วันนี้ (1 ส.ค.2568) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการหารือร่วมกับสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (SME) ในประเด็นที่ไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ 19% โดยระบุว่า การหารือกันในวันนี้ ได้ชี้แจงกลุ่ม SME ว่า ตลาดการส่งออกของไทยหลังจากนี้จะไม่เหมือนเดิม และอาจมีสินค้าในบางอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ
เบื้องต้นกระทรวงพาณิชย์ พร้อมตั้งรับและหามาตรการเยียวยา โดยเตรียมจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาแบบ One Stop Service ที่ศูนย์ส่งออกสินค้า รัชดา โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารและหน่วยงานสนับสนุนต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถเข้ารับคำแนะนำ ปรึกษา และหาทางออกได้ในที่เดียว ช่วยให้ผู้ประกอบการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนกรณีที่สินค้า SME บางรายการ ที่ก่อนหน้านี้ไม่ถูกเรียกเก็บภาษี หรือเรียกเก็บภาษีน้อยกว่า 19% ระบุว่า ประเทศอื่น ๆ ถูกเพิ่มภาษีเช่นกัน ซึ่งยังสามารถแข่งขันได้ แต่กระทรวงพาณิชย์จะมีมาตรการลดต้นทุนการผลิตควบคู่กับมาตรการอื่น ๆ ด้วย

ทั้งนี้ ยอมรับว่า สินค้าเกษตรที่ต้องมีการเปิดให้นำเข้าจากสหรัฐ ฯ ยกตัวอย่าง เนื้อหมู หากมองในมิติด้านราคาก็อาจทำให้สินค้าในประเทศมีราคาถูกลง ส่วนเนื้อโคพรีเมี่ยม เรามีตลาด FTA ที่เปิดนำเข้าจากนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย 0% อยู่แล้ว หากสหรัฐฯ นำเข้าก็จะทำให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น แต่ยืนยันว่าการเปิดให้มีการนำเข้าจะไม่กระทบต่อภาพรวมเกษตรกรไทย
ด้านนาย สุปรีย์ ทองเพชร ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ยอมรับว่า แม้ไทยจะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากสหรัฐที่ 19% แต่ SME ยังมีความกังวล โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับภาคการส่งออก ที่มีมากกว่า 2 ล้านราย ซึ่งการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ จากเดิมมีปัญหาอยู่แล้ว แม้สินค้าที่เป็นของชิ้นเล็กบางรายการจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษี แต่หลังจากถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่ม ก็จะยิ่งสร้างภาระด้านต้นทุนการผลิตให้เพิ่มสูงขึ้นไปอีก
เบื้องต้นได้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ช่วยหาตลาดใหม่ ๆ หรือหาวิธีลดต้นทุนการผลิต และส่งเสริมศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ เพื่อปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย ยอมรับว่า หลังจากนี้ต้องมีการทำงานร่วมกับภาครัฐเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ AI และอีคอมเมิร์ซ ที่จะเป็นตัวช่วยในการวางรากฐานให้กับ SME และจะต้องพยายามแยกสินค้าไม่ให้ปะปนกับประเทศอื่น ๆ เพื่อป้องกันการถูกสวมสิทธิ์ ส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพราะยิ่งทำให้ต้นทุนการผลิตสูงมากยิ่งขึ้น
อ่านข่าว : "ทรัมป์" ประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไทย 19% เท่ากัมพูชา มาเลเซีย มีผล 1 ส.ค.
แท็กที่เกี่ยวข้อง: