลตอบรับการหยุดยิง และใช้ปม-ปัญหานี้ กดดันกองทัพให้หยุดยิง โดย พล.อ.ณัฐพล ย้ำแล้วย้ำอีกว่าการเจรจาหยุดยิงกับกัมพูชาไม่มีใบสั่งทางการเมือง

พร้อมการันตี ชีวิตรับราชการทหารมาทั้งชีวิต ไม่เอาเกียรติยศมาแลกกับความหวังส่วนตัว ตามกระแสที่ว่าหวังจะเติบโตทางการเมือง จึงตอบรับแนวทางของฝ่ายการเมือง พร้อมกับอ้างอิงถึงภาวะที่เป็น "คนกลาง" จะระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ หรือ ระหว่างรัฐกับประชาชน จึงเป็นเหตุให้ต้องพิจารณาปัจจัยทั้งหมด เว้นแต่หลักสำคัญ คือการปกป้องอธิปไตยไทยและชีวิตของประชาชน 

มีอีกข้อสังเกตจาก "บิ๊กเกรียง" พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม้ยอมรับในแผนปฏิบัติการทางทหาร แต่ไม่ไว้วางใจฝ่ายการเมือง โดยบอกว่า ทุกสงคราม ย่อมต้องจบด้วยการเจรจา แต่การเจรจาหยุดยิง และนำมาซึ่งความสงบในแนวชายแดนไทยกัมพูชา อาจต้องพิสูจน์กันอีกครั้ง ในการประชุม "จีบีซี" 4 ส.ค.นี้ และย้ำว่า การสูญเสียจะต้องไม่เสียเปล่า 

ข้อสังเกตของอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ โดยเฉพาะกับการยึดภูมะเขือและปราสาทตาควาย ถือเป็นข้อได้เปรียบของไทย เพราะการรักษาพื้นที่คือหัวใจสำคัญของสถานการณ์สู้รบ และจะเป็นข้อได้เปรียบในวงเจรจา โดยเฉพาะ "จีบีซี" ที่กำลังจะมีขึ้น

เว้นแต่ว่ารัฐบาลจะตัดสินใจสวนทางกับแผนปฏิบัติการทางทหารของกองทัพ และนอกจากข้อสังเกต ก็มีข้อเรียกร้องให้รัฐบาล ยึดแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 เพื่อความแม่นยำ ทบทวน MOU ฉบับที่ 43 และ 44 หรือแม้แต่พิจารณายกเลิก หากทบทวนแล้ว เห็นข้อขัดต่อผลประโยชน์ของชาติ

นอกจากกระบวนการตามกฎหมาย ที่เป็นวาทกรรมกันว่า "นิติสงคราม" จะถูกจับจ้องว่า อาจเป็น "จุดเปลี่ยนทางการเมือง" โดยเฉพาะคำร้องถอดถอนนายกรัฐมนตรี ด้วยเหตุจากคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฯ ฮุน เซน แล้ว สถานการณ์การสู้รบ ระหว่างไทยกับกัมพูชา ก็กำลังเป็นอีกเงื่อนไขหนึ่งด้วย จะในมุมศักยภาพรัฐบาล หรือประสิทธิภาพของรัฐมนตรีก็ตาม

อ่านข่าว :

ศาล รธน.ให้ "แพทองธาร" ขยายแจงปมคลิปคุย "ฮุนเซน" ถึง 4 ส.ค.

"พล.อ.ณัฐพล" ให้ทุกเหล่าทัพเร่งเสนองบประมาณ เพื่อจัดหายุทโธปกรณ์ทดแทน

"วันนอร์" ประณาม ปธ.สภากัมพูชาแถลงบิดเบือนข้อเท็จจริง