วันนี้ (12 ส.ค.2568) เจ้าหน้าที่ชุด EOD ทยอยทำลายทุ่นระเบิดที่ฝั่งกัมพูชายิงเข้ามาแต่ไม่ทำงานซึ่งมีเป็นจำนวนมากในพื้นที่แนวชายแดนทั้ง อ.กาบเชิง และ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ทำลายกระสุน PG-7 บริเวณสวนยางพาราของชาวบ้าน ในพื้นที่บ้านโคกแสลง หมู่ 7 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์

จุดดังกล่าวเป็น 1 ใน 4 จุด ที่เจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าทำลายทั้งหมด 8 ลูก บางจุดเจ้าหน้าที่เก็บกู้มาทำลายพร้อมกัน บริเวณนี้กระสุนส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นชนิด PG-7 นอกจากนี้ ยังพบว่า ชาวบ้านยังพบจุดกระสุนตกอีกเป็นจำนวนมาก โดยยังรอการพิสูจน์ทราบ และยืนยันจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

ขณะที่ หมู่บ้านโนนมะยาง หมู่ 6 จุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุด EOD ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ใช้รถแบ็กโฮเล็ก ขุดดินลงไปลึกถึง 8 ม.จึงจะสามารถค้นหาและตรวจพิสูจน์ทราบได้ว่า กระสุนที่ฝังอยู่ใต้ดิน เป็นชนิด BM-21 เจ้าหน้าที่วางแผนจะเก็บกู้ขึ้นมาทำลายภายในพรุ่งนี้ (13 ส.ค.68) เนื่องจากต้องใช้ความระมัดระวังในการทำงานสูง เพราะเป็นกระสุนที่ยังไม่ทำงาน และอาจระเบิดได้ทุกเมื่อ

ขณะที่ นายไศล หวังมี ผู้ใหญ่บ้านโนนมะยาง ม.6 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ในหมู่บ้าน ยังมีกระสุนที่ยังไม่ทำงานอีกประมาณ 8 จุดที่ยังต้องรอการพิสูจน์ทราบและเข้าทำลาย

คาดว่า ยังมีกระสุนตกที่ยังไม่ทำงานอีกจำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เพราะว่าชาวบ้านบางส่วนยังไม่กล้าเข้ามาสำรวจ ซึ่งชาวบ้านค่อนข้างกังวลเพราะต้องเข้าไปกรีดยางโดยเฉพาะช่วงกลางคืน

นายไศล หวังมี ผู้ใหญ่บ้านโนนมะยาง ม.6 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
นายไศล หวังมี ผู้ใหญ่บ้านโนนมะยาง ม.6 ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์
ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ในพื้นที่ อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เตรียมทำลายกระสุนที่ยังไม่ทำงานอีก 20 กว่าจุด ส่วนใหญ่เป็นกระสุนชนิด BM-21 ซึ่งฝังอยู่ใต้ดินแปลงเกษตรของชาวบ้าน ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงในการเก็บกู้

ชาวบ้านแนวชายแดนเขาพระวิหารเตรียมอพยพอีกครั้ง
ขณะที่ สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังคงตึงเครียด โดยเฉพาะวันนี้เกิดเหตุทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะออกลาดตระเวนทำให้ชาวบ้านที่อยู่ติดฝั่งเขาพระวิหารไม่ไว้วางใจสถานการณ์ บางส่วนเก็บทรัพย์สินและข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น เตรียมความพร้อมเพื่ออพยพไปอยู่บ้านญาติ เพราะมองว่า สถานการณ์ขณะนี้ไม่ค่อยสู้ดี และอาจนำสู่การปะทะอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าว ได้พูดคุยกับชาวในพื้นที่ตามแนวชายแดน ด้าน อ.กันทรลักษ์ ซึ่งระบุว่า เพิ่งกลับมานอนบ้านได้เพียง 3 คืน ก็ต้องเก็บข้าวของอีกครั้ง บางครอบครัวมีเด็กเล็กเพิ่งคลอดได้เพียงเดือนกว่า ๆ แต่ต้องย้ายไปอยู่บ้านญาติ และเพิ่งจะนำเงินมาลงทุนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว หลังจากที่ต้องปิดยาวกว่าครึ่งเดือนโดยที่ยังไม่ทันที่ได้ขายก็ต้องเตรียมอพยพเป็นครั้งที่ 2
"บ้านน็อกดาวน์" ให้ผู้ประสบภัย
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี วันนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย มอบบ้านน็อกดาวน์ให้ผู้ประสบภัย 5 ครอบครัวที่บ้านเรือนเสียหายจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยระหว่างรอสร้างบ้านใหม่

สำหรับ อ.น้ำยืน พบว่า มีบ้านเรือนเสียหาย 82 หลัง เบื้องต้นรัฐบาลเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งซ่อมแซมบ้านพักที่ชำรุดเสียหาย หรือก่อสร้างบ้านน็อกดาวน์แบบสำเร็จรูปให้กับชาวบ้านได้มีที่พักอาศัยไปก่อน

อ่านข่าว : โฆษก ทบ.ยืนยันไม่ล่าช้า ประท้วงกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดละเมิดข้อตกลงหยุดยิง
ทบ.เตรียมใช้สิทธิ์ป้องกันตัวเอง หลังกัมพูชาละเมิดหยุดยิงวางทุ่นระเบิดโจมตีไทย
ทหารพรานเหยียบกับระเบิดขาขาด 1 นาย ลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม