รั้วลวดหนาม และยางรถยนต์จำนวนมากที่ทหารกองกำลังบูรพานำไปวางแสดงแนวกั้นแนวอธิปไตยไทย ที่ชายแดน บ้านโนนหมากมุ่น บ้านหนองจาน อ. โคกสูง จ.สระแก้ว เมื่อหลายวันก่อน สร้างความไม่พอใจให้กับชาวกัมพูชาจำนวนมาก และร้องถามทหารไทย เป็นภาษาเขมรแปลความว่า "เราจะไม่เป็นพี่เป็นน้องกันแล้ว ใช่หรือไม่" พร้อมขอให้รื้อรั้วออกไป คลิปภาพดังกล่าว ถูกแชร์ไปทั่วโลกออนไลน์ ทั้งฝั่งกัมพูชาและไทย
ขณะที่ พล.ท.หญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกลาโหม ประเทศกัมพูชา ออกมาเรียกร้องให้ ทหารไทย รื้อแนวกั้นนี้ออกทันที โดยอ้างว่า ไทยขึงลวดหนามล้ำเขต และเรียกร้องให้ไทยหยุดการกระทำอย่างไม่มีเงื่อนไข และอ้างว่ามีการกระทำที่ผิดสัญญาเจรจาหยุดยิง

พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา
นับจากเกิดเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา บริเวณแนวรบพระวิหารในพื้นที่ 4 จังหวัด สุรินทร์ บุรีรัมย์ ศีรษะเกษ และอุบลราชธานี ตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.ค.2568 แม้จะมีการเจรจาหยุดยิงไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังมีทหารไทยได้รับบาดเจ็บต่อเนื่อง จากการเหยียบ PMN-2 หรือทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ที่ทหารกัมพูชาแอบลักลอบวางไว้ตามแนวชายแดนไม่ว่าจะเป็นบริเวณ ช่องบก, ช่องอานม้า, ปราสาทตาควาย, ปราสาทตาเมือนธม, ภูมะเขือ พื้นที่รอยต่อ "โดนเอาว์-กฤษณา"

กัมพูชาวางทุ่นสังหารบุคคลตามแนวชายแดน
กัมพูชาวางทุ่นสังหารบุคคลตามแนวชายแดน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา ส.อ.ธีรพล เพียรขันที ทหารพรานสังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 2610 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวนบริเวณด้านตะวันตกของปราสาทตาเมือนธมหลังแนวรั้วลวดหนาม ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ในอธิปไตยของไทย ได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาอีก 1 นาย โดยกัมพูชาไม่ได้สนใจว่าการกระทำดังกล่าว จะผิดอนุสัญญาออตตาวาหรือไม่
อ่านข่าว : ทหารพรานเหยียบกับระเบิดขาขาด 1 นาย ลาดตระเวนปราสาทตาเมือนธม

ส.อ.ธีรพล เพียรขันที เหยียบกับระเบิด ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จนสูญเสียขา เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2568
ส.อ.ธีรพล เพียรขันที เหยียบกับระเบิด ใกล้ปราสาทตาเมือนธม จนสูญเสียขา เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2568

PMN 2 ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
PMN 2 ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล
แนวปะทะพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร พ้นจากชายแดนด้านพระวิหารแล้ว ยังมีด้านตะวันออกอีก 3 จังหวัด คือ สระแก้ว จันทบุรี และตราด เส้นเขตแดนส่วนใหญ่ลากยาว ตามแนวสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรักและแนวลำน้ำต่าง ๆ ยังมีพื้นที่ป่ารอยต่อระหว่างไทย-กัมพูชาเป็น"สมรภูมิรบ"สำคัญ
ย้อนหลังไปตั้งแต่ปี 2523 หรือ 45 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งที่บ้านโนนหมากมุ่น บ้านหนองจาน บ้านดอนหลุม บ้านทัพเซียม ต.โคกสูง อ.ตาพระยา อ.อรัญประเทศ ยังเป็นส่วนหนึ่งของ จ.ปราจีนบุรี ก่อนจะแยกมาขึ้นกับ จ.สระแก้ว ในภายหลัง
พื้นที่ "โนนหมากมุ่น" ได้ทิ้งร่องรอยและประวัติศาสตร์การสู้รบระหว่างไทย- เวียดนามไว้มากมาย ในยุคที่ลัทธิคอมมิวนิสต์ แผ่ขยายอิทธิพลครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อกองทัพเวียดนามส่งทหารบุกยึดกรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา และพยายามขยายอิทธิพลเข้ามายังประเทศไทย

