ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"สะเทือนภูมิภาค" Air-Land Battle Gripen โต้ใต้สิทธิป้องตนเอง

การเมือง
12:38
248
"สะเทือนภูมิภาค" Air-Land Battle Gripen โต้ใต้สิทธิป้องตนเอง
อ่านให้ฟัง
06:41อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

ครั้งนี้ไม่ได้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ แต่ขอให้มั่นใจ.. เรารบ "ฟ้าเคียงดิน" Air-Land Battle Gripen ปฏิบัติการใช้อาวุธครั้งแรก ในประวัติศาสตร์ หลังเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในห้วงเดือนก.ค. 2568 ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ "ภูมะเขือ"และบริเวณพื้นที่ "ปราสาทตาควาย-ตาเมือนธม" โดยฝ่ายกัมพูชาใช้เป็นฐานยิงจรวดและปืนใหญ่มายังฝั่งไทย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งพลเรือนและทหารอย่างต่อเนื่อง

น.อ.รัตนสุทธิ สุทธิแย้ม ได้เขียนบทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์ ในเพจนภาธิปัตย์ ระบุภารกิจของกองทัพอากาศไทยใช้ JAS39 Gripen ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกัมพูชาเป็นครั้งแรกว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่รัฐบาลไทยถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง ในเรื่องการตอบโต้ที่ไม่เพียงพอ ทางกองทัพอากาศไทย (ทอ.ไทย) ได้เปิดฉากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเชิงรุกแบบบูรณาการ (Integrated Air Strike)โดยใช้เครื่องบินรบ JAS-39 Gripen จากสวีเดน และ F-16A/B จากสหรัฐฯเข้าทำการโจมตีเป้าหมายทางทหารของกัมพูชาอย่างแม่นยำ

สะท้อนนัยสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ใน 3 ประเด็น คือ การใช้กำลังทางอากาศเพื่อยับยั้งหรือป้องกันการกระทำที่เป็นอันตรายของศัตรูหรือคู่แข่ง โดยการแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถทางทหารและความตั้งใจที่จะใช้กำลังทางอากาศในการตอบโต้หากจำเป็น( Airpower as Strategic Deterrence )

โดยการใช้กำลังทางอากาศในลักษณะนี้ สะท้อนแนวคิดการป้องปรามในการลงโทษ (Deterrence by Punishment) ที่เสนอโดย Glenn Snyder เชื่อว่า การโจมตีตอบโต้ที่สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงจะยับยั้งไม่ให้คู่ขัดแย้งกระทำการในลักษณะเดิมอีก จึงเป็นการส่งสัญญาณว่าการโจมตีฝั่งไทยจะต้องแลกกับต้นทุนทางทหารที่สูงลิ่ว

นอกจากนี้ การใช้เครื่องบินกริพเพนที่ผ่านการทดสอบในการรบจริง ( First Combat Proven Gripen – Turning Point in Air Doctrine) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การใช้งานที่ JAS-39 Gripen ได้เข้าสู่สถานการณ์ "combat-proven" โดยตรง ในปฏิบัติการรบจริง ไม่ใช่เพียงการลาด ตระเวน เช่น ในภารกิจ NATO เหนือน่านฟ้าลิเบีย

ปี 2554 ถือเป็นการเปลี่ยนผ่านจากเครื่องบินแบบป้องกันการโจมตีจากฝ่ายตรงข้าม "defensive deterrent" สู่การเป็นยุทธโธปกรณ์ส่งกำลังบำรุง "force projection asset" 

รวมทั้งการวางแผนและดำเนินการปฏิบัติการทางอากาศโดยกองกำลังผสมหรือหลายเหล่าทัพ (joint forces) เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Joint Air Operations Doctrin ด้วยการนำ Gripen และ F-16A/B เข้าสู่ปฏิบัติการโจมตีร่วมกัน เป็นไปตามหลักแนวคิด "Joint Air Operations" ที่เน้นความสามารถในการบูรณาการกำลังทางอากาศต่างแบบเพื่อสร้างขีดความสามารถในการโจมตีเป้าหมายลึก (deep strike) และจำกัดขีดความสามารถของข้าศึก (enemy force degradation)

