ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ห่วงใย ใส่ใจกัน ชวนเช็กลิสต์สัญญาณ "มะเร็งรังไข่"

ไลฟ์สไตล์
14:41
38
ห่วงใย ใส่ใจกัน ชวนเช็กลิสต์สัญญาณ "มะเร็งรังไข่"
ชวนเช็กอาการแบบไหนเสี่ยง "มะเร็งรังไข่" โรคที่เกิดได้ในหญิงทุกวัย โดยเฉพาะสตรีสูงวัย ห้ามละเลย หมั่นสังเกตสัญญาณผิดปกติ แล้วจะทำอย่างไร ให้ห่างไกลโรค

อวัยวะแต่ละส่วนของร่างกายล้วนมีความสำคัญเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจที่สูบฉีดเลือด ไตที่กรองของเสีย หรือ ลำไส้ที่ย่อยและดูดซึมสารอาหาร โรคร้ายก็มีแตกต่างกันไป ผู้ชายต้องระวังมะเร็งต่อมลูกหมาก ส่วนผู้หญิงต้องระวัง "มะเร็งรังไข่" หนึ่งในโรคที่ต้องระวัง นั้นแพราะถือว่าเป็น "ภัยเงียบ" มักไม่แสดงอาการจำเพาะ และสามารถเกิดได้ในทุกช่วงวัย โดยพบมากในหญิงอายุ 50–60 ปี

มะเร็งรังไข่ มะเร็งที่เกิดจากการแบ่งตัวผิดปกติของเนื้อเยื่อบริเวณรังไข่ (Ovary) หรือ ท่อนำไข่ (Fallopian Tube) ทำให้รังไขมีขนาดโตขึ้น 

ข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติ Cancer In Thailand Vol. XI ปี 2019– 2021 ระบุว่า อุบัติการณ์โรคมะเร็งรังไข่ในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีผู้ป่วยรายใหม่ราว 3,000 คนต่อปี แม้จะพบบ่อยเป็นอันดับ 3 รองจาก "มะเร็งปากมดลูก" และ "มะเร็งมดลูก" แต่กลับเป็นสาเหตุการเสียชีวิตสูงที่สุดในบรรดามะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรี 

เรื่องนี้ไม่ได้อยู่แค่ในตัวเลข แต่โรคเหล่านี้มักมาแบบเงียบ  กว่าหลายคนจะรู้ตัวก็เข้าสู่ระยะที่รักษายากแล้ว ก่อนที่จะถึงจุดนั้น การตรวจสุขภาพประจำปี การฟังสัญญาณจากร่างกาย และการใส่ใจสุขภาพอย่างต่อเนื่อง คือเกราะป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด มาสำรวจภัยเงียบอย่าง "มะเร็งรังไข่" ว่าอาการแบบไหนที่ควรระวัง พร้อมวิธีรับมือและป้องกัน

"รังไข่" คือ มีหน้าที่อย่างไร ในร่างกาย   

"รังไข่" (Ovary) เป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง เป็นอวัยวะที่อยู่ภายในช่องท้องอยู่ติดกับมดลูกและมี 2 ข้าง "หน้าที่ของรังไข่" คือ การผลิตไข่และฮอร์โมนเพศหญิง เช่น เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน โดยเฉพาะ "เอสโตรเจน" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เตรียมความพร้อมสำหรับการเจริญพันธุ์และการตั้งครรภ์

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

ภาพประกอบข่าว

"รังไข่" เป็นอวัยวะสำคัญของผู้หญิงทุกคน ดังนั้นหากเกิดความผิดปกติ ก็อาจนำไปสู่อันตรายต่อสุขภาพในอนาคตได้ เพื่อป้องกันและเฝ้าระวัง จึงควรสังเกตสัญญาณความผิดปกติ ดังนี้

เช็กสัญญาณเตือน "มะเร็งรังไข่"

มะเร็งรังไข่ มักไม่มีอาการที่ชัดเจน แต่หากใครมีอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม

  • ท้องอืดท้องเฟ้อเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • รู้สึกแน่นอึดอัดในช่องท้อง
  • รู้สึกปวดท้องหรือปวดในอุ้งเชิงกราน หรือมีภาวะท้องมาน 
  • รับประทานอาหารได้น้อยลง อิ่มเร็ว 
  • ท้องโตกว่าปกติ คลำพบก้อนในช่องท้อง

หากมีอาการเหล่านี้แทบทุกวันหรือนานเกิน 2-3 สัปดาห์ ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที 

ปัจจัยเสี่ยงการเกิด "มะเร็งรังไข่"

สาเหตุการเกิดมะเร็งรังไข่พบว่ามาจากหลายปัจจัย

  • มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งเต้านม
  • สตรีมีประจำเดือนเร็ว หมดประจำเดือนช้า
  • สตรีมีบุตรยาก
  • ภาวะอ้วน
  • ผู้ที่สูบบุหรี่

นอกจากนี้ "มะเร็งรังไข่" ยังพบบ่อยในกลุ่มโรคมะเร็งเต้านมและรังไข่ที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม (hereditary breast and ovarian cancer syndrome: HBOC) สัมพันธ์กับยีน BRCA ซึ่งเป็นยีนที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม DNA  หากยีนนี้กลายพันธุ์จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งรังไข่และมะเร็งเต้านมอย่างมีนัยสำคัญ หากตรวจพบยีนดังกล่าวในผู้ที่เป็นมะเร็งหรือสมาชิกครอบครัว จะมีการเฝ้าระวังที่ถี่ขึ้น หรือวางแผนการผ่าตัดเพื่อลดความเสี่ยงมะเร็งในอนาคตได้

การวินิจฉัย "มะเร็งรังไข่"

พญ.วรางคณา โกละกะ แพทย์เฉพาะทางสาขามะเร็งวิทยานรีเวช สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้อธิบายไว้ว่า ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการตรวจคัดกรองมะเร็งรังไข่ที่มีประสิทธิภาพในระดับประชากรทั่วไป หรือแม้แต่การตรวจค่าสารบ่งชี้มะเร็งรังไข่ก็ยังไม่มีความแม่นยำนัก 

ทั้งนี้การวินิจฉัยโรคขึ้นกับ อาการที่ผิดปกติร่วมกับผลตรวจภาพถ่ายทางรังสี การตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็งตามข้อบ่งชี้ และการผ่าตัดเพื่อนำก้อนมะเร็งออกและเพื่อกำหนดระยะโรค

ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติใด ควรเข้ารับคำปรึกษาและตรวจเพิ่มเติมจากแพทย์เฉพาะทางด้านสูตินรีเวช เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายในหรือตรวจภาพถ่ายวินิจฉัยอื่นๆเพิ่มเติม

การรักษาหลักในมะเร็งรังไข่ 

การรักษาหลักในมะเร็งรังไข่ ได้แก่ การให้เคมีบำบัด การให้ยามุ่งเป้า (Targeted therapy) ตามข้อบ่งชี้ หรือ การผ่าตัดและให้ยาเคมีบำบัดในช่องท้อง ซึ่งเป็นความหวังใหม่ในการรักษา เนื่องจากช่วยเพิ่มระยะเวลาโรคสงบ และอัตรารอดชีพได้ดี

ป้องกัน "มะเร็งรังไข่" อย่างไรบ้าง 

เนื่องจากมะเร็งรังไข่ในระยะแรก ๆ มักไม่มีอาการ การป้องกันจึงทำได้ยาก ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการตรวจภายใน ประจำปีอย่างสม่ำเสมอ รักษาสุขภาพ ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และหากมีอาการผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์โดยเร็ว   

อ้างอิงข้อมูล : กรมการแพทย์, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, สมาคมมะเร็งนรีเวชไทย 

อ่านข่าว : "คริสตัล พาเลซ" ชนะ "ลิเวอร์พูล" คว้าแชมป์คอมมูนิตี้ชิลด์

ชาวกาซายื้อแย่งความช่วยเหลือ หลังวิกฤตมนุษยธรรมย่ำแย่

วอลเลย์บอลสาวไทย แพ้ เวียดนาม พลาดแชมป์ ซีวีลีก.2025