ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไขความโปร่งใส “เงินวัด” สตง.แนะจัดระเบียบ แยกให้ชัด “บัญชีวัด-บัญชีพระ”

สังคม
18:31
46
ไขความโปร่งใส “เงินวัด” สตง.แนะจัดระเบียบ แยกให้ชัด “บัญชีวัด-บัญชีพระ”
ในยุคที่สังคมให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและตรวจสอบได้ องค์กรศาสนาอย่าง “วัด” ก็ต้องปรับตัวให้ทันสมัยเช่นกัน เพื่อฟื้นฟูและรักษาศรัทธาของประชาชนสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)

 จึงร่วมกับ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดโครงการ “ถวายความรู้เรื่องการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และการจัดการทรัพย์สินของวัด” เพื่อวางรากฐานให้วัดเป็น “วัดต้นแบบธรรมาภิบาล” ที่มีความโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่กำลังได้รับความสนใจจากประชาชนในปัจจุบัน

จัดระเบียบเงินวัด-มีเกิน 1 แสนต้องฝากธนาคาร

นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการ สตง. กล่าวว่า พระสังฆาธิการมีหน้าที่ในการบริหารจัดการทรัพย์สินของวัด แต่ปัญหาที่พบคือ หลายวัดยังขาดระบบการจัดการที่ดี ทำให้เกิดข้อกังวลและอาจนำไปสู่การทุจริต ซึ่งส่งผลกระทบต่อความศรัทธาของประชาชน

นอกจากนี้ยังเปิดช่องให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาหาผลประโยชน์ จากการขาดความเข้าใจเรื่องการจัดการทรัพย์สินอย่างเป็นระบบ

การจัดทำบัญชีให้โปร่งใส คือการแยกประเภทของเงินที่เข้ามา เช่น เงินผลประโยชน์ เงินค่าเช่า เงินค่าผาติกรรม ที่งอกเงยมาจากผลประโยชน์ของวัด เมื่อรับมาต้องออกเป็นใบเสร็จรับเงินตามที่สำนักพระพุทธศาสนากำหนด หากเกิน 1 แสนบาท ต้องฝากธนาคารตามที่กำหนด

เงินการกุศล เช่น ค่ากฐิน ค่าผ้าป่า เงินที่มีผู้บริจาคเจาะจง เพื่อกิจการใดกิจการหนึ่งภายในวัด เมื่อได้รับมา ต้องออกใบอนุโมทนาบัตร ฝากธนาคารในนามวัด และต้องนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ และเงินส่วนตัวของเจ้าอาวาส เช่น เงินปัจจัย เงินที่ถวายโดยระบุเฉพาะเจาะจงเพื่อให้ใช้ในการส่วนตัว

แยกให้ชัด “บัญชีวัด-บัญชีพระ”

นอกจากนี้ ยังมีเงินอุดหนุนจากการศึกษาพระปริยัติธรรม สตง.มีข้อสังเกตว่า เป็นเงินอุดหนุนเฉพาะ เมื่อโอนเข้าวัด เงินทุกบาทต้องใช้เพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมเท่านั้น มิฉะนั้นถือว่าดำเนินการผิดประเภท ไม่สามารถใช้เงินได้

บัญชีวัดต้องเป็นบัญชีวัด หากเบิกจ่ายโดยเจ้าอาวาส ถือว่าเป็นบัญชีเจ้าอาวาส ไม่ใช่บัญชีของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง และเงินการกุศลที่เป็นประเด็นมากที่สุด หลายวัดเข้าใจว่าเงินการกุศลเจ้าอาวาสใช้จ่ายได้ เป็นความเข้าใจที่ผิด เช่น เงินกฐิน เงินผ้าป่า เงินเพื่อบริหารเฉพาะเจาะจงกิจการใดอย่างหนึ่งภายในวัด

