วันนี้ (10 ส.ค.2568) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยถึง กรณีทหารเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน พื้นที่บ้านโดนเอาว์-กฤษณา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 9 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ว่า ทหารทั้งหมดได้รับการรักษาปลอยภัยแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่า ทุ่นระเบิดดังกล่าวเป็นทุ่นระเบิดใหม่ที่ทหารกัมพูชาติดตั้งไว้ระหว่างที่เข้ายึดพื้นที่ดังกล่าว และแม้ปัจจุบันทหารไทยจะยึดพื้นที่นี้คืนได้แล้วแต่ยังไม่ปลอดภัย เนื่องจากคาดว่ามีทุ่นระเบิดทั้งใหม่และเก่าติดตั้งจำนวนมาก
ล่าสุดสามารถเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณ ช่องบก ช่องอานม้า และตาควาย ได้แล้วประมาณ 60 ลูก โดยพบว่า ทุ่นระเบิดเก่าและใหม่จะมีสีและตัวเลขที่ระบุที่ตัวระเบิดแตกต่างกัน แม่ทัพภาคที่ 2 จึงสั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักร เช่น รถไถ รถตัก ในการเคลียร์เส้นทางและค้นหาทุ่นระเบิดบุคคล เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังพลได้รับอันตรายซ้ำ
นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 2 ยังเปิดเผยว่า ทุ่นระเบิดบริเวณที่ทหารเหยียบเมื่อวานนี้ อยู่ห่างจากพื้นที่ที่ชาวบ้านอาศัยอยู่จึงยังไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน แต่อาจมีอาวุธที่ถูกยิงเข้ามาก่อนหน้านี้ตกลงเหลืออยู่ในพื้นที่ที่ชาวบ้านอาศัย ซึ่งขณะนี้ชาวบ้านเพิ่งเริ่มกลับเข้าบ้าน จึงขอความร่วมมือให้ชาวบ้านช่วยสังเกตวัตถุอันตรายที่อาจหลงเหลือหากพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าเก็บกู้
ส่วนกรณีที่มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับทหารกัมพูชายิงหนังสติ๊กเข้ามาฝั่งไทย แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า เป็นข้อมูลเท็จ ยังไม่มีการรายงานจากหน้าแนว สำหรับพื้นที่ที่ควบคุมได้ตอนนี้ ได้แก่ ภูมะเขือ ช่องอานม้า และตาเมือนธม ครอบครองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่บริเวณตาควายต้องตรึงกำลังไว้อยู่เนื่องจากมีทุ่นระเบิดจำนวนมาก
พล.ท.บุญสิน ระบุว่า "ทางกัมพูชาไม่ได้ยึดถือสนธิสัญญาอย่างจริงจัง แล้วก็ละเมิดมาโดยตลอด" รวมถึงการไม่ยอมรับข้อตกลงเรื่องการห้ามวางระเบิดในการประชุม GBC ที่ผ่านมา
กัมพูชาต้องมีความจริงใจในการปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา ว่าด้วยการไม่ใช้ทุนระเบิดกับระเบิดอย่างจริงจัง และต้องมาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ในส่วนพื้นที่ของเขาด้วย
ในการประชุม RBC/GBC ครั้งต่อไป จะมีการหารือในระดับกองทัพบกเพื่อกำหนดหัวข้อและประเด็นที่จะนำไปหารือในการประชุม RBC (ระดับภูมิภาค) และ GBC (ระดับทั่วไป) โดยมีกรอบหลักคือ "การถอนกำลังต่างๆ แล้วก็การดูแลแนวชายแดนให้เกิดคนเรียบร้อยร่วมกันจะทำอย่างไร" และจะ "ผลักดัน" เรื่องปัญหาทุ่นระเบิดที่ค้างคาอยู่
ด้านเดอะพนมเปญโพสต์ ของกัมพูชา รายงานว่า สำนักงานปฏิบัติการและช่วยเหลือเหยื่อทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAA) ปฏิเสธคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศไทย โดยกัมพูชาได้ย้ำจุดยืนอย่างชัดเจนว่า "ไม่ได้วางและจะไม่วางทุ่นระเบิดใหม่" พร้อมทั้งระบุว่าเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ยังไม่มีการสอบสวนอย่างเป็นทางการและโปร่งใส จึงขอให้ทุกฝ่ายยับยั้งชั่งใจในการแถลงต่อสาธารณะ
กัมพูชายังได้เรียกร้องให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) สมัยวิสามัญ โดยเฉพาะข้อที่ 2 ซึ่งระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะคงกำลังพลไว้ในที่ตั้งปัจจุบัน และไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังหรือลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย
อ่านข่าว : "ร.ต.ภัทราวุธ" เสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
อินเดียเร่งค้นหา 35 ผู้สูญหาย เหตุน้ำท่วมในรัฐอุตตราขัณฑ์
ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดฯ ให้ความรู้ ปชช.ชายแดน สังเกตวัตถุต้องสงสัย