น.อ.รัตนสุทธิ ระบุอีกว่า การประยุกต์หลักทฤษฎีอำนาจทางอากาศที่ Giulio Douhet เคยกล่าวไว้ว่า "อำนาจ ทางอากาศสามารถใช้ข่มขู่ ขัดขวาง และทำลายขวัญข้าศึกได้โดยไม่ต้องยึดดินแดน" ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะการโจมตีของ Gripen ที่มุ่งใช้ความเร็ว ความแม่นยำ และเทคโนโลยีเหนือกว่าเพื่อสร้างผลเชิงจิตวิทยาและยุทธศาสตร์โดยไม่จำเป็นต้องยึดพื้นที่

และหลักทฤษฎีของ John Warden’s Five Rings Theory ยังสามารถใช้ในการวิเคราะห์โครงสร้างเป้า หมายของภารกิจครั้งนี้ โดยหากเป้าหมายของการโจมตีมุ่งเน้นการตัดกำลังควบคุมและศูนย์บัญชาการของกัมพูชาก็จะจัดอยู่ใน "Ring 1–Leadership & System Essentials" ซึ่งเป็นเป้าหมายชั้นในที่มีผลกระทบต่อขีดความสามารถรวมของฝ่ายตรงข้ามมากที่สุด

น.อ.รัตนสุทธิ ยังวิเคราะห์ผลกระทบและข้อพิจารณาต่อภูมิรัฐศาสตร์ว่า การใช้กำลังรบทางอากาศต่อประเทศเพื่อนบ้านย่อมส่งแรงสะเทือนต่อระดับภูมิภาค โดยเฉพาะเมื่อไทยเลือกใช้ เครื่องบินรบจากแหล่งพันธมิตรตะวันตก ทั้ง Gripen และ F-16 ซึ่งอาจถูกตีความว่าเป็นการแสดงจุดยืนเชิงยุทธศาสตร์ด้านพันธมิตร (alignment) ที่ชัดเจนขึ้น 

ดังนั้น การดำเนินการจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ (UN Charter)

และได้มีข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์ ในการเสริมสร้างระบบประสาทของกองทัพ เพื่อเพิ่มการรับรู้สถานการณ์สูงสุดหรือ C4ISR ประกอบด้วย การบังคับบัญชา (Command) , การควบคุม (Control), การสื่อสาร (Communications) , คอมพิวเตอร์ (Computers)การข่าวกรอง (Intelligence) ,การเฝ้าระวังและการลาดตระเวน (Surveillance and Reconnaissance)และเทคโนโลยีถือเป็นรากฐานของทุกภารกิจส่วนประกอบต่างๆจะต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้ "กล้ามเนื้อ" ของกองทัพทำงานเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการกำหนดเป้าหมายและลดความเสี่ยงในการโจมตีผิดเป้า

รวมทั้งพัฒนาแนวทางปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานสำหรับการกำหนดเป้าหมายทางทหารในปฏิบัติการร่วม (Joint Targeting Doctrine) ให้รองรับการปฏิบัติการผสม Gripen–F-16 อย่างมีประสิทธิภาพและยกระดับ Soft Power ควบคู่ Hard Power ผ่านการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศถึงความชอบธรรมของการใช้กำลังภายใต้สิทธิป้องกันตนเอง

อ่านข่าว

ตาควาย "แดนสังหาร" ถอยตั้งรับ "ปรับยุทธวิธีรบ" รับมือ กัมพูชา

ยอด "นักมวย"สู่ "นักรบ" ถือปืน สวมลายพราง "ชายแดนไทย-เขมร"

เปิดกองกำลังพิทักษ์ “ฮุน เซน” ค่าชีวิต “คนกัมพูชา” ที่ไม่เท่ากัน