นายมณเฑียร ยังมีข้อเสนอนโยบายให้กำหนดคู่มือบัญชีวัดระดับชาติโดยแบ่งออกเป็น 3 เล่ม วัดใหญ่ วัดกลางและวัดขนาดเล็ก รวมถึงจัดอบรมพระ เพื่อให้เข้าใจระบบรายรับรายจ่ายและการจัดการทรัพย์สินของวัดและการตรวจสอบโดยมีระบบติดตามกลาง เช่น การส่งข้อมูลรายรับรายจ่ายผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของสำนักงานพระพุทธศาสนา

นอกจากนี้ยังควรมีมาตรฐานขั้นต่ำในการรับจ่ายเงินของวัดขนาดกลางขึ้นไป โดยจะต้องมีบัญชีวัดแยกจากบัญชีส่วนตัวของเจ้าอาวาส และต้องปฏิบัติตามมติของมหาเถรสมาคม มีหลักฐานเอกสารทุกครั้งที่รับจ่ายเงิน เป็นใบเสร็จใบนำฝาก ผ่านมติกรรมการของวัด มีการบันทึกรายรับรายจ่ายอย่างน้อยเป็นรายเดือน รวมถึงมีการแต่งตั้งคณะกรรมการวัดให้มีส่วนร่วมตรวจสอบและอนุมัติ

แนะพระเก็บเงินให้ถูกพระธรรมวินัย

ด้าน พระศรีวัชรสารบัณฑิต คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาการใช้จ่ายงบประมาณของวัด ยังไม่เป็นระบบเท่าที่ควร เนื่องจากเจ้าอาวาสมีกิจมาก และพระบางรูปยังขาดความรู้ด้านบัญชี การอบรมครั้งนี้จึงมีเป้าหมายให้พระสงฆ์มีความรู้ความเข้าใจในเทคนิคการบริหารเงินวัดให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัยและกฎหมายบ้านเมือง

อ่านข่าว : สรรพากร ส่งหนังสือด่วนถึงสำนักพุทธฯ บริจาควัดต้องผ่าน e-Donation เริ่ม 1 ม.ค.69

ถ้าพระสังฆาธิการที่เข้ารับการอบรม รู้เทคนิควิธีในการจัดทำงบประมาณ รู้เทคนิควิธีในการเก็บเงินของวัดอย่างไร ให้ถูกต้องตามพระธรรมวินัย และที่สำคัญให้ถูกต้องตามกฎหมายของบ้านเมืองด้วย ก็จะทำให้การใช้จ่ายงบประมาณของวัดเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

จะไม่มีการทุจริตจะไม่มีการข้อครหามาก เพราะฉะนั้นพระสังฆาธิการที่เข้าอบรมวันนี้ต้องเก็บรายละเอียด แล้วก็นำความรู้เหล่านี้ ประสบการณ์เหล่านี้ ไปใช้ในการจัดทำบัญชีของวัดก็จะเป็นประโยชน์กับวัดมาก

เรื่องของบัญชีวัดกับบัญชีส่วนตัว แม้แต่เราพระสงฆ์เอง เราก็พูดกันมานานว่า กลัวจะโดนตรวจสอบในเรื่องของบัญชีของพระสงฆ์ ที่เป็นบัญชีส่วนตัวด้วย บัญชีที่เป็นของวัด ก็ถูกตรวจสอบ โดยสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นประจำอยู่แล้ว แต่การอบรมในวันนี้เราจะได้ทราบว่า บัญชีที่เป็นส่วนตัวกับบัญชีของวัดเราควรจะแยกกันอย่างไร

ปัจจัยที่ฆราวาส ญาติโยมมาทำบุญถวาย เราเรียกว่า ปัจจัยที่มีวัตถุประสงค์ โยมบางท่าน มาถวายปัจจัย ก็อาจจะกล่าวว่า ถวายเป็นปัจจัยส่วนตัว บางท่านอาจจะถวายเขียนหน้าซองก็ได้ว่า ทำบุญค่าน้ำ ค่าไฟ โยมบางท่านก็ไม่เขียนหน้าซอง แต่หยอดในตู้รับบริจาค ปัจจัยที่อยู่ในตู้บริจาค ถือว่าเป็นเงินของวัด เพราะฉะนั้นก็ต้องเข้าบัญชีของวัด อันนี้เรียกว่าบัญชีที่โยมถวายตามวัตถุประสงค์ ซึ่งโยมก็จะพูดชัดเจนว่าอันนี้ถวายปัจจัยส่วนตัวเหล่านี้ ก็จะไม่เกิดปัญหา

