วันนี้ (16 ส.ค.2568) การประชุมสุดยอดระหว่าง ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ที่อะแลสกาสิ้นสุดลงโดยไม่มีข้อตกลงที่ชัดเจนเกี่ยวกับยูเครน แม้จะไม่มีข้อตกลงที่เป็นรูปธรรม แต่ทรัมป์ยืนยันว่ามีการสร้างความคืบหน้า ในขณะที่ปูตินกล่าวว่าเขาสนใจอย่างจริงใจที่จะยุติความขัดแย้ง
ทรัมป์ได้โพสต์บน ทรูธ โซเชียล ว่าวิธีที่ดีที่สุดในการยุติสงครามคือ "การไปสู่ข้อตกลงสันติภาพโดยตรง" ซึ่งจะมีความยั่งยืนมากกว่า "การหยุดยิงชั่วคราว" ที่มักจะไม่สามารถคงอยู่ได้นาน
การประกาศของทรัมป์ที่จะข้ามการหยุดยิงเบื้องต้นนี้ ถือเป็นการทำลายความพยายามของเคียฟและประเทศในยุโรป ซึ่งเคยร้องขอให้มีการเจรจา 3 ฝ่ายระหว่างสหรัฐฯ ยูเครน และรัสเซีย พร้อมกับการหยุดยิงเป็นขั้นตอนแรก ทรัมป์ยังยืนยันว่า ปธน.เซเลนสกีของยูเครนจะเดินทางไปพบเขาที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันจันทร์นี้เพื่อหารือเพิ่มเติม (18 ส.ค.2568) และหากทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี ก็จะมีการนัดหมายการประชุมกับปูตินในอนาคต
สอดคล้องกับ เซเลนสกีที่ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับทรัมป์และผู้นำ NATO คนอื่น ๆ อย่างยาวนานและมีความสำคัญ โดยเริ่มจากการพูดคุยแบบตัวต่อตัวเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ผู้นำยุโรปจะเข้าร่วม เซเลนสกีย้ำความสำคัญที่ผู้นำทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ สหรัฐฯ ยูเครน รัสเซีย ควรมีส่วนร่วมในการเจรจารอบต่อไป และความจำเป็นที่ผู้นำยุโรปต้องเข้าร่วม "ทุกขั้นตอน" เพื่อประกันความมั่นคงร่วมกับอเมริกา
ผู้นำยุโรปหลายคน อาทิ ปธน.แอมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และ ปธน.อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ แห่งฟินแลนด์ เห็นพ้องต้องกันว่าจำเป็นต้องรักษาแรงกดดันต่อรัสเซีย จนกว่าจะเกิดสันติภาพที่ยั่งยืน และยังต้อนรับความเปิดกว้างของสหรัฐฯ ในการให้หลักประกันความมั่นคงที่แข็งแกร่งแก่ยูเครน
แถลงการณ์ร่วมจากผู้นำยุโรปหลายประเทศที่ได้พูดคุยกับเซเลนสกีและทรัมป์ รวมถึงประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอิน และ นายกฯ เคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ระบุชัดเจนว่ายูเครนจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับดินแดนของตน และ พรมแดนระหว่างประเทศต้องไม่เปลี่ยนแปลงด้วยกำลัง สตาร์เมอร์ กล่าวชื่นชมความพยายามของทรัมป์ที่นำพาพวกเราเข้าใกล้การยุติสงครามในยูเครนมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
อ่านข่าวอื่น :
"หลวงพ่ออลงกต" ให้ทีมกฎหมายเคลียร์ปมที่ดิน เตรียมแถลง 17 ส.ค.
เปิดเบื้องหลัง ทำไม "อะแลสกา" เป็นจุดนัดพบเจรจา "ทรัมป์-ปูติน"