วันนี้ (6 ส.ค.2568) ความคืบหน้ากรณีตำรวจชุดสืบสวน สภ.ลำดวน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายวิน อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา เมื่อกลางดึกวันที่ 5 ส.ค. ที่บ้านพักใน อ.กระสัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาที่เป็นคนไทย เจ้าหน้าที่พบของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก, เครื่องแบบทหารกัมพูชา, เสื้อกั๊ก, และหมวกที่มีตราสัญลักษณ์ BHQ ซึ่งเป็นหน่วยองครักษ์พิทักษ์สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สภ.กระสัง
จากการสอบสวน นายวินอ้างว่า เคยเป็นทหารหน่วย BHQ แต่ลาออกมาหลายปีแล้ว และอ้างว่าปัจจุบันทำงานในประเทศไทย โดยย้ายมาอยู่ที่ อ.กระสัง กับภรรยาคนไทยได้ประมาณ 1 ปี อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พบพิรุธว่า ผู้ต้องหาใช้ถึง 4 ชื่อในเอกสารต่าง ๆ ทั้งชื่อในวงการทหาร, พาสปอร์ต, บัตรประชาชน, และบัตรทำงาน ซึ่งแต่ละชื่อไม่ตรงกัน
นอกจากนี้ นายวินยอมรับว่าลักลอบเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติใน จ.สระแก้ว โดยจ่ายเงิน 4,000 บาทให้กับนายหน้าชาวกัมพูชา และเพิ่งเข้ามาเมื่อกลางเดือน ก.ค.2568

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและตำรวจ สภ.ลำดวน ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การ เนื่องจากสงสัยว่านายวินอาจแฝงตัวเป็นสายลับเพื่อสอดแนมและส่งข้อมูลความเคลื่อนไหวของทหารและหน่วยงานความมั่นคงของไทยให้กับกัมพูชา การตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหาพบภาพถ่ายที่นายวินสวมเครื่องแบบทหารและถืออาวุธสงคราม ซึ่งเพิ่มความน่าสงสัย ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์อย่างละเอียดเพื่อหาหลักฐานการส่งข้อมูลลับที่อาจกระทบความมั่นคงของไทย
เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหานายวินใน 2 ข้อหาคือ "ครอบครองอาวุธปืนโดยผิดกฎหมาย" และ "ลักลอบเข้าประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต" หากพบหลักฐานว่าเกี่ยวข้องกับการส่งข้อมูลลับหรือกระทำการที่กระทบความมั่นคง อาจถูกดำเนินคดีเพิ่มตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ 113 ซึ่งมีโทษรุนแรง การสอบสวนขยายผลยังดำเนินต่อไป โดยประสานหน่วยงานความมั่นคงระดับสูงเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม

อ่านข่าวอื่น :
ไทยสั่งทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ หลังเข้าตัดรั้วลวดหนามช่องอานม้า