แยกบัญชีชัดเจน สร้างความเชื่อมั่น

นางกุลิสราพ์ บุญทับ รองผู้ว่าการ สตง. กล่าวถึงหลักการสำคัญคือ การแยกประเภทเงินให้ชัดเจน เพื่อให้การทำบัญชีถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของการรับเงิน ได้แก่ เงินผลประโยชน์ เช่น ค่าเช่าที่ดิน หรือรายได้จากการค้าขาย ควรออกเป็นใบเสร็จรับเงิน และต้องฝากเข้าบัญชีวัด หากมีเงินเกิน 1 แสนบาท

เงินการกุศล เช่น เงินกฐิน ผ้าป่า หรือเงินบริจาคเพื่อกิจการเฉพาะ ต้องออกใบอนุโมทนาบัตร และต้องนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์ที่ผู้บริจาคระบุไว้เท่านั้น

เงินส่วนตัวของเจ้าอาวาส คือ เงินปัจจัยที่ได้รับถวายเป็นการส่วนตัว ไม่สามารถนำไปใช้ปะปนกับเงินของวัดได้

นอกจากนี้ การใช้ระบบ QR Code หรือบัญชีธนาคารเพื่อรับบริจาค ควรเป็นชื่อบัญชีของวัดเท่านั้น หากเป็นชื่อพระรูปใดรูปหนึ่งถือว่าผิดระเบียบ และหากมีการรับบริจาคเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ เช่น การสร้างพระอุโบสถ ควรแยกบัญชีจากเงินส่วนกลาง เพื่อป้องกันการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์

ปัญหาใบอนุโมทนาบัตรไม่ตรงวัตถุประสงค์ เช่น หากเปิดร้านกาแฟ ได้ค่าเช่า ถือว่าเป็นเงินผลประโยชน์ วัดต้องออกใบเสร็จ การใช้อาคารสถานที่ื บางวัดกลับออกใบอนุโมทนาบัตรมาให้ ซึ่งผิด เพราะเอกชนจ่ายเงินให้วัด หากเป็นใบอนุโมทนาบัตรเอกชนสามารถเอาไปลดหย่อนภาษี ทำให้จัดเก็บภาษีน้อยกว่าควรจะเป็น

นอกจากนี้ การรับเงินทุกครั้งควรมีใบเสร็จ ส่วนรายจ่ายก็ควรมีเอกสารจากผู้ค้าเพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี และการทำสัญญาจ้างในวัดต่างจังหวัด ควรทำเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต ขณะเดียวกันวัดสามารถทำให้ระบบเงินของวัดโปร่งใสได้ หากสามารถอธิบายเงิน รายรับ รายจ่าย เงินผลประโยชน์ของวัด โดยเผยแพร่ในเว็บไซต์วัด ติดบอร์ดหน้าวัด

“โครงการถวายความรู้เรื่องการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย และการจัดการทรัพย์สินของวัด” จึงไม่เพียงแค่เป็นการให้ความรู้ด้านการเงินเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานให้ “วัดเป็นแหล่งรวมศรัทธาของประชาชน” ที่มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล และสามารถตรวจสอบได้จริง เพื่อนำพาหลักพุทธธรรมมาพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

รายงาน : วิภูษา สุขมาก ผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ไทยพีบีเอส

อ่านข่าว : "สุชาติ" ลงพื้นที่ตรวจ "วัดพระบาทน้ำพุ" 19 ส.ค.นี้ สอบเงินวัด-มูลนิธิ

"ณัฐพล"​ ลั่นไม่รื้อรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน​ เมินมวลชนกัมพูชากดดัน