เมื่อวันที่ 11 ส.ค.2568 CNN รายงาน ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯ เข้าควบคุมกรมตำรวจวอชิงตัน ดี.ซี. (Metropolitan Police Department) และระดมกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) 800 นาย เข้าประจำการในเมืองหลวง เพื่อจัดการปัญหาอาชญากรรมรุนแรงและคนไร้บ้านที่ทรัมป์อ้างว่า "เกินควบคุม" โดยใช้ ม.740 ของกฎหมาย Home Rule Act เพื่อควบคุมชั่วคราว 48 ชั่วโมง (ขยายได้ถึง 30 วัน)
ผมขอใช้ ม.740 ของ พ.ร.บ.การปกครองตนเองของเขตโคลัมเบีย 2516 อย่างเป็นทางการ ให้กรมตำรวจนครบาลวอชิงตัน ดี.ซี. อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลกลางโดยตรง
การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังเหตุโจมตีพนักงานกรมประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) เมื่อวันที่ 3 ส.ค.2568 ซึ่งจุดประกายให้ทรัมป์ประกาศ "ปลดปล่อยเมืองหลวงจากความสกปรกและความรุนแรง" ปธน.สหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกลางกว่า 500 นาย จาก FBI, DEA, ICE และ ATF เข้าประจำการในย่านอาชญากรรมสูงและแหล่งท่องเที่ยว รวมถึง FBI ลาดตระเวนยามค่ำคืน 120 นาย นอกจากนี้ ทรัมป์สั่งย้ายคนไร้บ้านออกจากเมืองทันที โดยจัดหาที่พักห่างไกลและขู่จำคุกผู้ก่ออาชญากรรม พร้อมแต่งตั้ง เทอร์รี โคล ผู้บริหารสำนักงานปราบปรามยาเสพติดให้ดำรงตำแหน่งกรรมาธิการกลางชั่วคราวของกรมตำรวจนครบาลวอชิงตัน ดี.ซี.
ผมส่งกองกำลังป้องกันชาติไปช่วยฟื้นฟูกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยสาธารณะในวอชิงตัน ดี.ซี. และพวกเขาจะได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่ของตนได้อย่างเหมาะสม
พ.ร.บ.ปกครองตนเอง 2516 อนุญาตให้ประธานาธิบดีควบคุมดูแลตำรวจของเมืองได้เป็นเวลา 48 ชั่วโมง หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเงื่อนไขพิเศษที่มีลักษณะเป็นเหตุฉุกเฉิน ซึ่งกำหนดให้หน่วยงานนี้ต้องนำไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์ของรัฐบาลกลาง ประธานาธิบดีสามารถควบคุมดูแลหน่วยงานนี้ได้นานขึ้น หากประธานาธิบดีแจ้งให้ประธานและสมาชิกระดับสูงของคณะกรรมการรัฐสภาที่รับผิดชอบเรื่องนิติบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทราบ คำร้องขอควบคุมดูแลกรมตำรวจของเมืองใด ๆ นานกว่า 30 วัน จะต้องได้รับการอนุมัติให้เป็นกฎหมาย
และ ปธน.ทรัมป์ ระบุว่าเขาตั้งใจที่จะขยายเวลาการเข้าควบคุมของรัฐบาลกลางออกไปเกินกว่าช่วงเวลา 48 ชั่วโมงแรก และจะแจ้งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทราบอย่างเป็นทางการ
ทางด้าน นายกเทศมนตรีมิวเรียล บาวเซอร์, ไบรอัน ชวาลบ์ อัยการสูงสุดแห่งกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และสภาเมือง ร่วมกันออกแถลงการณ์โจมตีความเคลื่อนไหวของทรัมป์ โดยระบุการกระทำของรัฐบาลครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นด้วย และผิดกฎหมาย ไม่มีเหตุฉุกเฉินด้านอาชญากรรมในเขตโคลัมเบีย อาชญากรรมรุนแรงลดลงร้อยละ 26 ในปี 2568 และ ร้อยละ 35 ในปี 2567 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 30 ปีตามข้อมูลตำรวจ บาวเซอร์เรียกการกระทำนี้ว่า "ไม่เคยมีมาก่อนและน่าตกใจ" แต่ยอมรับว่ารัฐบาลกลางมีอำนาจตามกฎหมาย
ขณะที่ นายกเทศมนตรีเมืองลอสแองเจลิส คาเรน บาสส์ ประณามการเคลื่อนไหวของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะรวมหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่นและกองกำลังรักษาดินแดนเข้าประจำการในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลและเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของประธานาธิบดี
บาสส์ยอมรับว่าความกังวลของชาวอเมริกันเกี่ยวกับอาชญากรรมจำเป็นต้องมีการตอบสนอง แต่ก็โต้แย้งว่าการเคลื่อนไหวของรัฐบาลทรัมป์ก็ไม่ช่วยอะไรเช่นกัน
สว.ดิค เดอร์บิน และ สส.เจมี ราสกิน จากพรรคเดโมแครต วิจารณ์ว่าเป็น "ละครการเมือง" และ "เผด็จการ" โดยราสกินเตรียมยื่นร่างกฎหมายคืนอำนาจปกครองให้เมือง
ในฝั่งรีพับลิกัน สส.ไมค์ จอห์นสัน และ เจมส์ โคเมอร์ สนับสนุน โดยอ้างว่า ดี.ซี. คือ "เขตอาชญากรรม" ที่ต้องจัดการ การเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของวาระเข้มงวดอาชญากรรมของทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการส่งกองกำลังไปเมืองอื่นอย่างลอสแอนเจลิส และขู่ว่าจะทำเช่นเดียวกันกับนิวยอร์กหากผู้นำท้องถิ่นอ่อนแอ
เปิดอำนาจ "ตำรวจสหรัฐฯ" รัฐปกครองอิสระ-ดี.ซี. รบ.กลางสั่ง
ในสหรัฐอเมริกา อำนาจของตำรวจในแต่ละรัฐอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลท้องถิ่น โดยทั่วไปตำรวจในเมืองหรือมลรัฐจะขึ้นตรงต่อนายกเทศมนตรีหรือผู้ว่าการรัฐ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างการปกครองของแต่ละพื้นที่ ตำรวจมีหน้าที่รักษากฎหมายและความสงบเรียบร้อยภายในเขตอำนาจของตน โดยได้รับงบประมาณและนโยบายจากหน่วยงานท้องถิ่น เช่น สภาเมืองหรือรัฐบาลมลรัฐ
อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี เช่น ภัยคุกคามรุนแรงหรือเหตุฉุกเฉิน รัฐบาลกลางสามารถแทรกแซงได้ผ่านหน่วยงานอย่าง FBI หรือโดยการระดมกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) ภายใต้คำสั่งของประธานาธิบดี
สำหรับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นเขตปกครองพิเศษที่ไม่ใช่มลรัฐ กรมตำรวจวอชิงตัน ดี.ซี. (Metropolitan Police Department) ขึ้นตรงต่อนายกเทศมนตรี ปัจจุบันคือ มิวเรียล บาวเซอร์ ตามกฎหมาย Home Rule Act ปี 1973 ที่ให้อำนาจปกครองตนเองในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกลาง โดยเฉพาะประธานาธิบดีและสภาคองเกรส มีอำนาจเหนือ ดี.ซี. ในฐานะเมืองหลวง รวมถึงการควบคุมตำรวจในสถานการณ์พิเศษผ่าน ม.740 ของกฎหมายดังกล่าว ซึ่งอนุญาตให้ประธานาธิบดีเข้ายึดอำนาจชั่วคราวได้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น กรณีทรัมป์ประกาศเมื่อ 11 ส.ค.2568
อ่านข่าวอื่น :
"หลวงพ่ออลงกต" งดกิจนิมนต์ เตรียมพาสื่อดูที่ดิน 2,000 ไร่ จ.ลพบุรี
"หมอบี" ปฏิเสธปมฉ้อโกงเงินบริจาค "วัดพระบาทน้ำพุ"