พันเอกประจักษ์ สว่างจิตร นำทหาร ร.2 ตอบโต้ทหารเวียดนามที่ยึดบ้านโนนหมากมุ่นเมื่อ ปี 2523 ภาพ : แคน สาริกา can_nw
พันเอกประจักษ์ สว่างจิตร นำทหาร ร.2 ตอบโต้ทหารเวียดนามที่ยึดบ้านโนนหมากมุ่นเมื่อ ปี 2523 ภาพ : แคน สาริกา can_nw
ตามบันทึกระบุไว้ว่า เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2523 ทหารเวียดนาม รุกล้ำอธิปไตยของไทยเข้ามายึดบ้านโนนหมากมุ่น ทาง ทหารไทย สังกัดหน่วยกองพันทหารปืนใหญ่ 201 (ป.พัน.201 ) ในขณะนั้น หรือหน่วยปัจจุบันคือกรมทหารปืนใหญ่ที่ 71 กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 711 (ป.71 .พัน.711)ได้รับคำสั่งจากแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เคลื่อนย้าย 1 กองร้อยปืนใหญ่หนักกระสุนวิถีราบ 20 ขนาด 155 มม. แบบ M71 เข้าที่ตั้งยิงชั่วคราว บริเวณบ้านโคกสว่าง เพื่อทำการยิงต่อต้านปืนใหญ่และสนับสนุนหน่วยดำเนินกลยุทธ์ ร.2 และ ร.31 เพื่อขับไล่กองกำลังเวียดนาม และเขมรเฮงสัมรินให้ออกจากเขตแดนไทย
ขณะนั้นข้าศึกยิงปืนใหญ่เข้ามาในบริเวณบ้านโคกสูงและบ้านลมดิน ทหารไทยจึงโต้ตอบอย่างหนักหน่วง มีการใช้ปืนใหญ่ยิงถล่มพร้อม ๆ กันหลายกองร้อยแบบจู่โจม ทำให้ทหารเวียดนามแตกกระเจิง
ผลจากการตรวจลาดตระเวนทางอากาศ ทำให้ไทยทราบว่าทหารเวียดนามเอารถ ยีเอ็มซี มาขนคนเจ็บคนตายมากถึง 40 คัน ขณะที่ฝ่ายไทยส่งกำลังไปป้องกัน มีทหารเสียชีวิต 18 นาย ถูกจับ 2 นาย หลังจากนั้นจึงตอบโต้ โดยส่งกำลังพลบุกโจมตีกลับ ผลคือ กำลังพลเวียดนาม เสียชีวิต 30 นาย เชลยศึก 2 นาย ถูกไทยชิงตัวกลับ และสามารถยึดบ้านโนนหมากมุ่นกลับคืนมาได้สำเร็จ
เหตุการณ์ในอดีต ถือเป็นบทเรียนสำคัญ ในการตั้งรับและยุทธวิธีทางทหาร

ย้อนเหตุกลับมาเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2568 หลังทหารกองกำลังบูรพาและชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ นำรั้วลวดหนามหีบเพลงไปวางไว้ที่จุดบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เพื่อป้องกันและสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
แม้ว่าชาวกัมพูชาที่อาศัยในหมู่บ้านตรงข้าม เคยเข้ามาใช้พื้นที่บ้านหนองจาน ค้าขาย เข้ามาทำกิน จะแสดงอาการไม่พอใจ บ่นว่า ร้องไห้ โดยใช้ผู้หญิง เด็กและกลุ่มวัยรุ่น กดดันสารพัดวิธี เพื่อขอให้ทหารรื้อรั้วออก เนื่องจากไม่สามารถเข้าไปใช้พื้นที่ในไทยทำประโยชน์ได้

แต่การเจรจาไม่เป็นผล ทหารไทยยืนยันว่า มาตรการดังกล่าว เป็นไปตามภารกิจหลักในการปกป้องอธิปไตย รักษาความมั่นคง และต้องการลดความเสี่ยงจากการลักลอบเข้าเมืองและการกระทำผิดกฎหมายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
จุดผ่านแดนบ้านหนองจานถือเป็นพื้นที่อ่อนไหวสำคัญ เนื่องจากอยู่ใกล้เขตแดนไทย-กัมพูชา ระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตร และมีประวัติการรุกล้ำและการลักลอบข้ามแดนบ่อยครั้ง

ไม่ใช่แค่บ้านโนนหมากมุ่น และบ้านหนองจาน ที่มีการนำรั้วลอดหนามไปไว้ล้อมชายแดนไว้ แต่ปัจจุบัน ทหารในพื้นที่ ยังได้ติดตั้งรั้วลวดหนามเพิ่มเติมในพื้นที่ชายแดนคลองพรหมโหด บ้านคลองลึก ซึ่งอยู่ติดกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ระยะทางประมาณ 9.8 กิโลเมตร ฝั่งตรงข้ามชายแดนด้าน เมืองปอยเปต จ.บันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา และอาจมีการขยายพื้นที่ล้อมรั้วไปยังจุดอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอีกด้วยเช่นกัน
แม้แนวรบด้านตะวันออก พื้นที่ในความรับผิดขอบของกองทัพภาคที่ 1 ยังไม่เกิดเหตุปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา แต่ปัจจุบันทหารมีการเตรียมพร้อมทุกด้าน ทั้งกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์หนัก เบา ตั้งรับตลอดแนวโดยเฉพาะการล้อมรั้วลวดหนามและรั้วหีบเพลง เพื่อป้องกันไม่ให้กัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตแดนไทย
อ่านข่าว
ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล อุปสรรคสำคัญ ทหารไทยลาดตระเวนชายแดน
ไร้ทางรอด-หมดตัวเลือก "อวสาน" เพื่อไทย "แพทองธาร-ชัยเกษม"
“ใครได้-ใครเสีย” ชำแหละ 13 ข้อตกลงหยุดยิง “ไทย-กัมพูชา”
วีรกรรม "นักรบชุดดำ" พรานพิฆาต รักษาอธิปไตย "ชายแดนไทย"
แท็กที่เกี่ยวข้อง:
- สู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา
- ล้อมรั้วหีบเพลง
- รับบริจาครั้วหีบเพลง
- รั้วลวดหนาม
- ล้อมรั้วลวดหนามบ้านโนนหมากมุ่น
- จ.สระแก้ว
- บ้านโนนหมากมุ่น
- บ้านหนองจาน
- สู้รบชายแดน
- ส.อ.ธีรพล เพียรขันที
- ทหารพราน
- กองทัพภาคที่ 1
- ชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ
- PMN-2
- ระเบิดทุ่นสังหาร
- ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
- กัมพูชาโจมตีพลเรือน
- พล.ท.หญิงมาลี โสเจียตา
- ข่าวการเมืองล่าสุด
- ข่าวการเมืองวันนี้
- ข่าวไทยกัมพูชาล่าสุดวันนี้
- เจาะข่าวจริงกับไทยพีบีเอส