วันนี้ (31 ก.ค.2568) เหตุการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา สร้างความกังวลให้กับแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย โดยเฉพาะใน จ.สงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากในภาคประมง นายสุรเดช นิลอุบล นายกสมาคมประมงจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ในช่วงแรกของการปะทะ แรงงานกัมพูชา โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำงานบนเรือประมง มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม หลังจากสมาคมประมงและนายจ้างให้ข้อมูลและทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้แรงงานกลุ่มนี้คลายความกังวลและยังคงทำงานต่อไปตามปกติ
สำหรับแรงงานหญิงประมาณ 100-200 คน ที่ทำงานบริเวณท่าเทียบเรือประมงในสงขลา มีความกังวลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการต่ออายุใบอนุญาตทำงานที่ใกล้หมดอายุ ทางสมาคมประมงและนายจ้างได้ให้ข้อมูลและความมั่นใจว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านแรงงาน ส่งผลให้แรงงานกลุ่มนี้ตัดสินใจไม่เดินทางกลับประเทศกัมพูชาและยังคงทำงานในไทยต่อไป เนื่องจากต้องการรักษาโอกาสในการจ้างงาน ความพยายามในการสื่อสารและให้ข้อมูลที่ชัดเจนนี้ช่วยลดความตื่นตระหนกและรักษาเสถียรภาพในภาคแรงงานประมง
ด้านนายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า จากข้อมูลล่าสุด มีแรงงานกัมพูชาในระบบที่เดินทางกลับประเทศแล้วประมาณ 20,000 คน ส่วนแรงงานนอกระบบยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกับนายจ้างพบว่า มีเพียงบางส่วนที่ขอลาออก ซึ่งยังไม่ถึงระดับที่ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น กระทรวงแรงงานมีแผนสำรองโดยพิจารณานำเข้าแรงงานจากศรีลังกาทดแทน แต่ต้องหารือกับฝ่ายความมั่นคงเพิ่มเติมเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ชายแดน
ต่อกรณีที่กระทรวงแรงงานกัมพูชาออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทั่วโลกแบนสินค้าและบริการของไทย โดยอ้างว่ามีการคุกคามแรงงานกัมพูชาในไทย รมว.แรงงาน ยืนยันว่า ประเทศไทยยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความเสมอภาคในการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.2568 กระทรวงแรงงานได้ส่งหนังสือชี้แจงไปยังองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการทะเลาะวิวาททั่วไป ไม่ใช่การละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือการกดขี่ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังเชิญตัวแทน ILO เข้าตรวจสอบสถานประกอบการในวันที่ 1 ส.ค.นี้ เพื่อยืนยันว่าไม่มีการละเมิดสิทธิแรงงาน
รมว.แรงงาน ยังให้ความมั่นใจแก่แรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย รวมถึงผู้ที่ต้องการเดินทางกลับเข้ามาทำงานว่า ประเทศไทยไม่มีนโยบายปิดกั้นการเข้าทำงานของแรงงานข้ามชาติที่ไม่มีประวัติคดีหรือปัญหาทางกฎหมาย แรงงานกัมพูชาจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกับแรงงานไทยในทุกด้าน รวมถึงสวัสดิการและการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน
อ่านข่าวอื่น :
กองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทยถูกคุกคาม 4 พื้นที่
ไทยผลิต “ยาเม็ดมุ่งเป้ารักษามะเร็ง” สำเร็จ ลดราคานำเข้า 40 เท่า