วันนี้ (8 ส.ค.2568) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า กระทรวงสารสนเทศเมียนมา ทำสัญญากับ ดีซีไอ กรุ๊ป บริษัท ลอบบียิสต์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อขอให้ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกา หลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาถูกสหรัฐอเมริกาและประชาคมโลกคว่ำบาตร นับตั้งแต่ก่อรัฐประหารโค่นล้มรัฐบาลพลเรือน เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2021
รายงานข่าวอ้างข้อมูลจากเอกสารที่ยื่นตามกฎหมายลงทะเบียนตัวแทนต่างชาติ (เอฟเออาร์เอ) ซึ่งเปิดเผยว่า การลงนามตกลงมีขึ้นเมื่อวันที่ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา หรือวันที่รัฐบาลทหารเมียนมายกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉินและถ่ายโอนอำนาจไปยังรัฐบาลเฉพาะกาลเพื่อเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไป ปลายปีนี้ โดยสัญญาดังกล่าว มีมูลค่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 97 ล้านบาทต่อปี
สำนักข่าวรอยเตอร์ส ยังรายงานว่า ได้พยายามติดต่อสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ทั้งกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ สถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หรือแม้แต่ ดีซีไอ กรุ๊ป แต่ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ
ขณะที่ ดีซีไอ กรุ๊ป กำลังอยู่ภายใต้การสอบสวน โดยสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังถูกกล่าวหาว่า เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการโจรกรรม และแพร่ข้อมูลของผู้วิพากษ์วิจารณ์ บริษัท เอ็กซอนโมบิล ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ จำนวนหลายร้อยคน แต่ ดีซีไอ กรุ๊ป ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งประกาศยกเลิกคว่ำบาตรผู้ที่เป็นพันธมิตร และให้การสนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาบางส่วน ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังได้ส่งหนังสือแจ้งอัตราภาษีสินค้านำเข้า โดยระบุชื่อ ผู้รับถึงผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาโดยตรงอีกด้วย แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มแสดงความกังวลต่อท่าทีเหล่านี้ โดยมองว่า สหรัฐฯ อาจละเลยการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทหารเมียนมา
อ่านข่าว : "ฮุน เซน" ชี้ข่าวผู้นำไทยวางแผนลอบสังหารไร้เหตุผล-เชื่อได้ยาก
ทรัมป์เอาจริง! ขึ้นภาษีอินเดียเป็น 50% ลงโทษซื้อน้ำมันรัสเซีย