เมื่อวันที่ 31 ก.ค.2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชาส่งหนังสือถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม พร้อมระบุว่า กัมพูชาเห็นด้วยกับข้อเสนอของประเทศไทยที่ต้องการให้จัดการประชุมคณะกรรมการ (GBC) ที่ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 4-7 ส.ค.นี้
ขณะเดียวกันยังเสนอให้เชิญตัวแทน 3 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สหรัฐฯ และจีน เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย เนื่องจากทั้ง 3 ประเทศมีบทบาทสำคัญในการอำนวยความสะดวกต่อการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา
สื่อกัมพูชาเผยภาพเมืองชายแดนคึกคักหลังหยุดยิง
สำนักข่าวเฟรช นิวส์ ของกัมพูชา เผยแพร่คลิปวิดีโอสภาพบ้านเมืองในเมืองสำโรง จ.อุดรมีชัย พร้อมระบุว่าสถานการณ์เริ่มกลับมาปกติอีกครั้ง หลังจากที่ไทยและกัมพูชาเจรจาบรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยประชาชนและพ่อค้าแม่ขายต่างขอบคุณรัฐบาล สำหรับความพยายามในการยุติการสู้รบที่เกิดขึ้นและนำความสงบสุขกลับมาสู่ประชาชน
ด้านรัฐมนตรีข้อมูลข่าวสารของกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเปิดเผยจำนวนชาวกัมพูชาพลัดถิ่นจากสงคราม โดยระบุว่า นับจนถึงช่วงเย็นของวันที่ 30 ก.ค. มีชาวกัมพูชาพลัดถิ่นไปแล้วกว่า 172,094 คน แบ่งเป็นใน จ.อุดรมีชัย 39,546 คน, จ.พระวิหาร 32,558 คน, จ.บันเตียเมียนเจย 35,057 คน, จ.โพธิสัตว์ 3,026 คน และเมืองเสียมราฐอีก 61,907 คน
ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนยูเอ็นเรียกร้องเคารพหยุดยิง
ขณะที่ โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ แสดงความยินดีที่กัมพูชา-ไทยบรรลุข้อตกลงหยุดยิง พร้อมทั้งเรียกร้องให้ไทยและกัมพูชาคุ้มครองประชาชนจากความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นอีก โดยให้เคารพและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่ได้บรรลุ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.อย่างเต็มที่ พร้อมเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและสันติภาพ
นอกจากนี้ยังระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศควรเดินหน้าฟื้นฟูความมั่นคงตามแนวชายแดน และให้การเยียวยาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงและการพลัดถิ่น ตามมาตรฐานและกฎหมายสิทธิมนุษยชนและมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งตามรายงานระบุว่ามีผู้พลัดถิ่นมากกว่า 180,000 คนในฝั่งไทยและอีก 168,946 คนในฝั่งกัมพูชา
ชาวกัมพูชารวมตัวชุมนุมต่างแดนประณามไทย
ขณะที่สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า ชาวกัมพูชาประมาณ 500 คนที่อาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ ญี่ปุ่นและมาเลเซีย รวมตัวชุมนุมอย่างสันติ เพื่อแสดงความขอบคุณโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ช่วยไกล่เกลี่ยข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา โดยผู้ชุมนุมร่วมกันถือป้ายข้อความ พร้อมทั้งแสดงความอาลัยต่อทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจากการปะทะที่เกิดขึ้น
ผู้ร่วมชุมนุมเน้นย้ำว่า การหยุดยิงระหว่าง 2 ฝ่ายถือว่าเป็นก้าวสำคัญในการหลีกเลี่ยงหายนะด้านมนุษยธรรม พร้อมย้ำว่าชาวกัมพูชาทั้งในและนอกประเทศไม่ต้องการเห็นสงครามปะทุขึ้นอีกในบ้านเกิดของพวกเขา
การรวมตัวดังกล่าวมีขึ้นราว 5 วัน หลังจากที่เกิดการปะทะกันระหว่างกองกำลังฝ่ายไทยและกัมพูชาบริเวณชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งส่งผลให้เกิดความสูญเสียอย่างมากต่อทรัพย์สินของประชาชนและแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่อยู่ใกล้ชายแดน ซึ่งการชุมนุมนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของการรวมตัวเคลื่อนไหวของชาวกัมพูชาหลายหมื่นคน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่รวมตัวกันประณามการรุกรานของกองทัพไทยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
อ่านข่าว
"ฮุน มาเนต" โต้ไม่ห่วงทหารกัมพูชา เผยเร่งเจรจาคืนตัวอย่างรอบคอบ
ทภ.2 เลื่อนส่งตัว 18 ทหารกัมพูชา เหตุยังซักถามไม่เสร็จ - 1 ส.ค.ส่งก่อน 2 นาย
"วินธัย" รับเหนือความคาดหมาย "กัมพูชา" วางกับระเบิด "ปราสาทตาควาย" ชี้เป็นข้อจำกัดการรุก