ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จับ 2 หนุ่มรับจ้างทุนจีน ตระเวนส่ง SMS ปลอม เชื่อมลิงก์คอลเซนเตอร์

อาชญากรรม
17:38
226
จับ 2 หนุ่มรับจ้างทุนจีน ตระเวนส่ง SMS ปลอม เชื่อมลิงก์คอลเซนเตอร์
ตำรวจ สอท. จับ 2 ไรเดอร์ผันตัวรับจ้างนายทุนจีน ตระเวนขับรถยนต์ ใช้เครื่องจำลองสถานีปล่อยสัญญาณเพื่อส่งข้อความ SMS ปลอม กว่า 20,000 ข้อความต่อวัน อ้างเป็นธนาคาร-หน่วยงานรัฐ หลอกประชาชนกดลิงก์เข้าสู่ระบบเครือข่ายคอลเซนเตอร์

วันนี้ (10 ส.ค.2568) ตำรวจหลายสิบนาย ร่วมกับทีมวิศวกรจากบริษัทเครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์ สกัดจับรถยนต์ต้องสงสัย 1 คัน บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่านถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร หลังพบว่าเป็นรถยนต์ที่ใช้เครื่องส่งสัญญาณที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก กสทช. ส่ง SMS ปลอมหลอกลวงประชาชน โดยควบคุมตัวนายนิรันดร์ อายุ 20 ปี และนายกิตติวรา อายุ 22 ปี พร้อมตรวจยึดอุปกรณ์เครื่องส่งสัญญาณ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง

อุปกรณ์ดังกล่าวคือเครื่องจำลองสถานีส่งสัญญาน เป็นอุปกรณ์เครื่องวิทยุโทรคมนาคมที่ดัดแปลงการส่งสัญญาณในคลื่นความถี่ต่าง ๆ เข้าสู่โทรศัพท์มือถือในรัศมีใกล้เคียง มี 4 ส่วนด้วยกัน คือ แบตเตอรี่ หรือเครื่องจ่ายไฟเคลื่อนที่, เครื่องจำลองสถานีส่งสัญญาน, เครื่องกระจายสัญญาณ และโทรศัพท์มือถือ ไว้ใช้สำหรับควบคุมเนื้อหา

ทั้งนี้ เมื่อทำงานร่วมกันจะสามารถส่งข้อความปลอม ผ่านการส่งสัญญานได้ในรัศมี 1 กิโลเมตร โดยผู้ต้องหา รับสารภาพว่าตระเวนขับรถยนต์ปล่อยสัญญานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เน้นย่านสาธร พระราม 4 สุขุมวิท และเพชรบุรี ได้วันละ 20,000 ข้อความต่อวัน เพื่อส่ง SMS ปลอมเป็นชื่อหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ล่อลวงให้ประชาชนคลิกลิงก์เข้าสู่ระบบของเครือข่ายคอลเซนเตอร์ โดยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง

ผลการสอบปากคำเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน อ้างว่าได้รับค่าจ้างจากชาวจีนคนหนึ่งให้เข้ามาทำงานนี้ โดยรับค่าจ้างเป็นวัน พร้อมสอนการใช้งานของส่งสัญญาณดังกล่าว

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ขยายผลติดตามผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นตํารวจแจ้ง 6 ข้อหา ได้แก่ ร่วมกัน ทํา มีใช้ นําเข้า นําออก หรือค้าเครื้องส่งสัญญาณ, ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม, ร่วมกันใช้คลื่นความถี่โดยไม่ได้รับอนุญาต , ร่วมกันพยายามฉ้อโกง, ร่วมกันดักสัญญาณ และร่วมทําผิดฐานอั้งยี่

สำหรับภาพรวมของการปราบปรามเครือข่ายคอลเซนเตอร์ จากปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และมาตรการการปิดด่านนั้น ข้อมูลการสืบสวนพบว่า เครือข่ายคอลเซนเตอร์ ได้ย้ายฐานปฏิบัติการจากปอยเปต เข้าไปในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ ของประเทศกัมพูชา เช่น พนมเปญ สีหนุวิลล์ สวายเรียง อุดรมีชัย และอีกหลายจังหวัด พร้อมเปลี่ยนวิธีการโยกย้ายเงิน ด้วยการกลับมาใช้วิธีการให้เจ้าของบัญชีม้ากดเงินตามตู้ธนาคาร ต่าง ๆ เหมือนอย่างอดีต แทนที่ใช้คนเดินข้ามแดนไปสแกนใบหน้าที่ฝั่งกัมพูชา ซึ่งทางตำรวจยังคงต้องสืบสวนเพื่อที่จะติดตามความเคลื่อนไหวและดำเนินคดีผู้ที่กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง

ส่วนความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวข้องกับนายก๊ก อัน เจ้าของตึกกาสิโน และตึก 28 ชั้น ที่ให้นายทุนเช่าเป็นฐานปฏิบัติการคอลเซนเตอร์ ในเมืองปอยเปตนั้น ตำรวจอยู่ระวังขยายผลจับบุคคลที่เกี่ยวข้องและยึดทรัพย์ พร้อมได้ประสานทางกองกลางต่างประเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานกับอินเตอร์โพลไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อความรวดเร็ว โดยจะเร่งสรุปสำนวนส่งสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาในคดีอาชญากรรมข้ามชาติ และขอออกหมายจับสากล

อ่านข่าว : "ทนายเกิดผล" ถอนตัวจากทนายความคดีวัดพระบาทน้ำพุ 

"ห้ามตั้ง-ขยายโรงงาน" ที่ใช้ "สารปรอท" มีผลบังคับ 1 ก.ย.68 

ตร.เข้าเก็บตัวอย่างเส้นผม "เป๊ก ผลิตโชค" เพื่อส่งตรวจหาสารเสพติด 

แท็กที่เกี่ยวข้อง: