วันนี้ (14 ส.ค.2568) รศ.ตระกูล มีชัย คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์รายการประจักษ์จับประเด็น ไทยพีบีเอส ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณา หลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถูกร้องกรณีคลิปเสียงคุยกับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
รศ.ตระกูลกล่าวว่า ศาลอนุญาตไต่สวนเพียงเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นอกนั้นศาลไม่อนุญาต ตัวช่วยในเชิงพยาน นอกจาก น.ส.แพทองธารจะใช้สิทธิไปแถลงเองแล้ว คำถามคือเลขาธิการ สมช. จะไปให้การอย่างไร
ที่น่าสงสัยคือว่า ประเด็นที่คลิปหลุดเกี่ยวกับนายทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่นั้น ข้อมูลตรงนี้แม้ศาลจะไม่ได้ให้มาไต่สวน แต่ผมคิดว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีหลายกรณีมักจะเรียบเรียงเรื่องราวที่มีมาก่อนหน้านั้นด้วย
จากกรณีที่มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับพรรคก้าวไกลหรือนักการเมืองก่อนหน้านั้น ศาลก็เรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดก่อนหน้าเหมือนกัน การหักล้างของ น.ส.แพทองธาร ในสิ่งที่เคยกล่าวมาทั้งหมดอยู่ในมือศาลหมดแล้ว
ส่วนตัวช่วยที่ไม่ถูกกฎหมาย มีคนวิจารณ์กันเยอะว่า มันจะเหมือนกรณีเดิมหรือไม่ ผมคิดว่าตัวช่วยแบบนั้นตุลาการศาลฯ ที่ผมรู้จัก ไม่เล่นด้วยแน่นอน เพราะมีกรณีตัวอย่างของตุลาการศาลในอดีต แทบไม่มีที่ยืนในสังคมเลย ฉะนั้นกรณีที่ไม่ถูกกฎหมาย ผมไม่เชื่อว่าตุลาการฯจะมีพฤติการณ์เช่นนั้น
ส่วนตัวช่วยอื่นที่ถูกกฎหมาย นอกเหนือจากเลขาธิการ สมช. หากมองในสายการบังคับบัญชาแล้วผมคิดว่า เลขาธิการ สมช.ในกรณีเช่นนี้ ไม่น่าที่จะเสี่ยงต่ออนาคตของตัวเอง
ตัวช่วยที่เหลืออย่างเดียวคือ น.ส.แพทองธาร ต้องไปเผชิญหน้าต่อตุลาการฯ และอธิบายให้ชัดเจนว่า สิ่งที่ตนพูดนั้นเป็นการแสดง เป็นวาทะศิลป์การเจรจาให้ศาลเชื่อ ส่วนศาลจะเชื่อแค่ไหน ขึ้นอยู่กับหลักฐานทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวช่วยอื่นเช่น การล็อบบี้ การประสานใช้บารมีทางการเมือง มันจะเกิดขึ้นหรือไม่
รศ.ตระกูลกล่าวว่า มีแน่นอน เท่าที่ผมได้ยินมามีความพยายามล็อบบี้ เพียงแต่ในสถานการณ์ตอนนี้ และการตกต่ำของรัฐบาล รวมถึงความเชื่อมั่นจากประชาชนมันต่ำมาก ในระดับที่ไม่เคยมีแบบนี้มาก่อนเลย คนที่จะยอมรับเงื่อนไขการล็อบบี้เหล่านี้ ต้องคิดให้หนัก
อย่าลืมว่าฝ่ายบริหารเอง ก็ได้รับความเชื่อมั่นต่ำ ฝ่ายนิติบัญญัติก็แย่ เหลือแค่ฝ่ายตุลาการที่ยังเป็นความหวัง หากมีปรากฏการณ์ล็อบบี้แล้ว ทำให้คำวินิจฉัยออกมาขัดต่อที่ประชาชนคิดและเห็น ผมคิดว่าเป็นอันตรายต่อระบบอย่างมาก
ผมในส่วนตัวผมเชื่อว่ามีความพยายามล็อบบี้ มีดีล แต่คนที่เป็นตุลาการที่ทำหน้าที่เขาคิดหนัก
เมื่อถามว่า การลาออกยังเป็นตัวเลือกของ น.ส.แพทองธารหรือไม่
รศ.ตระกูลกล่าวว่า ตอนนี้เขาปากแข็งก่อนว่าไม่ แต่ถ้ามีความพยายามล็อบบี้จนนาทีสุดท้ายแล้วไม่บรรลุผล คงหลีกหนีไม่พ้นว่าต้องตัดสินใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ว่าจะลาออกหรือไม่ จะทำให้กระดานการเมืองตอนนี้เปลี่ยนโฉมไปขนาดไหน
รศ.ตระกูลกล่าวว่า เสถียรภาพการเมืองของรัฐบาลแย่มาก เอาแค่รองนายกฯ ภูมิธรรม เวชยชัย พูดถึงการรับบริจาคลวดหนาม ยังถูกวิจารณ์อย่างหนัก หมายความว่า ความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลมันไม่มีแล้ว
บนสถานการณ์เช่นนี้แม้ น.ส.แพทองธารจะรอดจากศาลฯ รัฐบาลก็ยังยากจะสร้างความเชื่อมั่นกลับคืนมา ในทางการเมืองหากประชาชนไม่เชื่อมั่นแล้ว ต่อให้นโยบายดีขนาดไหนก็รื้อฟื้นไม่ได้
ทางเลือกของเขาคือ ต้องหาทางอย่างไรไม่ให้ตัวเองตกห้วงลึกไปมากกว่านี้ เวลานี้ต้องรักษาสถานะความตกต่ำ ไม่ให้ต่ำกว่านี้ได้ ก็ถือว่าเก่งแล้ว จะสังเกตว่างานนโยบายหลายเรื่อง ไม่สามารถดึงกระแสกลับมาได้เลย เพราะประชาชนขาดความเชื่อมั่น แคนดิเดตนายกฯ คนที่สามก็ตีกระแสไม่ขึ้น
รศ.ตระกูลกล่าวต่อว่า ปัญหาความเชื่อมั่นไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคลแล้ว แต่อยู่ที่ระบบการนำของพรรคเพื่อไทยทั้งระบบ รวมถึงคนเบื้องหลังด้วย มันจึงขึ้นอยู่กับว่า คุณจะล้มกระดานเลือกตั้งใหม่ หรือทางออกที่ดีบนสถานการณ์แบบนี้ปล่อยให้คนอื่นเข้ามา ออกมาเลียแผลก่อน แล้วปล่อยให้บุคคลอื่นเข้ามาบริหารประเทศ เป็นพรรคอื่นไปเลย อาจจะเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย หรือจากพรรครวมไทยสร้างชาติก็ได้
เมื่อถามว่า เรื่องความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อรัฐบาล เป็นเรื่องที่ชัดเจน คนที่มีประสบการณ์การเมืองอย่างทักษิณ ชินวัตร ทำไมดูไม่ออก ยังเดินหน้าต่อ
รศ.ตระกูลกล่าวว่า อัตตาของตนและเป็นห่วงผลประโยชน์ทางการเมือง และเสียหน้าไม่ได้ ยอมหักไม่ยอมงอ นี่คือปัญหา ฉะนั้นหากดันทุรังแบบนี้ พรรคเพื่อไทยแตกแน่นอน โดยเฉพาะกลุ่ม สส.อีสาน อาจถอนตัวหลายกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มที่เขาผิดหวังกับตำแหน่งทางการเมืองที่เขาไม่ได้
กลุ่มเล็ก ๆ ในพรรคที่ไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย อาจฉีกตัวออก เพื่อไทยจะเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า หรือว่าลึก ๆ แล้วเขายังหวังยังลุ้นกับมติของตุลาการศาลฯ อยู่
รศ.ตระกูลกล่าวว่า ผมเองยังมองอยู่ว่า ตุลาการฯ คนใหม่ที่วุฒิสภารับรองมาแล้ว จะได้รับโปรดเกล้าฯ เมื่อไร หากมาทันวันที่ 29 ส.ค. เขาอาจไม่ร่วมลงมติ จะกลายเป็น 4 : 4 หรือ 5 : 3 ปัญหาคือหากเสมอกันที่ 4 : 4 จะวัดอย่างไร
ส่วนการวิ่งเต้นนั้นมีอยู่ แต่ผมเชื่อมั่นต่อตุลาการฯ หลายท่านที่ผมรู้จัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า พูดถึงตุลาการฯ ใหม่ ที่ได้รับการรับรองจากวุฒิสภา คนคงนึกไปถึงการต่อรองระหว่างค่ายแดงและน้ำเงิน
รศ.ตระกูลกล่าวว่า มีเรื่องให้ต่อรองเยอะเลย ทั้งตำแหน่งของผู้บริหารประเทศ คงต่อรองทุกอย่าง มีกระบวนการต่อรองเบื้องหลังเยอะ แต่เรื่องเวลานั้นหากต่อรองได้ ก็คงออกมาในแนวว่าไม่วินิจฉัยคดี เพราะตุลาการฯ ที่มาใหม่ไม่ได้ตามคดีมาแต่ต้น จะมานั่งวินิจฉัยคดีนั้นเขาคงไม่ทำ
ดูการจัดทัพกลไกราชการทั้งหมดก่อน สัปดาห์หน้าน่าจะมีบัญชีโยกย้ายข้าราชการทั้งระบบ การจัดทัพจุดนี้ หากไม่ลาออก อาจตัดสินใจยุบสภาฯ หลังมีการปรับกลไกราชการทั้งหมดแล้ว
แต่ปมปัญหาคือ แม้จะมีมติ ครม.โยกย้ายข้าราชการแล้ว และยังไม่ได้โปรดเกล้าฯ ลงมาแต่เปลี่ยนรัฐบาลก่อน ก็อาจรื้อปรับกันใหม่ได้อีก เพราะระยะเวลาโปรดเกล้าฯ ข้าราชการใหม่มีห้วงเวลาอยู่ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะจัดทัพเพื่อตอบสนองต่ออำนาจทางการเมืองของตัวเอง
หากเขาจะดันนายชัยเกษม นิติสิริ อาจเกิดปรากฏการณ์พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค ต้องฉีกตัวออก เพราะถือว่าพันธะสัญญาเดิมมันหมดไปแล้ว เงื่อนไขจะไม่เหมือนกับช่วงแรก ก่อนที่แพทองธารจะขึ้นมา ช่วงนี้มันมีเงื่อนไขความตกต่ำของรัฐบาล ปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า หากมีการถอนตัวจริง อาจจะได้แรงหนุนจากพรรคประชาชน ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องยุบสภาฯ
รศ.ตระกูลกล่าวว่า แนวทางที่เป็นไปได้จริง ๆ หากรัฐบาลใหม่ไม่ใช่พรรคเพื่อไทย ก็ต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ต้องการเสียงจากพรรคประชาชน และประกาศชัดว่า จะยุบสภาฯ เป็นรัฐบาลในช่วงเวลาสั้น ๆ
เขาคงอยู่ยาวไม่ได้ หากภูมิใจไทยจะขึ้นมาเป็นรัฐบาล เขาต้องประกาศเลยว่า จะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและจะเลือกตั้งภายใน 6 เดือน มันจะช่วยทำให้สถานการณ์ไม่ตกต่ำลงไปอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทักษิณ ชินวัตร จะยอมไหม
รศ.ตระกูลกล่าวว่า โดยสัญชาติญาณการเมืองเขาคงไม่ยอม แต่เขาโดนล้อมทางการเมืองไปทางไหนก็เจอชนักติดหลังหมด ไม่รู้จะแก้ได้มั้ย หรือระเบิดขึ้นมาเมื่อไร
ยามนี้เขาพยายามถอดสลักการเมืองหลายจุดทั้งตัวเองและลูกสาว แม้แต่ภูมิธรรมยังเจอกรณีดีเอสไออยู่บนหมากล้อมการเมือง นาทีนี้เขาแก้ยากมาก
รายงาน : อุรชัย ศรแก้ว ผู้สื่อข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : นักเรียนไทยหวัง "เพื่อนกัมพูชา" กลับมาเรียนหนังสือด้วยกันอีก
"แพทองธาร" ตอบสื่อ "21 วันเกิดพอดี" หลังศาลรัฐธรรมนูญนัดไต่สวนคดีคลิปเสียง