ไม่ผิดจากที่คาดหมาย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.แรงงาน หลานอา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แจ้งเหตุปมเด้งปลัดแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ไปเป็นผู้ตรวจฯ ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การตรวจสอบเรื่องสำนักงานประกันสังคม หรือ สปส. ไปลงทุนซื้อตึก SKYY9 เป็นไปอย่างโปร่งใส เกิดความยุติธรรม และเป็นเรื่องปกติ
ทั้งระบุยังไม่ได้ชี้ว่าได้ทำผิดหรือไม่ เพราะคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเพิ่งตั้ง เดิมจะประชุมนัดแรก 24 ก.ค. แต่เกิดเหตุขัดข้องเล็กน้อย ทำให้ต้องเลื่อนการประชุมออกไป จึงยังไม่ได้เริ่มตรวจสอบ
เท่ากับอาจต้องรออย่างน้อย 90 วัน ตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ให้คณะกรรมการชุดนี้ เว้นแต่จะขยายเวลาออกไป แต่ผลที่ตามมาคือเรื่องนี้จะลดดีกรีลง โดยเฉพาะหากเทียบกับเมื่อครั้ง สส.ไอซ์ น.ส.รัชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน เปิดเป็นปมร้อนเรื่องการใช้งบของ สปส.ซื้ออดีตตึกร้างแห่งนี้ ร่วมกับนายสหสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน
ครั้งนั้น เป็นที่ฮือฮามีผู้คนให้ความสนใจ มีข่าวปรากฏบนสื่อหลักและสื่อโซเชียลแบบไฟลามทุ่ง สะท้านไปทั้งบาง ถึงขั้นมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ทั้งโดยกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงแรงงาน
ที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้นายบุญสงค์ ขึ้นเป็นปลัดแรงงาน ตั้งแต่ประชุมคณะรัฐมนตรี เดือนสิงหาคม 67 สมัย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ จากพรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐมนตรีแรงงาน แต่มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.2567 เริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ แต่ก่อนหน้านั้น เป็นเลขาธิการ สปส. ในยุคที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น เป็นรัฐมนตรีแรงงาน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการตัดสินใจลงทุน 7,000 ล้านบาท กับ ตึก SKYY9
การเดินหน้าตรวจสอบงบลงทุนดังกล่าว นำไปสู่การถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทและเรียกค่าเสียหาย โดยนายสุชาติ ซึ่งปฏิเสธหลายครั้ง และยืนยันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงทุนของ สปส.ซื้อ สำหรับการซื้อตึก จนขณะนี้ยังเป็นคดีความกันอยู่
กระทั่งต่อมา กระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรี มท.ขณะนั้น สั่งตั้งกรรมการสืบสวน นำโดยปลัดมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ และได้ข้อสรุปจากการแถลงว่า การลงทุนในตึก SKYY9 เร่งรีบผิดปกติ และมูลค่าควรอยู่ที่ 3,428-3,863 ล้านบาทเท่านั้น ไม่สูงถึง 7,000 ล้านบาท ทำให้ สปส. ได้รับความเสียหาย
ขณะที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัฐมนตรี ได้ลงนามตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องนี้อีก 1 ชุด ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อพรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากรัฐบาล และได้รัฐมนตรีแรงงานคนใหม่ นายพงศ์กวิน เข้ามาเป็นแทน และสานต่อการสอบดังกล่าว
เท่ากับว่า ณ ขณะนี้ นายบุญสงค์ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ขณะที่ สส.ไอซ์ ได้ฝากปมปริศนาผ่านการโพสต์เฟซบุ๊คว่า ให้จับตาเรื่องนี้ จะไปถึงระดับรัฐมนตรีหรือไม่ ถึงขณะนี้ ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด คนระดับรัฐมนตรีก็ยังเป็นผู้บริสุทธิ์เช่นกัน
แต่การเปิดปมร้อนลงทุนซื้อตึกในราคาสูงกว่ามูลค่าจริงร่วมเท่าตัว ได้จุดพลุให้เกิดการตื่นตัวสำหรับการตรวจสอบ รวมถึงการทำหน้าที่ของฝ่ายการเมือง ที่ต้องโปร่งใสตรวจได้ และต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เนื่องจากในยุคสื่อโซเชียลครองเมือง และมีนักสืบไซเบอร์พร้อมจะทำหน้าที่ช่วยตรวจสอบ ประเด็นความลับหรือความไม่โปร่งใส หากถึงวันหนึ่งก็ต้องถูกล้วงถูกแฉอยู่ดี
ยิ่งกรณีจับพลัดจับผลู ไม่อาจชี้แจงอธิบายได้ ยังมีสิทธิ์ถูกต่อยอด โดนร้องเรื่องผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง และขาดความซื่อสัตย์สุจริต ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ได้
ปมซื้อตึก 7 พันล้านของสปส. จึงยังช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ สนใจงานการเมือง หรือพร้อมจะช่วยร่วมตรวจสอบในเรื่องที่นักการเมือง และสส.ในอดีตส่วนหนึ่ง ไม่กล้าทำ
นั่นคือการตรวจสอบนักการเมืองด้วยกันอย่างเข้มข้น แม้จะสุ่มเสี่ยงต่อภัยร้าย เรื่องโดนฟ้องร้องกลับ ก็ตามที
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ธปท.อีสาน" ห่วง ศก.โตต่ำ ซ้ำเติมวิกฤตชายแดน
บช.ก.จ่อเปิดปฏิบัติการ "กวาดลานวัด" ครั้งที่ 2 พบ 4,000 เรื่องร้องเรียน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: