วันนี้ (17 ส.ค.2568) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งดำเนินการตรวจสอบกรณีที่ดินบริเวณเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ทั้งหมด 5,083 ไร่ หลังได้รับข้อมูลจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยเฉพาะแผนที่เดิมทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว อย่างแผนที่ของการรถไฟ พ.ศ. 2465 (แผนที่แนบท้าย พ.ร.ฎ.) ด้วยอัตราส่วน 1:4,000
จากนั้นทางส่วนแผนที่และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะจัดทำแผนที่จำลองภาพถ่ายดาวเทียมในอัตราส่วนขนาดเดียวกันขึ้นมา เรียกเต็ม ๆ ว่า แผนที่การจัดซื้อที่ดินประกอบพระราชกฤษฎีกามาซ้อนทับกับภูมิประเทศในปัจจุบัน เพื่อใช้เทียบมาตราส่วนกับแผนที่ปัจจุบันซึ่งศาลปกครองได้มีการเสนอไปแล้ว และโฉนดที่กรมที่ดินออกให้ เช่น โฉนดที่ดิน นส.3 หรือแม้กระทั่งบางพื้นที่ที่ยังไม่มีเอกสารหรือการครอบครอง จะได้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงของการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างแท้จริง และจะเห็นว่าขอบเขตของพื้นที่ของการรถไฟฯ เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อจะใช้ลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์
ในวันที่ 19-22 ส.ค.2568 ในการเข้าพบเจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ของการรถไฟฯ เพื่อขอข้อมูล กับสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานจังหวัดบุรีรัมย์ ส่วนคนกลุ่มใดเป็นผู้ถือ ครอบครองพื้นที่ของการรถไฟฯ มากที่สุด หรือในสัดส่วนอย่างไรนั้น จะต้องตรวจสอบกับสำนักงานที่ดินจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจะมีข้อมูลในสารบบที่ดิน จำนวน 995 แปลง โดยภายในช่วงสิ้นเดือน ส.ค. ดีเอสไอได้เตรียมนำเรื่องเสนออธิบดีฯ เพื่อรับเป็นคดีพิเศษ
ขณะเดียวกันผู้เชี่ยวชาญภายในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นที่ฝ่ายกฎหมายของนายเนวิน ชิดชอบได้ออกมาชี้แจงก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า ศาลฎีกาได้มีการระบุว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แต่สิ่งที่จะชัดเจนที่สุด คือ คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ซึ่งได้มีคำวินิจฉัยถึงที่สุดแล้วว่า ที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของรัฐ และเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นที่ดินของการรถไฟที่มีไว้ใช้เพื่อราชการตาม พ.ร.บ.จัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 นอกจากนี้ ในข้อเท็จจริงเมื่อปี 2567 กรมที่ดินและการรถไฟฯ ได้มีการรังวัดร่วมกันโดยใช้ GPS ซึ่งส่วนนี้สำคัญที่สุดที่จะใช้ยืนยันแนวเขตการรถไฟได้
อ่านข่าว :
รฟท.เดินหน้าตามกรอบกฎหมาย หลัง มท.ไฟเขียวเพิกถอนโฉนด "เขากระโดง"